“จรินทร์ พงษ์เย็น” ธุรกิจจะยืนยาวสำคัญที่จริงใจ
HBG ฉบับนี้มีโอกาสได้พูดคุยกับคุณจรินทร์ พงษ์เย็น ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายโครงการบ้าน 11 บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ผู้มากด้วยประสบการณ์และความสามารถ คร่ำหวอดอยู่ในวงการอสังหาริมทรัพย์มากว่า 30 ปี จากจุดเริ่มต้นผ่านพ้นอุปสรรคและปัญหานานัปการ จนก้าวข้ามมาถึงวันนี้ด้วยสิ่งหนึ่งที่ตัวเองเรียกว่า “ความจริงใจ”
คุณจรินทร์เป็นคนสันโดษ รักการทำงานเป็นชีวิตจิตใจ พื้นเพเป็นคนเชียงใหม่ จบปริญญาตรีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา และคณะบริหารงานก่อสร้างมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช จากนั้นเรียนปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยระหว่างเรียนก็ทำงานควบคู่ไปด้วย กระทั่งประมาณปี 2527 เริ่มทำงานตำแหน่งสถาปนิกกับควอลิตี้ เฮ้าส์ ในเขตภาคเหนือกระทั่งปี 2532 ควอลิตี้ เฮ้าส์ ก็ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
คุณจรินทร์เข้ามาเป็นผู้จัดการภาคของบริษัท ควอลิตี้เฮาส์ จำกัด (มหาชน) ประเดิมโครงการแรกกับ “บ้านลัดดารมย์ สันผีเสื้อ” จากนั้นได้พัฒนาอีกหลายโครงการทั้งรูปแบบบ้านเดี่ยว, คอนโดมิเนียม และทาวน์โฮมให้ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภค
“การเลือกทำเลในการทำโครงการจะดูความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก มีข้อมูลรอบด้าน เช่น กลุ่มลูกค้าเป็นใคร ต้องการอะไร อยู่ที่ไหน ต้องการอะไรบ้าง เราจะตอบโจทย์อะไรได้บ้าง กำลังซื้อของมีเท่าไหร่ การตั้งราคาก็จะเกิดขึ้นตามสิ่งที่ลูกค้าต้องการในโซนหรือทำเลนั้นๆ สิ่งเหล่านี้เกี่ยวกับการเลือกหาทำเลที่จะมาพัฒนาให้สอดคล้องกับสินค้าที่เราจะสร้างให้กับลูกค้านั่นเอง” คุณจรินทร์กล่าว
ข้อสำคัญก่อนตัดสินใจจะพัฒนาโครงการใดก็ตาม สิ่งแรกที่เราต้องรู้คือความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะควอลิตี้ เฮ้าส์ ที่มีการเก็บฐานข้อมูลและความต้องการของลูกค้าจากหลายๆ ส่วน ภายใต้แนวคิดที่ว่า “การพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง” เนื่องจากพฤติกรรม, ไลฟ์สไตล์ และความต้องการของคนมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ดังนั้นการพัฒนาจึงไม่ควรหยุดยั้งและต้องไม่เป็นไปตามกระแส
คุณจรินทร์กล่าวต่ออีกว่า การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเชียงใหม่หากตามกระแสอาจส่งผลให้บางทำเลหรือบางสินค้ามีจุดบอดได้ โดยเฉพาะตลาดที่เก็งกำไรมีโอกาสเกิดโอเวอร์ซัพพลายได้ง่ายมาก ดังนั้นอาจต้องมีมาตรการในการป้องกัน เช่น การวางเงินดาวน์ที่มากขึ้น เพื่อเป็นการคัดกรองกลุ่มผู้ซื้ออันดับแรก เพราะการทำสินค้าโดยเฉพาะที่อยู่อาศัยควรจะขายให้กับผู้ที่อยู่อาศัยจริงหรือลงทุนจริงมากกว่าขายเพื่อเกิดการเก็งกำไร
ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นชัดเจนตั้งแต่ครั้งคุณจรินทร์เริ่มเข้าสู่แวดวงอสังหาริมทรัพย์ในเชียงใหม่ คือราคาที่ดินที่สูงขึ้นจนน่าเป็นห่วง ซึ่งหมายถึงราคาต้นทุนที่สูงขึ้น ประกอบกับ พ.ร.บ.ผังเมืองรวมเชียงใหม่ที่มีข้อจำกัดในการควบคุมการก่อสร้าง ในขณะที่ราคาที่ดินสูงขึ้น ทั้งแปลงที่สามารถสร้างได้และสร้างไม่ได้แห่กันขึ้นราคาจนอาจทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถพัฒนาที่ดินที่มีราคาสูงได้ ซึ่งไม่สอดคล้องกับการพัฒนาเมือง
อยู่ในวงการอสังหาริมทรัพย์มากว่า 30 ปี คุณจรินทร์ได้ผ่านช่วงวิกฤติมามากมาย สิ่งหนึ่งที่ทำให้เขายืนหยัดและสามารถพัฒนาโครงการต่างๆ ของควอลิตี้ เฮ้าส์ให้เติบโตขึ้นได้นั้นก็คือความจริงใจ
“กว่า 30 ปีที่ผมทำอาชีพนี้ก็ด้วยใจรัก สิ่งที่ผมพึงทำตลอดมาคือความจริงใจ ถ้าเราทำอะไรด้วยความจริงใจ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการหรือสิ่งที่เราคิดจะทำก็จะออกมาดี ผมคิดว่าการขายบ้านหรือทำเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์มันไม่ใช่การขายแล้วจบไป แต่ต้องดูแลเขาให้ดีที่สุดตั้งแต่ก่อนขาย กระทั่งเข้าอยู่บ้านแล้วก็ยังต้องดูแล แม้แต่การดูแลทีมงานก็ดูแลกันเหมือนคนในครอบครัว เราเป็นพี่ใหญ่ที่ต้องดูแลน้องๆ เป็นธรรมดาที่จะต้องมีการอบรมสอนงานกันบ้างและต้องเอาใจใส่เขา ถึงเขาจะออกงานจากเราไปแล้วก็ยังเป็นพี่เป็นน้องกันเหมือนเดิม” คุณจรินทร์กล่าว
ด้วยบุคลิกที่นิ่งและสุขุมของผู้บริหารท่านนี้ แท้จริงเป็นคนรักสันโดษ เก็บตัวแต่ทำงานหนัก โชคดีที่มีครอบครัวที่น่ารักและเข้าใจ ส่วนลูกทั้งสองก็เข้าสู่วัยทำงานแล้ว แม้ต่างคนต่างมีหน้าที่ของตัวเอง แต่ในหนึ่งสัปดาห์ก็จะหาเวลาอยู่ร่วมกันเสมอ สำหรับอนาคตนั้นไม่ได้ตีกรอบให้กับลูกๆ ว่าจะต้องสานต่อในสิ่งที่ตนทำ แต่ให้เขาได้ทำในสิ่งที่ชอบและอยากทำนั้นดีที่สุด
การทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์สิ่งที่สำคัญคือการเข้าใจความต้องการของลูกค้า และผลิตออกมาได้ตรงใจมากที่สุดต้อง ไม่ตามกระแส แต่สิ่งสำคัญที่ทำให้ทุกธุรกิจยั่งยืนคือ “ความจริงใจ” และการดูแลเอาใจใส่อย่างดีที่สุด เช่น คุณจรินทร์ พงษ์เย็น ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายโครงการบ้าน 11 บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ที่ได้มอบให้แก่ลูกค้าและทีมงานตลอดมาและตลอดไป...