ห้องของเล่น เปรียบเสมือนมุมส่วนตัวของลูกน้อย เด็กสามารถรื้อของเล่น ขีดเขียนเติมแต่งจินตนาการได้ตามช่วงวัย พ่อแม่จึงต้องมีการจัดห้องที่ช่วยเสริมพัฒนาการและเสริมสร้างการเรียนรู้ของเด็ก ๆ ให้เหมาะสม ทาง Baania จึงมีวิธีการจัดห้องของเล่นสำหรับลูกน้อยมาฝากทุกท่าน
สิ่งที่ควรคำนึงถึงสำหรับห้องของเล่นเด็ก สิ่งสำคัญ คือ ความเหมาะสมและความปลอดภัย ประโยชน์ที่เด็กจะได้รับจากการเข้าเล่นให้ห้อง ดังนี้
ก่อนอื่นต้องทราบว่าจุดประสงค์ที่จะทำห้องให้เด็กเพื่ออะไร เพราะจะทำให้ง่ายต่อการออกแบบ และวางแผนในการจัดทำ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ การเลือกเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ
ห้องของเล่นสำหรับเด็กควรมีมุมทั้งสองมุม คือ มุมสำหรับเล่น โดยการตกแต่งมุมนี้ด้วยของเล่น ตัวการ์ตูน ส่วนมุมสำหรับการเรียนรู้ อาจจะตกแต่งด้วยกระดานบ้านไม้ โต๊ะสำหรับนั่งเขียน ชั้นวางหนังสือการ์ตูน เพื่อให้เด็กรับบรรยากาศ เป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าโรงเรียน
การทำห้อง สิ่งสำคัญคือความปลอดภัย เพราะบางครั้งพ่อแม่อาจมีความจำเป็นต้องปล่อยเด็ก ๆ เล่นอยู่ในห้องตามลำพัง เพราะฉะนั้น ไม่ควรมีชั้นวางที่สูง เสี่ยงต่อการตกลงมา
ไฟภายในห้องไม่ควรมากหรือน้อยจนเกินไป แสงไฟต้องเป็นแสงที่นุ่มนวล ไม่แสบตา และไม่ควรใช้แสงสีขาวมากเกินไป หากเป็นช่วงกลางวัน เน้นใช้แสงจากธรรมชาติจะดีมาก
ตัวอย่างหลอดไฟที่ควรใช้ เช่น หลอดไฟแสงแบบ Continuous Spectrum แสงเหมือนแสงอาทิตย์ ซึ่งช่วยถนอมสายตาเด็ก และจุดปลั๊กไฟต่าง ๆ ภายในห้องควรมีที่ครอบเพื่อป้องกันเด็กไปเล่น เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายได้
อุปกรณ์สำหรับห้องของเล่นเด็ก ที่ควรมีเพราะจะช่วยให้ห้องของเล่นสมบูรณ์และทำให้ลูกน้อย อยากที่จะเข้ามาเล่นมากขึ้น ดังนี้
1. อุปกรณ์ตกแต่งห้อง ได้แก่ วอลล์เปเปอร์ ของตกแต่งน่ารัก ๆ ตุ๊กตา เฟอร์นิเจอร์รูปทรงต่าง ๆ
2. ชั้นวางหนังสือและของเล่น ภายในห้องควรมีชั้นสำหรับเก็บของเล่น และหนังสือนิทาน เพื่อให้ง่ายต่อการเก็บทำความสะอาด และจัดหมวดหมู่ให้ง่ายต่อการหยิบใช้ของลูกน้อย
3. กระดาน กระดานสำหรับขีดเขียน สามารถใช้แบบกระดานไม้ หรือแบบไวท์บอร์ด เพื่อให้ลูกได้ฝึกวาดเขียนตามจิตนาการ หรือยังสามารถใช้งานได้จนถึงช่วงวัยที่เข้าโรงเรียน โดยท่านสามารถสอนการบ้านผ่านกระดานได้
4. ของเล่นเสริมการเรียนรู้ นอกจากของเล่นที่เด็ก ๆ ชอบแล้ว พ่อแม่ควรหาของเล่นที่ช่วยเสริมการเรียนรู้ที่ให้ความน่าสนใจ สนุกสนานเข้าไปด้วย เช่น ของเล่นที่มีเสียงคำศัพท์ เป็นต้น
5. พรมหรือเบาะรองพื้น เพราะลูกน้อยมักจะชอบเล่นแบบนั่งพื้นหรือนอนเล่นซนตามช่วงวัยของเด็ก เพราะฉะนั้น ในพื้นที่เล่นควรมีเบาะหรือพรมที่นิ่มรองพื้นเพื่อความปลอดภัย
การตกแต่งห้องเด็ก สามารถทำได้หลายรูปแบบ เพราะเป็นไอเดียที่ไม่มีขีดจำกัด สำหรับพ่อแม่ที่จะเสริมสร้างห้องของเล่นสำหรับลูกน้อย ต้องคำนึงถึงสิ่งสำคัญและสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการตกแต่งห้องเด็ก ดังนี้
การตกแต่งห้องของเล่นสำหรับลูกน้อย การใช้สีโทนอ่อนที่ให้ความเป็นธรรมชาติ ไม่ฉูดฉาดจนเกินไป จะช่วยให้เด็กมีสมาธิและเกิดการเรียนรู้อย่างอิสระภายในห้องนั้น เพราะสีห้องที่ดูสบายตา จะไม่ดึงสายตาหรือความสนใจไปจากของเล่น หรือขณะกำลังเรียนรู้ โทนสีที่ควรใช้ เช่น สีชมพู ฟ้า เหลือง เขียว หรือม่วงที่มีโทนอ่อนหรือสีพาสเทล อาจจะมีลวดลายหรือตัวการ์ตูนที่เด็ก ๆ ชอบ แต่ไม่ควรมากเกินไป
การตกแต่งด้วยลวดลาย หรือตัวการ์ตูนที่เด็ก ๆ ชอบจะช่วยให้เด็กมีความสนใจและอยากที่จะเข้าไปเล่นให้ห้องของเล่น เพราะพวกเขาได้ใช้จิตนาการไปกับสิ่งเหล่านี้ เช่น ตัวการ์ตูนเครื่องบิน เจ้าหญิง หรือสัตว์ต่างๆ แต่การตกแต่งไม่ควรมากเกินไป อาจจะมีสักมุมติดผนัง หรือหาพรมรูปการ์ตูนมาตกแต่งเพิ่มก็ได้
ท่านสามารถนำวอลล์เปเปอร์ที่ช่วยเสริมพัฒนาการด้านการเรียนรู้ มาติดที่ผนังห้อง เช่น รูปเลขาคณิต อักษรภาษาอังกฤษ A-Z หรือพยัญชนะไทย เพื่อให้เด็กเกิดการสังเกตเห็นอยู่เป็นประจำ หรือเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับเข้าโรงเรียน นอกจากนี้ วอลล์เปเปอร์สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามช่วงอายุของเด็กอีกด้วย
การนำเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นธรรมชาติ หรือไม้ จะช่วยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นแก่เด็ก ให้ความรู้สึกปลอดภัย และถนอมสายตามากกว่าเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นปูน อิฐ หรือสแตนเลส เพราะฉะนั้น ห้องของเล่นจึงควรเน้นการใช้ไม้เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นบ้านเด็กเล่นโครงไม้ โต๊ะไม้ เก้าอี้ไม้ ชั้นวางของที่เป็นชั้นไม้ผสมกับพลาสติก เบาะผ้าหรือเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่ทำให้เด็กเกิดอันตราย เป็นต้น
เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ของห้องเล่นสำหรับเด็ก เพราะเป็นจุดที่เสริมสร้างจิตนาการ และกระบวนการเรียนรู้ หากไม่มีกระดาน ลูก ๆ อาจจะขีดเขียนที่ผนังบ้านแทนจนเกิดปัญหาผนังบ้านเลอะเทอะ สำหรับตัวกระดานอาจทำให้ดูน่าสนใจมากขึ้น เช่น ทำเป็นรูปบ้าน หรือรูปตัวการ์ตูนต่าง ๆ
ห้องของเล่นสำหรับลูกน้อย ควรมีการจัดห้องให้เหมาะสมต่อการเสริมพัฒนาการ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ควรคำนึงในการทำห้อง โดยเฉพาะความปลอดภัย และอุปกรณ์ ควรมีทั้งให้ลูกน้อยได้เล่นสนุก ช่วยเสริมพัฒนาการด้านการเรียนรู้ และสำหรับช่วยในการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าโรงเรียน