รางน้ำไวนิล รางน้ำฝนยอดฮิตในปัจจุบัน เพราะติดตั้งง่าย รูปแบบสวยงาม ทนต่อทุกอากาศรวมถึงอายุการใช้งานยาวนาน และราคาไม่แพง ถึงแม้จะติดตั้งง่ายยังไง แต่หากติดตั้งผิดวิธีการอาจทำให้รางน้ำไวนิลใช้งานได้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ แถมอาจไม่ปลอดภัยด้วย ฉะนั้นแล้วเรามาดูวิธีติดตั้งรางไวนิลด้วยตัวเองให้ถูกต้องกันดีกว่าครับ
ก่อนจะไปดูวิธีติดตั้งรางน้ำไวนิล เรามาทำความรู้จักกับรางน้ำไวนิลกันก่อนครับ โดยรางน้ำไวนิลนั้น เป็นรางน้ำฝนหรือรางระบายน้ำที่ทำมาจากไวนิล ซึ่งเป็นโพลิเมอร์สังเคราะห์ชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติพิเศษกว่าโพลิเมอร์หรือพลาสติกทั่วไป มีความแข็งแรง ไม่ลามไฟ ทนต่อทุกสภาพอากาศ หาซื้อง่าย แถมยังติดตั้งได้ง่าย ทำงานได้ทันที มีดีไซน์สวยงาม ราคาไม่แพง มีสีและขนาดที่จำกัด ติดตั้งง่าย แต่หากช่างไม่ชำนาญหรือเราติดเองอย่างไม่ถูกต้องก็มีปัญหาได้ครับ ฉะนั้นเรามาดูวิธีติดตั้งรางน้ำไวนิลด้วยตนเอง หรือจะจ้างช่างมาติดก็จะได้ไม่พลาดกันดีกว่าครับ
ขอบคุณภาพจาก www.scghome.com
1. รางน้ำไวนิล
2. ตะขอแขวนราง
3. ตลับเมตร
4. ซิลิโคน
5. ที่วัดระดับน้ำ
6. เส้นเอ็นเต๊าหรือเชือกตีแนวสำหรับตีเต๊า
7. นั่งร้านหรือบันได
8. อุปกรณ์สำหรับเป็นตัวยึด เช่น ดอกสว่านและสว่านไฟฟ้า พร้อมดอกขันสกรู
ทั้งนี้ทั้งนั้นมีข้อแนะนำในการติดตั้งที่ควรทำก่อนจะติดตั้งรางน้ำฝนดังนี้
1. ตรวจสอบรางให้เรียบร้อย
2. ตรวจสอบ เช็กความแข็งแรงของบริเวณเชิงชาย หรือปีกนกที่จะติดรางน้ำ
3. รื้อรางเก่าออกอย่างระวัง
4. ติดตั้งรางน้ำฝนอย่างถูกกฎหมาย
เมื่อรู้จักรางน้ำไวนิล และเตรียมพร้อมอุปกรณ์กันแล้ว ก็ถึงเวลาในการติดตั้งรางน้ำกันแล้วล่ะครับ ซึ่งมีวิธีดังนี้
ใครที่ติดตั้งรางน้ำฝนเดิมไว้ เราจะต้องทำการรื้อรางน้ำเดิมออกก่อนให้เรียบร้อย โดยในการรื้อหรือถอดรางน้ำของเดิมนั้นจะต้องระมัดระวังอย่าให้กระทบโครงสร้างหลังคาเดิมนะครับ ไม่เช่นนั้นอาจจะติดลำบาก หรือติดในพื้นที่เดิมไม่ได้
เมื่อเราถอดหรือรื้อรางน้ำเดิมเรียบร้อยแล้ว เราก็มาสำรวจสภาพพื้นที่ที่เราจะติดตั้งรางน้ำว่ามีสภาพสมบูรณ์พร้อมติดตั้งหรือเปล่า หากไม่พร้อมจะต้องซ่อมแซมก่อน หรือเปลี่ยนที่ติดตั้งรางน้ำใหม่ ทั้งนี้ทั้งนั้นจะต้องสำรวจโครงสร้างหลังคาและตรวจดูที่เชิงชายหรือไม้ปิดนกที่จะติดรางน้ำว่ามีความแข็งแรง ยึดแน่นพอที่จะติดตั้งรางน้ำหรือไม่
ต่อมาก็ต้องวัดระดับน้ำระหว่างหัวรางน้ำกับท้ายของรางน้ำ เพื่อวัดความลาดเอียงของรางน้ำ ก่อนที่จะติดตั้งรางน้ำไวนิลใหม่
จากนั้นทำการตีเต๊าหรือเชือกตีแนว เพื่อสร้างแนวเส้นที่จะติดตั้งรางน้ำ โดยหาตำแหน่งของปลายเส้นที่ต้องการตี เกี่ยวตะขอตรงตำแหน่งที่ต้องการ แล้วดึงเชือกที่ปลายของเส้นที่จะตีและคลายขดเชือกออก จากนั้นดึงเชือกให้ตึงอีกครั้งด้วยมืออีกข้างหนึ่ง แล้วจึงใช้นิ้วสองนิ้วเกี่ยวเส้นเชือกให้ลอยเหนือพื้น แล้วจึงปล่อยให้เชือกดีดตัวลงไป จากนั้นปลดตะขอ แล้วจึงม้วนเชือกกลับ เพียงเท่านี้เราก็จะได้แนวที่จะติดตั้งรางน้ำ
ขั้นตอนต่อมาให้ติดตั้งตะขอแขวนราง ตามระยะที่เหมาะสมกับประเภทรางน้ำ ซึ่งแต่ละประเภทมีระยะที่เหมาะสมไม่เท่ากัน ฉะนั้นเราต้องดูคู่มือของรางไวนิลแต่ละยี่ห้อ แต่โดยทั่วไปมักจะเว้นระยะห่างประมาณ 60-80 เซนติเมตร ซึ่งวิธีการก็คือการนำรางน้ำฝนมาล็อคกับตะขอแขวนราง และสำหรับรางน้ำฝนไวนิลจะต้องเชื่อมรอยต่อด้วยการใช้ซิลิโคน
ขั้นตอนต่อมาก็คือการติดตั้งรางน้ำฝนกับผนังหรือเสาด้วยตัวยึด ซึ่งหากสูงเกินไปควรจะใช้นั่งร้านครับ เพื่อความปลอดภัย เมื่อติดเรียบร้อยแล้วให้ตรวจดูว่าติดตั้งแข็งแรงหรือไม่ และยึดท่อกับอุปกรณ์ได้แน่นสนิทหรือเปล่า ถ้าเรียบร้อยดี ก็ถือว่าติดตั้งเรียบร้อยแล้วครับ
ขั้นตอนสุดท้ายก็คือการทดสอบการทำงานของรางน้ำฝน โดยให้ฉีดน้ำบนหลังคา หากน้ำไหลเป็นปกติก็เป็นอันเรียบร้อย นอกจากนี้ยังต้องตรวจสอบด้วยว่าการติดตั้งรางน้ำนั้นได้ยึดติดกับไม้เชิงชายได้ระดับ โดยไม่มีลักษณะแอ่นงอด้วย
รางน้ำฝนเป็นอุปกรณ์สำคัญในการช่วยให้น้ำในที่ไหลจากหลังคาไหลไปในทิศทางที่ต้องการ ไม่ให้น้ำฝนกระเด็นไปโดนกำแพง หรือจุดที่ต้องการได้ ฉะนั้นวิธีการติดตั้งรางน้ำฝนจึงควรให้ความสำคัญ เพื่อจะได้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพนะครับ