HIGHLIGHTS:
คนทำงานในเมืองจำนวนไม่น้อย ที่มักจะขึ้นรถไฟฟ้าสายสีเขียวจากต้นสายที่สถานีหมอชิต คงเคยผ่านประสบการณ์ความโหดร้ายของที่จอดรถหมอชิตมาอย่างโชกโชน เพราะที่จอดรถหมอชิตแห่งนี้ ถึงจะโลเคชั่นดี แต่เช้ามา 7 โมงกว่าก็เต็มแล้ว รถแน่น เบียด กลางวันแดดร้อน กลางคืนเปลี่ยว จอดเมื่อไหร่ก็เสี่ยงอันตรายจากการโดนเฉี่ยวชนเมื่อนั้น แต่… ในอนาคตอันใกล้ มันจะถูกยกเลิกแล้วครับ เดาได้ไม่ยากว่าเมื่อที่จอดรถหมอชิตถูกปิดลงแล้ว ชีวิตคนเมืองสะเทือนแน่นอน
Baania ขอพาทุกคนมารู้จักกับประวัติของที่จอดรถเลื่องชื่อแห่งนี้ รวมทั้งคาดการณ์ว่าหลังจากนี้ไปจะเกิดอะไรขึ้น ถึงเวลาตั้งการ์ดรับมือกับความเปลี่ยนแปลงแล้วครับ
ประวัติความเป็นมา อันแสนซับซ้อนและยาวนานของที่ดินราชพัสดุสถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต
ที่จอดรถหมอชิตเก่า หรืออีกชื่อหนึ่งที่เป็นทางการคือ “โครงการที่ราชพัสดุสถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต” เดิมทีถูกวางแผนให้พัฒนาเป็นสถานีขนส่งผู้โดยสารจากสายเหนือและสายตะวันออกเฉียงเหนือ แต่เมื่อกรมธนารักษ์เข้ามาอ้างสิทธิเป็นเจ้าของที่ดินทั้งหมด 63 ไร่ ตาม พ.ร.บ. ที่ราชพัสดุปี 2518 พื้นที่นี้จึงถูกปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ประโยชน์ที่ดินไป โดยส่วนหนึ่งกรมธนารักษ์ต้องการพัฒนาเป็นอู่จอดรถไฟฟ้า (BTS) และส่วนที่เหลือจะเปิดให้เอกชนเข้ามาลงทุนสร้างเพื่อการพาณิชย์
กรมธนารักษ์จึงเปิดให้เอกชนยื่นซองประมูล ซึ่งในที่สุดแล้ว บริษัท บางกอกเทอร์มินอล เป็นผู้ชนะในการประมูลไป และได้ทำสัญญากับกรมธนารักษ์ โดยให้ข้อเสนอผลตอบแทนแก่รัฐ 550 ล้านบาท บางกอกเทอร์มินอลวางแผนสร้างคอมเพล็กซ์สูง 5 ชั้น พร้อมโรงแรมระดับ 5 ดาว มีห้องพัก 450 ห้อง และห้างสรรพสินค้าครบวงจร คิดเป็นมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท
ทุกอย่างเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดี แต่ทว่า…. ต่อมาสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ระบุว่าโครงการที่ราชพัสดุสถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต เข้าข่ายต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 หรือ พ.ร.บ.ร่วมทุน พ.ศ. 2535 เนื่องจากโครงการมีมูลค่าเกิน 1,000 ล้านบาท จึงส่งผลให้โครงการนี้ไม่สามารถดำเนินการต่อได้ จนกว่าจะทำการวิเคราะห์ความเป็นไปได้และความเหมาะสมของโครงการ ซึ่งกรมธนารักษ์ไม่ได้ทำมาตั้งแต่ต้น และหากกลับไปเริ่มต้นใหม่ ทางกรมธนารักษ์ก็เกรงว่าจะถูกบริษัท บางกอกเทอร์มินอล ซึ่งเป็นคู่สัญญาฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย จึงปล่อยให้ที่ดินบริเวณนั้นใช้ประโยขน์เป็นลานจอดแล้วจรของประชาชนเรื่อยมา จนกว่าจะแก้ปัญหาเรื่องสัญญาก่อสร้างโครงการได้
ซึ่งขณะนี้กรมธนารักษ์ ได้ดำเนินการศึกษาความคุ้มค่าการลงทุนอย่างถูกต้องเรียบร้อยแล้ว โครงการที่ถูกพับไปจึงพร้อมกลับมาเดินหน้าเต็มสูบอีกครั้ง นี่จึงเป็นที่มาของการยกเลิกที่จอดรถหมอชิตครับ
จะสร้างเป็นอะไร?
อย่างที่เราบอกไป ในอนาคตอันใกล้นี้ที่จอดรถหมอชิตจะถูกยกเลิก และแทนที่ด้วยโครงการคอมเพล็กซ์ยักษ์ 63 ไร่ โดยบริษัท บางกอกเทอร์มินอล เจ้าเดิม พื้นที่ตรงนี้จะถูกพัฒนาเป็นมิกซ์ยูส มีศูนย์การค้า สำนักงาน ที่อยู่อาศัย โรงแรม และที่จอดรถ บขส.
ความคืบหน้าล่าสุดอยู่ระหว่างนำสัญญาให้อัยการตรวจสอบ ก่อนจะเสนอคณะรัฐมนตรีประทับตราภายในปีนี้
*อ้างอิง: https://www.prachachat.net/columns/news-36580
เมื่อถูกยกเลิกแล้ว จะเกิดอะไรขึ้น?
มีงานวิจัย 1 ชิ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในวิทยานิพนธ์ของ คุณดาวัต กิตติธรรมวงศ์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ศึกษาพฤติกรรมการเดินทางของผู้ใช้ที่จอดรถสถานีรถไฟฟ้าหมอชิตไว้ และสามารถช่วยตอบคำถามของเราได้ มาดูผลที่ได้จากงานวิจัยนี้กันครับ
คำถามที่คุณดาวัตตั้งขึ้นมาหาคำตอบคือ เมื่อที่จอดรถหมอชิตถูกยกเลิกไป ผู้ใช้บริการจะมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการเดินทางอย่างไรบ้าง?
กลุ่มตัวอย่างและวิธีการเก็บข้อมูล
ผู้วิจัยได้ไปสัมภาษณ์ผู้ที่นำรถมาจอดที่ที่จอดรถหมอชิต ในวันจันทร์ - ศุกร์ ไม่รวมผู้ที่มาจอดเพื่อรอรับ-ส่ง ตั้งแต่วันที่ 20 - 28 เมษายน 2560 ช่วงเวลา 17.00 น. – 22.00 น.และได้ตัวอย่างมาทั้งสิ้นจำนวน 315 ตัวอย่าง
จากผลการวิจัย คนส่วนใหญ่เลือกที่จะย้ายไปจอดรถที่อื่น หรือขับรถไปยังจุดหมายเลยรวดเดียว นั่นหมายความว่า เมื่อมีการยกเลิกที่จอดรถหมอชิต จะมีรถยนต์ขับเข้าไปในเมืองมากขึ้น และใช้ระบบรถไฟฟ้าลดลง รัฐอาจต้องเตรียมการรองรับผู้ใช้บริการที่ต้องหาที่จอดรถใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย จากการจราจรที่ติดขัดมากขึ้น
ถ้าเป็นคุณจะแก้ปัญหาการเดินทางของตัวเองอย่างไร? แล้วพร้อมไหมกับการอยู่โดยไม่มีที่จอดรถหมอชิตอีกต่อไป?