ลงทุนคอนโดพัทยาอย่างคุ้มค่าต้อง เดอะ ทรัสต์ คอนโด พัทยาใต้

ถ้าพูดถึงพื้นที่ที่น่าจับตามองในประทศไทยขณะนี้ คงต้องไม่พ้นต้องโฟกัสที่ไปเมืองพัทยาอย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของประเทศไทยแล้ว ในอนาคตอันใกล้เมืองชายทะเลที่ไม่เคยหลับแห่งนี้จะกลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจสำคัญของภูมิภาคอีกด้วยซึ่งเป็นผลมาจาก โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) หนึ่งในแผนยุทธศาสตร์ภายใต้ไทยแลนด์ 4.0 ที่ดำเนินไปแล้วบางส่วน

ศักยภาพของพัทยาที่เริ่มส่องประภายเปล่งปลั่งนั้น คงไม่สามารถเล็ดลอดสายตาอันเฉียบคมของนักลงทุนไปได้ เราจึงไม่แปลกใจหากว่า ในอนาคตอันใกล้ความเจริญของพัทยาจะเกิดขึ้นแบบก้าวกระโดดในฐานะศูนย์กลางของ EEC ซึ่งอนาคตอันเรืองรองนั้นจะเกิดขึ้นมาจากโครงการทั้งสามดังนี้

รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน

นี่คือโครงการที่อยู่ในความสนใจของผู้คนอย่างมาก โดยโครงการรถไฟความเร็วสูงจะเชื่อมต่อกับสนามบินใหญ่ 3 แห่งคือ ‘ดอนเมือง, สุวรรณภูมิ, และอู่ตะเภา’ และนี่ก็เป็น 1 ใน 5 โครงการเร่งด่วนด้านโครงสร้างพื้นฐานที่มีผลต่อความสำเร็จของการพัฒนา EEC ด้วย ทั้งนี้นี่จะเป็นการพัฒนามาจากโครงการรถไฟความเร็วสูงสายตะวันออก (ลาดกระบัง-ระยอง) ซึ่งได้ปรับปรุงหลักการให้เข้าเชื่อม 3 สนามบินอย่างไร้รอยต่อ อันจะเกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศและประชาชนในอนาคต

ผลการวิเคราะห์ผลตอบแทนทางด้านเศรษฐกิจตลอดทั้งโครงการคาดว่ามีประมาณ 700,000 ล้านบาท (มูลค่าปัจจุบัน)โดยแบ่งเป็น  50 ปีแรก มีมูลค่าทางเศรษฐกิจประมาณ 400,000 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าเงินลงทุนประมาณ 200,000 ล้านบาท จึงถือว่าเป็นผลตอบแทนที่คุ้มค่าต่อการลงทุนผลตอบแทนดังกล่าวมาจาก มูลค่าเพิ่มการนำสนามบินอู่ตะเภามาใช้ประโยชน์, ลดการใช้น้ำมัน ลดเวลาการเดินทาง ลดมลพิษสิ่งแวดล้อมจากการใช้รถยนต์,ผลตอบแทนทางจากการพัฒนาเศรษฐกิจตลอดเส้นทาง, การจ้างงานและการใช้ปัจจัยการผลิตในประเทศไทย, และรายได้ของภาครัฐจากการจัดเก็บภาษี และเมื่อครบ 50 ปี แล้ว ยังมีผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจนสิ้นอายุของโครงการอีกอย่างน้อย 300,000 ล้านบาท

นอกจากนี้การพัฒนาเส้นทางรถไฟดังกล่าวจะทำให้เกิดการขยายตัวของเมืองและความเจริญตลอดสองข้างทาง ส่งผลให้มูลค่าที่ดินและศักยภาพทางเศรษฐกิจของพื้นที่สูงขึ้นอีกด้วย ยังไม่รวมความสะดวกสบายในการเดินทางที่ทำให้การท่องเที่ยวของพัทยาได้อานิสงฆ์อีกมาก

อู่ตะเภามหานครการบินแห่งใหม่

สถามบินอู่ตะเภา ได้รับการพัฒนาให้เป็นท่าอากาศยานเชิงพาณิชย์ แห่งที่ 3 ตั้งแต่กลางปี 2558 และเมื่อต้นปี 2561 ที่ผ่านมาก็เริ่มมีเที่ยวบินพานิชย์เปิดให้บริการบินตรงจากสนามบินแห่งนี้แล้ว ล่าสุดนี้รัฐบาลได้เล็งเห็นถึงศักยภาของท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่ดีในการพัฒนาเนื่องจากสามารถขนส่ง โดยการเชื่อมโยงได้ครบ ทั้งทางการบิน ทางถนน ทางราง และ ทางน้ำ โดยเฉพาะเป็นจุดเชื่อมสำคัญหากโครงการรถไฟความเร็วสูง หรือ ไฮสปีด ส่วนด้านทางน้ำ ก็มีโอกาสเชื่อมต่อกับโครงการเรือท่าเรือจุกเสม็ดได้ ทั้งนี้สนามบินรองรับผู้โดยสารถึงปีละ 15-20 ล้านคน พร้อมตั้งเป้าจะรองรับผู้โดยสารถึง 60 ล้านคนในปี 2585

ในระยะแรกนั้น มีโครงการพัฒนาสนามบินแห่งนี้ให้เป็นแอร์พอร์ต ซิตี้ มีอาคารผู้โดยสาร รันเวย์ และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการบิน เช่น อุตสาหกรรมการซ่อมอากาศยาน และขยายตัวเป็นเมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งใหม่ในที่สุด

ท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3

โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 คืออีกหนึ่งโครงการสำคัญของแผนการพัฒนา EEC แล้ว ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จจะกลายเป็นจุดเชื่อมต่อแห่งใหญ่ในการขนส่งสินค้าไปยังกลุ่มประเทศ CLMV และประเทศจีนตอนใต้ กลายเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการกระจายสินค้าที่สำคัญ (ฮับ) ทางน้ำของภูมิภาค ทั้งนี้รัฐบาลยังพร้อมผลักดันให้ท่าเรือแห่งนี้ติดอันดับ 1 ใน 20 ท่าเรือที่ดีที่สุดในโลกอีกด้วย

เมื่อท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 เปิดให้บริการในประมาณปี 2568 ความสามารถในการขนส่งตู้สินค้าจะเพิ่มเป็น 18.1 ล้านตู้ต่อปี ขนส่งรถยนต์ได้ 3 ล้านคันต่อปี สัดส่วนสินค้าผ่านท่าโดยรถไฟทั้งหมดของท่าเรือแหลมฉบังเพิ่มเป็นร้อยละ 30 ลดต้นทุนค่าขนส่งรวมของประเทศ (Logistics Cost) ลงเหลือร้อยละ 12 ของ GDP และประหยัดเงินค่าขนส่งได้ถึง 250,000 ล้านบาท ความสะดวกสบายของท่าเรือเฟสใหม่นี้จะส่งผลให้เกิดนิคมอุตสาหกรรมใหม่ๆ ตามมา อีกทั้งทำให้ระบบขนส่งคล่องตัวขึ้นอย่างมาก เราจึงคาดหวังในเรื่องการขยายตัวของเมืองได้อย่างแน่นอน

จากปัจจัยบวกของเมกะโปรเจกต์ดังกล่าว ราคาที่ดินบางส่วนในแถบพื้นที่ EEC นั้นก็ได้ปรับตัวขานรับกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคตอันใกล้แล้ว แน่นอนว่าพัทยาเองในฐานะหัวเมืองที่สำคัญก็ย่อมเป็นจุดเริ่มในการกระจายความเจริญออกไปสู่รอบข้าง การลงทุนในที่อยู่อาศัยก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมซึ่งสามารถคาดหวังการทำกำไรได้ทั้งจากการขายต่อหรือให้เช่า อันเนื่องมาจากการขยายตัวของภาคธุรกิจและแรงงานที่ขยายตัว  

สำหรับใครที่มองหาโอกาสในการลงทุนคอนโดในพัทยาอยู่ โครงการ เดอะทรัสต์ คอนโด พัทยาใต้ เป็นตัวเลือกที่ดีซึ่งสามารถตอบโจทย์ได้ทั้งการอยู่อาศัยและทำกำไรในรูปแบบต่างๆ

เดอะทรัสต์ คอนโด พัทยาใต้

ขึ้นขื่อว่าเป็นโครงการของ บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) เท่านี้ก็หายห่วงเรื่องคุณภาพได้เลย โครงการมาในคอนเซปต์ Live The Pleasure of City Life - ชีวิตรื่นรมย์ ท่ามกลางมหานคร เป็นอาคารขนาด 24 ชั้น 609 ยูนิต ตกแต่งครบแบบ Fully-Furnished เรียบง่ายในสไตล์โมเดิร์น เอกสิทธิ์เฉพาะ The Trust ดีไซน์และฟังก์ชั่น ตอบทุกไลฟ์สไตล์ชีวิตคนเมือง  ด้วยพื้นที่โครงการขนาดประมาณ 4 ไร่

โครงการสร้างแล้วเสร็จอยู่บนที่ตั้งและราคาที่น่าสนใจมาก เริ่มจากทำเลที่ติดถนนใหญ่อย่างถนนสุขุมวิท ช่วงระหว่างถนนพัทยาใต้และถนนเทพประสิทธิ์ ใกล้กับห้างสรรพสินค้า สถานที่ท่องเที่ยว และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ เทสโกโลตัสพัทยาใต้, บิ๊กซีพัทยาใต้, Premium Outlet, เซ็นทรัล เฟสติวัล บีช พัทยา, โรงพยาบาลกรุงเทพ พัทยา และร้านค้าร้านอาหารอื่นๆ และเมื่อพิจารณาราคาเริ่มต้นด้วยแล้วก็นับว่าหาตัวเลือกอื่นในระดับเดียวกันได้ยากมาก

โครงการมียูนิตให้เลือก 2 แบบคือ

• Studio Type 23.6 ตร.ม.

ดีไซน์พื้นที่ให้ลงตัว กับฟังก์ชั่นการใช้งานที่สะดวกสบาย พร้อมส่วนพักผ่อน ชุดครัว และระเบียงส่วนตัว

• One Bedroom Type 29.7 ตร.ม.

เพิ่ม..พื้นที่ส่วนตัว, เพิ่ม..พื้นที่ความสุข, เพิ่ม..พื้นที่สะดวกสบาย ด้วยฟังก์ชั่นพิเศษ เพื่อคนพิเศษ

พื้นที่ส่วนกลางก็เพียบพร้อมด้วยความสะดวกสบาย มีทั้งสระว่ายน้ำระบบเกลือ, สวนพักผ่อนรายรอบโครงการ, ห้องออกกำลังกายพร้อมอุปกรณ์, ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม., ระบบกล้อง CCTV และ Access Card

ด้วยราคาเริ่มต้นโครงการเพียง 1.59 ล้านบาท กับทำเลในเมืองท่องเที่ยวที่กำลังได้รับการพัฒนาแวดล้อมด้วยโครงการขนาดใหญ่ของรัฐมากมาย ถือว่าเป็นระดับราคาที่น่าสนใจมาก เพราะจากข้อมูลของ Baania แล้ว ภาพรวมราคากลางของคอนโดในพื้นที่บริเวณนี้อยู่ในช่วง 3 ล้านกลางๆ เลยทีเดียว แม้ว่าโครงการจะอยู่ห่างจากชายหาดซึ่งเป็นจุดขายของเมืองสักหน่อย แต่เมื่อดูศักยภาพด้านอื่นแล้ว นับว่าคุ้มค่าแก่การลงทุนมาก สามารถมองถึงการปล่อยเช่าให้ชาวต่างชาติผู้เข้ามาทำงานในเมืองพัทยา หรือคนต่างพื้นที่ซึ่งมองหาที่อยู่ในระยะสั้นถึงระยะกลางได้