Baania ขอนำเสนอข้อมูลสถานการณ์ฝั่งอุปสงค์ ในแง่ของยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย ในภาคอีสาน พบว่ามียอดโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมด 17,309 ยูนิต และ จังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดที่มีสัดส่วนมากที่สุดถึง 35% ของทั้งหมด
ปี 2559 จังหวัดนครราชสีมา มียอดโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย จำนวน 6,171 ยูนิต ปรับตัวลดลง 24% จากปี 2558 ซึ่งมีจำนวน 7,677 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2559 มีมูลค่ารวม 10,649 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 15% ในภาพรวมปรับตัวลดลงทั้งในด้านจำนวนและมูลค่า ขณะที่ราคาเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้น 3%
โครงการแนวราบ
ด้านจำนวน ปี 2559 มีการปรับตัวลดลง จากปี 2558 ทุกประเภท แต่ บ้านเดี่ยว ยังคงเป็นตลาดบ้านในแนวราบที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยในปี 2559 มียอดโอนกรรมสิทธิ์ 57% หรือ 3,490 ยูนิต ปรับลดลง 16% รองลงมาเป็น อาคารพาณิชย์ 12% หรือ 752 ยูนิต ปรับลดลง 27% อันดับที่ 3 ทาวน์เฮาส์ 12% หรือ 710 ยูนิต ปรับลดลง 21% และที่เหลือเป็นบ้านแฝด 2% หรือ 118 ยูนิต ซึ่งมีการปรับตัวลดลงสูงสุด 58%
ด้านมูลค่า โดยในปี 2559 บ้านเดี่ยวมีมูลค่าสูงสุด 53% หรือ 5,616 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 8% รองลงมาเป็นอาคารพาณิชย์ 13% หรือ 1,377 ล้านบาท ปรับลดลง 42% อันดับต่อมา เป็นทาวน์เฮาส์ 6% หรือ 594 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 18% และที่เหลือเป็น บ้านแฝด 1% หรือ 143 ล้านบาท ปรับลดลงสูงสุดที่ 42%
ด้านราคาเฉลี่ย มีการปรับเพิ่มขึ้นเกือบทุกประเภท ยกเว้น อาคารพาณิชย์ที่มีการปรับลดจากปีก่อนหน้า 8% ในขณะที่ปี 2559 อาคารพาณิชย์ยังคงเป็นบ้านที่มีราคาเฉลี่ยสูงสุด ถึง 1.8 ล้านบาท รองลงมาเป็น บ้านเดี่ยวราคาเฉลี่ย 1.6 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 29% อันดับต่อมา คือ บ้านแฝดราคาเฉลี่ย 1.2 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 39% และทาวน์เฮาส์ราคาเฉลี่ย 0.8 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นสูงสุด 49%
โครงการแนวสูง
ด้านจำนวน บ้านในแนวราบได้รับความนิยมมากกว่าโครงการแนวสูง ในปี 2559 มียอดโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียม 1,101 ยูนิตหรือ 18% ของทั้งหมด โดย มีจำนวนลดลง 15% จากปี 2558
ด้านมูลค่า คอนโดมิเนียมในปี 2559 มีมูลค่ารวม 2,919 ล้านบาทหรือ 27% ของยูนิตการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทุกอาศัยทุกประเภทรวมกัน มีการปรับลดลง 31% จากปีก่อนหน้า
ด้านราคาเฉลี่ย โครงการคอนโดมิเนียมมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 2.7 ล้านบาท ปรับลดลงจากปีก่อนหน้า 18%
จำนวนการโอนกรรมสิทธิ์ ปี 2559 มีจำนวน 6,171 ยูนิต เมื่อเทียบกับปี 2558 ที่อยู่อาศัยแนวราบลดลง 20% จาก 6,377 ยูนิต เป็น 5,070 ยูนิต และโครงการแนวสูง ลดลง 15% จาก 1,300 ยูนิต เป็น 1,101 ยูนิต มีผลทำให้การโอนกรรมสิทธิ์ลดลง 20% จาก 7,677 ยูนิต เป็น 6,171 ยูนิต
จากยูนิตโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมด ทั้งโครงการในแนวราบและแนวสูง มีการขยายตัวลดลง โดยโครงการคอนโดมิเนียม มีสัดส่วนลดลงประมาณ 18% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ในขณะเดียวกัน โครงการบ้านจัดสรรแนวราบ ก็มีการปรับตัวลดลงเป็นสัดส่วน 26% จากยอดโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมด
ที่มา : ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC)
บทความแนะนำ