Baania ขอนำเสนอข้อมูลภาพรวมสถานการณ์ของผู้บริโภคในแง่ของยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 5 จังหวัด นนทบุรี, ปทุมธานี, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร และนครปฐม ดังนี้
ปี พ.ศ. 2559 พบว่ามียอดโอนกรรมสิทธิ์จำนวน 175,300 ยูนิต ปรับตัวลดลง 11% จากปี 2558 ซึ่งมีจำนวน 196,095 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2559 มีมูลค่ารวม 444,100 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 8% ในภาพรวมปรับตัวลดลงทั้งในด้านจำนวนและมูลค่า ขณะที่ราคาเฉลี่ยในภาพรวมยังคงเดิม
โครงการแนวราบ
ด้านจำนวน ปี 2559 มีการปรับตัวลดลงจากปี 2558 ทุกประเภท แต่ทาวน์เฮาส์ยังคงเป็นตลาดบ้านในแนวราบที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยในปี 2559 มียอดโอนกรรมสิทธิ์ 29% หรือ 51,100 ยูนิต ปรับลดลง 25% รองลงมาเป็น บ้านเดี่ยว 12% หรือ 20,400 ยูนิต ปรับลดลง 39% อันดับที่ 3 อาคารพาณิชย์ 5% หรือ 8,900 ยูนิต ซึ่งมีการปรับตัวลดลงสูงสุด 41% และที่เหลือเป็นบ้านแฝด 3% หรือ 4,800 ยูนิต ปรับลดลง 36%
ด้านมูลค่า โดยในปี 2559 บ้านเดี่ยวมีมูลค่าสูงสุด 24% หรือ 107,300 ล้านบาท ปรับลดลงจากปีก่อนหน้า 30% รองลงมาเป็นทาวน์เฮาส์ 21% หรือ 91,700 ล้านบาท ปรับลดลง 10% อันดับต่อมาเป็นอาคารพาณิชย์ 8% หรือ 34,600 ล้านบาท ปรับลดลง 34% และที่เหลือเป็น บ้านแฝด 3% หรือ 14,800 ล้านบาท ปรับลดลง 17%
ด้านราคา บ้านเดี่ยวถือเป็นบ้านที่มีราคาเฉลี่ยสูงสุด ถึง 5.3 ล้านบาท ปรับเพิ่มจากปีก่อนหน้า 14% รองลงมาเป็น อาคารพาณิชย์ 3.9 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 13% อันดับต่อมาคือบ้านแฝด 3.1 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 29% และทาวน์เฮาส์ 1.8 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 20%
โครงการแนวสูง
ด้านจำนวน คอนโดมิเนียมยังคงได้รับความนิยมมากกว่าโครงการในแนวราบ ในปี 2559 มียอดโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียม 90,100 ยูนิตหรือ 51% ของทั้งหมด โดยมีจำนวนเพิ่มขึ้น 25% จากปี 2558
ด้านมูลค่า คอนโดมิเนียมในปี 2559 มีมูลค่ารวมสูงสุด 195,700 ล้านบาท หรือ 44% ของยูนิตการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทุกอาศัยทุกประเภทรวมกัน ซึ่งเป็นโครงการประเภทเดียวที่มีการปรับเพิ่มขึ้น 24% จากปีก่อนหน้า
ด้านราคา โครงการคอนโดมิเนียมมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 2.2 ล้านบาท มีราคาเฉลี่ยคงที่จากปีก่อน
จำนวนการโอนกรรมสิทธิ์ ปี 2559 มีจำนวน 175,300 ยูนิต เมื่อเทียบกับปี 2558 ที่อยู่อาศัยแนวราบลดลง 31% จาก 124,262 ยูนิต เป็น 85,200 ยูนิต และคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้น 25% จาก 71,833 ยูนิต เป็น 90,100 ยูนิต มีผลทำให้การโอนกรรมสิทธิ์ลดลง 11% จาก 196,095 ยูนิต เป็น 175,300 ยูนิต
จากยูนิตโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมด เป็นคอนโดมิเนียมที่มีการขยายตัวสูงสุด โดยมีสัดส่วนประมาณครึ่งหนึ่งของทั้งหมด ในทางกลับกันในหมวดของโครงการแนวราบ มีการปรับตัวลดลงจากปีก่อนหน้าทุกประเภท ได้แก่ ทาวน์เฮาส์ มียูนิตโอนกรรมสิทธิ์ ประมาณหนึ่งในสี่ส่วน ที่เหลือเป็นอาคารพาณิชย์ บ้านเดี่ยว และบ้านแฝดตามลำดับ
ที่มา: ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC)
บทความที่เกี่ยวข้อง: