แนวทางต่อเติมครัวบิวท์อินให้สวยตามฝัน

“ครัวบิวท์อิน” ก็คือครัวประเภทหนึ่งที่ได้รับความสนใจไม่แพ้ครัวประเภทอื่น ๆ ซึ่งครัวประเภทนี้จะเน้นการออกแบบขนาดและพื้นที่ให้เหมาะสมกับผู้ใช้งาน ซึ่งอาจจะนำมาประกอบหน้างานหรือเป็นเฟอร์นิเจอร์เเล้วเสร็จพร้อมติดตั้ง โดยปัจจุบันครัวบิวท์อินได้มีการออกแบบให้เกิดความหรูหราและทันสมัย มีวัสดุให้เลือกที่หลากหลาย ซึ่งเหมาะกับท่านที่กำลังมองหาแบบครัวหรือกำลังคิดที่จะทำการต่อเติมครัว วันนี้เราได้รวบรวมเกร็ดความรู้เกี่ยวกับครัวบิวท์อินมาฝากทุกท่าน ดังต่อไปนี้ 

1. ครัวบิวท์อิน เลือกให้ดี สวยนาน ใช้คุ้ม

ได้เกริ่นกันไปเบื้องต้นแล้วว่าครัวประเภทนี้เป็นครัวที่สามารถจัดวางให้เข้ากับพื้นที่ได้อย่างลงตัว ให้ความสวยงาม ทันสมัย ตอบโจทย์และตรงใจผู้ใช้งานในยุคปัจจุบันอย่างแน่นอน แต่ที่สำคัญต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง เพราะเมื่อดำเนินการไปแล้วจะไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ซึ่งก็เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า หากเกิดปัญหาตามมาในภายหลังค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานแก้ไขก็ค่อนข้างที่จะสูงมากเลยทีเดียว

2. ครัวปูนและครัวสำเร็จรูป

ครัวปูน คือ ครัวที่หล่อมาจากปูนหรือวัสดุที่ส่วนผสมของปูน หรือจำพวกอิฐมวลเบา มีความแข็งแรงทนทาน เป็นครัวไทยที่นิยมมากในสมัยก่อน 

• ครัวปูน คือ ครัวที่หล่อมาจากปูนหรือวัสดุที่ส่วนผสมของปูน หรือจำพวกอิฐมวลเบา มีความแข็งแรงทนทาน เป็นครัวไทยที่นิยมมากในสมัยก่อน 
• ครัวสำเร็จรูป คือ ครัวที่ออกแบบมาอย่างครบครัน ครบทุกฟังก์ชัน จากแบรนด์ของผู้ผลิต ไม่ว่าจะเป็นตู้ เตา หรือเคาน์เตอร์ เป็นต้น รูปแบบอาจจะไม่ได้ตอบโจทย์หรือตรงใจตามที่เราต้องการ 
• ครัวบิวท์อิน คือชุดครัวมีการวางแผนในการก่อสร้าง เพื่อให้ลงตัวในการจัดวาง ซึ่งราคาก็ค่อนข้างสูงไม่แพ้ครัวสำเร็จรูป แต่สามารถเลือกและออกแบบได้ตามใจต้องการ 

3. เหมาะกับบ้าน

เหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยน้อย ด้วยการที่ครัวชนิดนี้ สามารถออกแบบได้โดยไม่เหลือช่องว่างทำให้ประหยัดพื้นที่มากขึ้น และช่วยให้บ้านที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนักกลับมีห้องครัวขนาดพอดีและพร้อมใช้งาน 

4. การวัดขนาด

ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป จึงมีการพัฒนารูปแบบมากยิ่งขึ้น จากที่เราคุ้นเคยผังที่เป็นแบบตัวยู ตัวแอล ตัวไอ หรือแบบคู่ขนาน ซึ่งขณะนี้เราสามารถปรับได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น แต่สิ่งที่ควรคำนึงก่อนกำหนดรูปแบบก็คือขนาดพื้นที่ห้องห้องครัว ให้ท่านได้จำลองตำแหน่งประตู หน้าต่าง ระบบไฟฟ้าและระบบน้ำที่จะเชื่อมต่อเข้ามาในบริเวณห้องครัว เช่น ตำแหน่งปลั๊กไฟ หรือตำแหน่งอ่างล้างจาน เป็นต้น  เพื่อจะช่วยในการจินตนาการและวางรูปแบบห้องครัว

5. โครงตู้และเครื่องใช้

สำหรับโครงตู้ที่นำมาทำชุดครัวบิวท์อิน จะนิยมใช้กันอยู่ 4 ชนิด คือ 

• ไม้อัดเพาะโครง เป็นไม้ที่มีความใกล้เคียงกับไม้จริง ทั้งเรื่องความแข็งแรงและการรับน้ำหนัก
• ไม้ Viva Board ไม้ชนิดนี้ถือว่าเป็นไม้ที่มีคุณภาพสูง เพราะสามารถทนน้ำและปลวกได้ดี ที่สำคัญคือแอ่นตัวน้อย 
• ไม้ MDF ราคาจะสูงกว่าไม้ Particle Board แต่สามารถทนความชื้นและรับน้ำหนักได้ดี 
• ไม้ Particle Board จะเป็นไม้ที่ราคาถูกที่สุด คุณภาพก็ลดหลั่นตามราคา หากเทียบกับไม้ชนิดอื่น ๆ 

สำหรับอุปกรณ์และเครื่องใช้ต่าง ๆ ภายในครัวซึ่งปัจจุบันนั้นได้รับการพัฒนาให้ทันสมัย และเน้นความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น วันนี้เราจึงนำทุกท่านมาทำความรู้จักเกี่ยวกับอุปกรณ์และเครื่องใช้ภายในครัว ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ 

•  เตาหุงต้ม มีด้วยกัน 2 แบบ คือแบบลอยตัวซึ่งเป็นแบบที่วางบนเคาน์เตอร์ และแบบฝังเจาะจะเป็นแบบสมัยใหม่เพราะตัวเตาจะโดนฝังเจาะในเคาน์เตอร์ ซึ่งจะโผล่มาแค่เฉพาะหัวเตาเท่านั้น จึงให้ความเรียบหรู ดูดี และมีสไตล์
• อ่างล้างจานหรือซิงค์น้ำ จะมีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ เช่น แบบหลุมเดี่ยว หลุมคู่ ไม่มีที่พักจาน หรือมีที่พักจานเป็นต้น 
• ตู้เย็น การเลือกก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละบ้าน ซึ่งตู้เย็นที่วางขายตามท้องตลาดก็มีตั้งแต่ขนาด 4 ถึง 16 คิว ซึ่งท่านสามารถเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานและขนาดของพื้นที่ครัว
• อุปกรณ์อื่นๆ เช่น ไมโครเวฟ กระติกน้ำร้อน ที่ปิ้งขนมปัง เตาอบ เครื่องดูดควัน หรือแม้กระทั่งชุดเครื่องครัวอื่น ๆ เช่น จาน ช้อน ส้อม แก้ว เป็นต้น

ท่านควรจะคำนึงถึงคุณภาพสินค้า ซึ่งต้องมีมาตรฐานการรับรอง หรือการรับประกันสินค้า รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่นำมาใช้ต้องไม่มีการผสมของสารปนเปื้อน เช่น สารจำพวกเมลามีน และควรมีมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) แสดงไว้ ณ ผลิตภัณฑ์นั้น ๆ หรือสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้า ก็ควรมีฉลากแสดงระดับประสิทธิภาพพลังงาน เป็นต้น เพื่อให้ท่านได้ใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างปลอดภัย

6. เคาน์เตอร์ครัว

ส่วนนี้เป็นส่วนที่มีการใช้งานหนักมากที่สุด จึงควรคำนึงถึงความแข็งแรง การทำความสะอาด และความปลอดภัยร่วมด้วย ซึ่งทางเรามีหนึ่งไอเดียมาฝากในการเลือกกรุท็อปเคาน์เตอร์ ในกรณีที่มีหลายส่วนแยกกัน แนะนำส่วนเกาะกลาง ให้ใช้งานสำหรับงานนวดแป้งทำขนม ควรเลือกท็อปหินอ่อน เพื่อให้ความสวยงาม และเน้นการทำความสะอาดง่าย แต่ถ้าหากใช้งานในการหั่น-ล้าง แนะนำเป็น Solid Surface หรือพื้นผิวที่แข็งแรง ทนทาน เหมาะกับงานหนักและขจัดคราบสกปรกได้มากกว่า  ที่สำคัญเมื่อมีกรด-ด่าง หยดลง เช่น น้ำมะนาว ก็จะไม่เป็นรอยหรือสีจาง

7. ท็อปเคาน์เตอร์ครัว

ประเภทของวัสดุท็อปเคาน์เตอร์นั้นมีหลากหลาย ซึ่งเรานำมาฝากทุกท่าน ดังนี้ 

• หินแกรนิต ทนทาน ทำความสะอาดง่าย แต่อาจดูไม่ทันสมัย 
• หินอ่อน หรูหรา สวยงามเป็นธรรมชาติ เข้าได้กับครัวเกือบทุกรูปแบบ แต่ไม่ทนกรดและสารเคมี  
• หินสังเคราะห์ รูปแบบให้เลือกหลากหลาย แต่เกิดรอยด่างเมื่อโดนกรด จึงควรเคลือบด้วยซิลิโคน 
• สเตนเลส ทนการขีดข่วน แข็งแรง ทำความสะอาดง่าย 
• ไม้จริง สวยงาม ให้ความเป็นธรรมชาติ แต่ผุพังง่าย ดูแลค่อนข้างยาก 
• ลามิเนต ดูแลง่าย สวยงามและมีหลายราคา
• กระเบื้อง ทนความชื้น ความร้อน และรอยขีดข่วนได้ดี ทำความสะอาดง่าย แต่มักมีปัญหาตรงรอยยาแนว 
• Solid surface ทนทานทุกสภาวะ ไม่ว่า ความร้อน ความชื้น กรด หรือสารเคมี เป็นข่วนหรือเป็นรอยสามารถซ่อมแซมได้ 

ทุกวัสดุที่กล่าวมาข้างต้นนั้น ท่านสามารถนำไปปรับหรือเลือกใช้ให้เหมาะสมและตรงกับความต้องการของท่านได้ รวมถึงปัจจัยเรื่องราคา เพราะแต่ละวัสดุ ถ้าเน้นที่คุณภาพดี หรือความหรูหรา ก็มักจะตามมาด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง ด้วยวัสดุที่หลากหลายท่านจึงสามารถเลือกใช้วัสดุให้เหมาะสมกับเงินในกระเป๋าของท่านได้ 

8. ผนังและพื้น

สำหรับผนังในห้องครัว 

• กระเบื้อง เป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมเป็นผนังกั้นคราบเป็นอย่างมาก เพราะดูดี มีเอกลักษณ์ ราคาถูก และทำความสะอาดได้ค่อนข้างง่าย 
• กระจกเทมเปอร์ มักจะนำมาเป็นผนังกันคราบในส่วนของเตา เพราะทนความร้อนได้ดี 
• โมเสก จะเป็นแบบผนังกันคราบที่ให้ความเป็นตนเองได้สูงมาก แต่ก็ทำความสะอาดได้ไม่ยากคล้ายคลึงกับกระเบื้อง
• หินสังเคราะห์หรือหินอ่อน เหมาะกับท่านที่เน้นความหรูหรา มีสไตล์ ซึ่งให้ทั้งความแข็งแรงและทนรอยขีดข่วนได้ดี 
• แผ่นสเตนเลส เหมาะกับห้องอาหาร ครัวในโรงแรม  เพราะทนความร้อนตลอดเวลาได้ดีมาก 
• แผ่นอะลูมิเนียมคอมโพสิต น้ำหนักเบา ปลอดภัยสูงกว่ากระจกเทมเปอร์ แต่ยังคงความเงางามและทนร้อนได้ดี 

สำหรับพื้นห้องครัว 

• กระเบื้องเซรามิก ตกแต่งได้ง่าย ให้ความสวยงาม ราคาไม่แพง แต่ถ้าเปียกน้ำอาจจะทำให้ลื่นได้
• กระเบื้องโมเสก สีสันสวยงาม ทันสมัย แต่ราคาค่อนข้างสูง 
• กระเบื้องแกรนิตโต้ แข็งแรง ทนรอยขีดข่วน อายุการใช้งานค่อนข้างยาวนาน เปียกน้ำแล้วค่อนข้างลื่น และราคาค่าแรงในการปูกระเบื้องก็ค่อนข้างสูง 
• กระเบื้องหินอ่อน หรูหรา ทันสมัย ไม่ลื่น แต่อาจมีสีด่าง เมื่อโดนกรดหรือสารเคมี 
• กระเบื้องแบบดินเผา ระบายความชื้นและความร้อนได้ดี ให้ความเป็นธรรมชาติ แต่แข็งแรงน้อยและดูแลค่อนข้างยาก

ก็ได้ทราบกันแล้วว่าทั้งผนังและพื้นครัวมีแบบให้ท่านเลือกอย่างมากมาย ซึ่งท่านสามารถมิกซ์แอนด์แมทช์ทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน ได้อย่างลงตัว ให้ดูดี มีสไตล์ และคงความเป็นคุณไว้ให้ได้มากที่สุดนั่นเอง  

9. ต่อเติมหลังคาครัว

เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าครัวสไตล์ไทย เมื่อมีการประกอบอาหาร ก็มักจะมีเรื่องกลิ่นและควันตามมา  ดังนั้นสำหรับท่านที่มีความคิดอยากจะต่อเติมครัว แนะนำให้ท่านนั้น ยกความสูงของหลังคาบ้านให้มากกว่าระดับปกติ เพื่อจะช่วยในเรื่องของการระบายอากาศ นอกจากนี้เพื่อประสิทธิภาพที่ดีในการกำจัดกลิ่นและควันมากยิ่งขึ้น แนะนำให้มีการติดตั้งเครื่องดูดควันเพิ่มเข้ามา  

10. รางระบายน้ำ

เมื่อมีการประกอบอาหาร ท่านสุภาพสตรีส่วนใหญ่ก็มักจะนำเนื้อสัตว์หรือวัตถุดิบต่างๆ มาล้างเพื่อทำความสะอาด ก่อนจะนำไปประกอบอาหาร ดังนั้นระบบรางระบายน้ำจึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะพิจารณาเมื่อมีการก่อสร้าง ซึ่งสิ่งที่ไม่ควรละเลยก็คือ การติดตั้งถังดักไขมันและท่อขนาดที่เหมาะสม เพื่อลดปัญหาการอุดตันของของเสียหรือคราบไขมันและเพื่อป้องกันไม่ให้กลิ่นไหลย้อนกลับขึ้นมานั่นเอง   

11. ตำแหน่งเต้าเสียบไฟฟ้า

ก่อนจะทำการตัดสินใจวางชุดครัวบิวท์อิน ควรคำนึงถึงจุดต่อน้ำและไฟภายในห้องครัวก่อนเสมอ เพื่อที่ท่านจะได้ทำงานง่ายขึ้น ใช้งานได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย  ข้อควรระวังในการติดตั้ง คือ ไม่ควรติดตั้งตำแหน่งปลั๊กไฟใกล้กับอ่างล้างจาน เพราะท่านอาจจะเอื้อมมือที่เปียกน้ำไปถอดปลั๊ก และก่อให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตได้ สำหรับปลั๊กไฟแนะนำให้ติดตั้งในตำแหน่งที่ใกล้กับอุปกรณ์ที่มีการใช้เป็นประจำ เช่น ตู้เย็น หรือ เตาไฟฟ้า หม้อหุงข้าว กาน้ำ เป็นต้น  

12. เครื่องดูดควัน

เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยลดการกระจายของควันและกลิ่น ซึ่งอาจจะเป็นผลกระทบกับบ้านข้าง ๆ หากท่านพักอาศัยในพื้นที่ใกล้เคียง เช่น ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียม เป็นต้น ดังนั้น จึงควรมีการสร้างช่องระบายอากาศเพื่อช่วยลดการฟุ้งกระจาย ซึ่งควรติดตั้งในบริเวณที่มีอากาศไหลเวียน สำหรับติดตั้งเครื่องดูดควัน เพื่อทำการดูดกลิ่นนั้น ควรติดตั้งเหนือตำแหน่งที่ท่านประกอบอาหาร เช่น เตาแก๊ส หรือเตาไฟฟ้า เป็นต้น 

13. หลอดไฟ

ห้องครัว เป็นห้องที่ต้องการแสงสว่างอย่างชัดเจนในการประกอบอาหาร ดังนั้น จึงเหมาะสมกับการเลือกใช้หลอดไฟแบบ Daylight เพราะให้แสงโทนขาวฟ้า สว่างสดใส ให้สีไม่ผิดเพี้ยนใกล้เคียงความเป็นจริง และกระตุ้นให้ร่างกายเกิดความกระปรี้กระเปร่า 

14. งบประมาณ

สำหรับครัวบิวท์อิน หลายท่านคงจะอยากทราบราคาและการวางงบประมาณเบื้องต้น ซึ่งราคาจะเริ่มต้นตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหนึ่งแสนบาท ซึ่งราคานี้สำหรับบางบริษัทหรือบางผู้รับเหมาอาจจะยังไม่ได้รวมค่าแรงในการจัดทำ โดยราคาที่หลักหมื่นจะขึ้นอยู่กับวัสดุที่เลือกใช้และการตกแต่งแบบธรรมดา ไม่ได้ดูหวือหวา หรือเน้นความหรูหรามากนัก ยกตัวอย่างวัสดุที่ใช้ จะเป็นท็อปลามิเนต ท็อปหินแกรนิต ไม้ MDF ติดตั้งตู้ 2 ตัวบน-ล่าง เป็นต้น  รวมไปถึงไม่ได้มีอุปกรณ์หรือเครื่องใช้ต่างๆ ที่มากนัก จึงทำให้ราคาไม่แพงจนเกินไป

15. ครัวบิวท์อินคอนโด

ส่วนใหญ่ของครัวบิวท์อินในคอนโดจะจัดสรรห้องครัวขนาดไม่ใหญ่นัก กะทัดรัดเหมาะกับพื้นที่และมักจะเชื่อมต่อกับพื้นที่ระเบียง ด้วยหนึ่งในเหตุผลของเรื่องการระบายอากาศ ซึ่งขนาดเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะกับคอนโดจะมีให้เลือกหลายขนาด ตั้งแต่ 1.2 ไปจนถึง 2 เมตร แต่ถ้าหากห้องครัวมีพื้นที่ผนังทั้งสองด้านก็สามารถออกแบบครัวแบบเข้ามุมก็ได้ หรือนอกจากนี้อาจจะเพิ่มฟังก์ชันเฟอร์นิเจอร์แบบแขวนผนังเข้ามาก็การประหยัดพื้นที่ไปอีกแบบ 

ไม่ว่าท่านจะมีความประสงค์หรือความต้องการในการออกแบบ “ครัวบิวท์อิน” แบบใด ทางเราก็คัดสรรเนื้อหาและรวบรวมข้อมูลดีๆ ในการต่อเติมครัวแบบบิวท์อินมาฝากทุกท่าน เริ่มตั้งแต่ การทำความรู้จักกับครัวบิวท์อิน ความแตกต่างกับครัวแบบอื่นๆ ความเหมาะสม การเลือกใช้วัสดุและการจัดวาง งบประมาณ ไปจนถึงการทำครัว ที่ตอบโจทย์ทั้งท่านที่มีเนื้อที่ใช้สอยมากหรือแบบพื้นที่จำกัด เช่น คอนโดมิเนียม เป็นต้น ซึ่งได้กล่าวไปข้างต้นทั้งหมดแล้ว ทางเราหวังว่า ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ให้ท่านได้นำไปประกอบการพิจารณา ให้ตรงตามไลฟ์สไตล์ และเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับท่านผู้อ่านที่ให้ความสนใจเกี่ยวกับการแต่งบ้าน