กทม.เตรียมเสนอรัฐบาลของบ 1หมื่นล้านรื้อบ้านรุกคลอง-สร้างเขื่อนให้ครบอีก 8คลองหลัก ตามโมเดลคลองลาดพร้าว“ประยุทธ์” ไฟเขียวเจาะอุโมงค์ยักษ์- แก้มลิงเพิ่ม
นายศิริชัย จงตระกูล ผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบหลัก สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร เปิดเผย”ฐานเศรษฐกิจ”ว่า กทม.เร่งพัฒนาระบบป้องกันน้ำท่วมระยะสั้นและระยะยาว และจากการตรวจเยี่ยมของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีเมื่อไม่นานมานี้ เห็นชอบให้กทม. ก่อสร้างอุโมงค์ยักษ์เพิ่มอีก 3 แห่ง ตามแผนที่ศึกษา ประกอบด้วยโครงการงอุโมงค์บริเวณคลองทวีวัฒนา จากบริเวณคอขวดถนนเพชรเกษม 69 ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3.7เมตร งบประมาณ 2,274 ล้านบาท โครงการอุโมงค์คลองเปรมประชากรใต้บริเวณเขตดอนเมือง-หลักสี่เส้นผ่าศูนย์กลาง 5.7เมตรงบ 7,300 ล้านบาท ระบายน้ำได้ 60 ลูกบาร์ศเมตรต่อวินาที อุโมงค์บริเวณคลองพระยาราชมนตรีบริเวณถนนเพชรเกษมลงคลองสนามไชย ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5เมตร งบ 4,580 ล้านบาท ระบายน้ำ 48ลูกบาร์ศเมตรต่อวินาทีคาดเสนอของบประมาณปี 2562 ทั้งนี้ทั้ง 3อุโมงค์ใหม่ ไม่กระทบต่อการเวนคืน ขณะที่องค์โมงค์ยักษ์บางซื่อ ขณะนี้การก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จและทบสอบระบบได้เดือนสิงหาคม 2560 นี้สามารถรับน้ำจากเขตบางซื่อ พญาไท ดินแดงห้วยขวาง เป็นต้น
ขณะที่อุโมงค์เล็กขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.80-2 เมตร 11 จุด งบประมาณ 2,200 ล้านบาทซึ่งเป็นงบประมาณปี 2560 แก้ปัญหาจุดอ่อน ในพื้นที่ ได้แก่ อุโมงค์ สุขุมวิท 4 ,สุขุมวิท 14 ,สุขุมวิท21 ,สุขุมวิท 31 , สุขุมวิท 63 (เอกมัย) ,ถนนทรงสวัสดิ์,ถนนเยาวราช,ถนนเจริญกรุง, ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ซอย 17, ถนนสวนพลู, ถนนศรีอยุธยา ถนนพหลโยธิน 6 ,พหลโยธินบริเวณแยกเกษตรศาตร์ ทั้งนี้ จะสามารถระบายน้ำได้ ครึ่งชั่วโมงหาก ฝนตก ติดต่อกัน 60 มิลลิเมตร นอกจากนี้ ยังมีแผนก่อสร้าง6บึงหรือแก้มลิงระบายน้ำ โซนตะวันออกกทม. ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรับฟังความคิดเห็นประชาชน
ขณะที่ แหล่งข่าวกทม. เสริมว่า นอกจากระบบอุโมงค์แล้ว ยังทำแผนของบประมาณต่อรัฐบาล วงเงิน 10,000 ล้านบาทปีงบประมาณ 2562 -2568 สร้างเขื่อนแนวคลองสายหลักให้ครบอีก 8 คลองที่เหลือ นอกจากคลองลาดพร้าวที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ประกอบด้วย คลองเปรมประชากร คลองบางซื่อ คลองสองต้นนุ่น คลองพระโขนง คลองประเวศ คลองสามวา คลองพญาราชพงษ์ และคลองลาดบัวขาว ซึ่งสำรวจพบว่ามีบ้านสร้างรุกคลองรวมกว่า1.5 หมื่นหลังคาเรือนรวมคลองลาดพร้าวด้วย ทั้งนี้ คลองลาดพร้าว และคลองเปรมมากสุด รวม 11,858หลัง ส่วนที่เหลืออีก 4,000 หลังคาเรือน กระจายไปตามคลองต่างๆ อย่างไรก็ดี กทม.จะยกเว้นให้ ประชาชนอยู่หลังแนวเขื่อนต่อได้ คือ คลองลาดพร้าวและคลองเปรมประชากรส่วนคลองอื่นห้ามอยู่อาศัยเด็ดขาด
ที่ผ่านมาบ้านรุกคลองเป็นตัวการกีดขวางทางน้ำ ขณะเดียวกัน ยังทิ้งขยะสิ่งปฏิกูลลงคลองทำให้น้ำตื่นเขิน หากรื้อย้ายออกทั้งหมด กทม.จะดำเนินการขุด-ขยายคลองเพิ่มแก้ปัญหาตื่นเขิน เช่นคลองลาดพร้าว จากความลึกเพียง2เมตรจะขุดเพิ่ม ให้มีความลึก 4เมตรเพิ่มขีดความสามารถระบายน้ำได้ 40 ลูกบาร์ศเมตรต่อวินาที ขณะปัจจุบันระบายได้เพียง 15ลูกบาร์ศเมตรต่อวินาที
นอกจากนี้ ต้องขยายคลองเพิ่ม มาตรฐาน กว้าง 38 เมตร เท่ากับคลองลาดพร้าว เพื่อความคล่องตัวต่อการระบายน้ำ ลงโมงศ์ยักษ์และแม่น้ำเจ้าพระยาต่อไป
สำหรับความคืบหน้าของคลองลาดพร้าว รัฐบาลกำหนดให้เป็นคลองต้นแบบ ขณะนี้ อยู่ระหว่างทยอยรื้อย้ายชุมชนที่ตกลงใจหาที่อยู่ใหม่ คือบ้านมั่นคง ของ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน) หรือพอช. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) แต่ ยังติดปัญหา ประชาชนไม่ให้ความร่วมมือจำนวน 10% ของบ้านที่บุกรุกทั้งหมดกว่า 7,000 หลังคาเรือน คาดว่า ปลายปีนี้จะเจรจาจบ และตอกเสาเข็มสร้างเขื่อนได้ตลอดแนว ตั้งแต่ รัชดา-ลาดพร้าว ไปจนถึงประตูน้ำพระราม9 คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2563 ส่วนคลองเปรมประชากร อยู่ระหว่างสำรวจและทำความเข้าใจกับชาวบ้าน คาดว่าปี 2561 จะเริ่มรื้อย้ายหากได้รับจัดสรรงบประมาณเพื่อสร้างเขื่อน กว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งแนวคลองเริ่มจากบริเวณวัดสเมียนนารีไปจนสุดเขตดอนเมืองบริเวณหมู่ แกรนด์คาแนล
ที่มา : thansettakij