วิธีทำความสะอาดกระจก ให้สวยงามใสปิ๊งไม่ทิ้งคราบสกปรก

“วิธีทำความสะอาดกระจก” มีอยู่หลายวิธีมากมายที่จะช่วยทำให้กระจกทุกจุดภายในบ้านดูใสใหม่อยู่เสมอ ไม่ให้มีคราบใดๆ ทิ้งไว้ให้เป็นที่ขัดใจแลดูไม่สบายตา แต่ก็มักจะมีปัญหาที่เกิดเป็นคราบเกาะติดให้เห็นอยู่ประจำทั้งที่เพิ่งทำความสะอาดไปอยู่หยกๆ  ทั้งคราบฝุ่น คราบน้ำ หรือคราบสกปรก

ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปเมื่อเราหันมามองรอบตัวว่ามีของใช้อะไรบ้างภายในบ้านที่จะช่วยกำจัดคราบเหล่านั้นไม่ให้เหลือ บนกระจกอีกต่อไป ด้วยวิธีและเคล็ดที่ไม่ลับที่เราจะนำเสนอกันในวันนี้

1. หนังสือพิมพ์

วิธียอดฮิตที่นิยมนำมาใช้กันโดยทั่วไปคือการนำเศษหนังสือพิมพ์เก่า มาจุ่มในน้ำสะอาดบิดให้พอหมาดแล้วนำไปเช็ดกระจกได้เลย พร้อมกับการนำผ้าสะอาดที่แห้งมาเช็ดสลับกันไปด้วยเพราะกระดาษหนังสือพิมพ์จะอมน้ำไว้เยอะ หากไม่เช็ดสลับตามด้วยผ้าแห้งจะทำให้เกิดคราบน้ำตามมา

2. น้ำสบู่

การใช้น้ำสบู่เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยขจัดคราบสกปรกที่ทิ้งไว้บนกระจกได้จริงและสามารถหาง่ายภายในบ้าน ซึ่งหลายท่านมักนำมาใช้อยู่บ่อย ๆ เพียงแค่นำสบู่เหลวในปริมาณ 3 ช้อนโต๊ะ มาผสมกับน้ำเปล่าในอัตราที่พอดี ผสมให้เข้ากัน สังเกตความเข้มข้นของสบู่ไม่ควรให้มากเกินไป เพื่อไม่ให้สบู่ทิ้งคราบไขมันไว้บนกระจก เสร็จแล้วหาขวดสเปรย์เปล่ามาเทน้ำสบู่ที่ผสมเข้ากันไว้แล้วลงไป จากนั้นนำไปฉีดในตำแหน่งกระจกที่สกปรก เช็ดออกอีกครั้งจนหมดคราบ

3. น้ำส้มสายชู

น้ำส้มสายชูมีคุณสมบัติในการนำมาทำน้ำยาเช็ดกระจกได้เช่นกัน โดยสามารถนำมาผสมกับน้ำเปล่าให้เข้ากัน ในอัตราส่วนที่พอเหมาะ แล้วหาขวดสเปรย์มาบรรจุ นำไปพ่นบนกระจกที่มีคราบ จากนั้นนั้นเช็ดตามด้วยผ้านุ่มสะอาดเพื่อเป็นการช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่ติดอยู่บนพื้นกระจกให้หมดไป

4. น้ำเกลือ

เกลือเป็นส่วนผสมง่ายๆ ที่ทุกบ้านมีไว้ใช้ การทำความสะอาดกระจกด้วยเกลือทำได้โดย นำเกลือมาผสมกับน้ำในปริมาณที่เหมาะสมตามความต้องการ คนให้ละลายเข้ากัน เทลงขวดสเปรย์แล้วนำไปฉีดบริเวณพื้นที่ที่ต้องการ แล้วเช็ดด้วยผ้าสะอาด วิธีนี้ถือว่าทำได้ง่ายและประหยัดงบประมาณไม่น้อยเลยทีเดียว

5. สเปรย์แอลกอฮอล์

เป็นวิธีที่สามารถทำความสะอาดพร้อมฆ่าเชื้อโรคได้อีกด้วย โดยนำเอาแอลกอฮอล์ปริมาณ 2 ถ้วยตวง และน้ำเปล่า 1 แกลลอนมาผสมให้เข้ากัน เพราะแอลกอฮอล์มีความเข้มข้นสูงจึงต้องใช้น้ำในปริมาณมากเพื่อช่วยให้เจือจาง หากในบ้านมีสบู่ หรือน้ำมันมะกอกก็สามารถนำมาผสมรวมกันได้เพื่อความหอม โดยใส่ในปริมาณเพียง 5 หยดก็เพียงพอ จากนั้นบรรจุใส่ขวดสเปรย์แล้วฉีดพ่นบริเวณกระจกที่ต้องการทำความสะอาด จากนั้นให้ล้างออก เท่านี้ก็สามารถล้างคราบสกปรกได้แล้ว

6. แอมโมเนียผสมน้ำ 

นำแอมโมเนียที่มีกลิ่นฉุนในปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ มาผสมกับน้ำเปล่าในปริมาณน้ำครึ่งถังมาตรฐานให้เข้ากัน จากนั้นนำไปบรรจุภาชนะเช่นขวดสเปรย์เสร็จแล้ว นำไปฉีดพ่นตามต้องการ เช็ดออกด้วยผ้าแห้งสะอาดเท่านี้ก็ได้วิธีล้างสิ่งสกปรกออกจากกระจกภายในบ้านของเราแล้ว

7. น้ำยาล้างจาน

น้ำยาล้างจานก็สามารถทำความสะอาดกระจกได้เช่นกัน โดยนำน้ำยาล้างจานมาผสมน้ำเปล่าในอัตรา 1 ถ้วยตวง แล้วมาผสมให้เข้ากันกับน้ำส้มสายชูในอัตรา 1 ใน 4 ส่วนของถ้วยตวง จากนั้นเทใส่ขวดสเปรย์ล้างสะอาดแล้ว นำไปฉีดเพื่อใช้ทำความสะอาดเพียงเท่านี้เราก็สามารถเช็ดกระจกให้มีความเงางามและประหยัดได้อีกด้วย

8. เบกกิ้งโซดา

แน่นอนว่าหลายท่านคงมีไว้ติดบ้านประจำอยู่แล้วสำหรับผงสารพัดประโยชน์นี้ แท้จริงแล้วเบกกิ้งโซดานั้นมีคุณสมบัติที่สามารถทำความสะอาด ใช้ขัดคราบสกปรกต่าง ๆ ให้ออกจากสิ่งของเครื่องใช้ได้เป็นอย่างดี จึงไม่แปลกใจที่สามารถนำมาผสมกับน้ำเพื่อใช้เช็ดกระจกให้มีความเงางามได้อีกด้วย

ขั้นตอนการทำก็ไม่ยาก เพียงแค่นำเบกกิ้งโซดาในอัตราส่วน 1 ใน 4 ถ้วยตวง ผสมกับน้ำยาทำความสะอาด 1 ช้อนชา หากมีน้ำส้มสายชูสามารถนำมาผสมด้วยก็จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพการทำความสะอาด คนให้ละลายเข้ากัน แล้วหาขวดสเปรย์มาบรรจุน้ำยาที่ผสมไว้ เพียงเท่านี้ก็ได้อีกวิธีทำน้ำยาเช็ดกระจกไว้ใช้งานแล้ว

9. น้ำมะนาว

การใช้มะนาวเป็นทางเลือกทางหนึ่งในการทำความสะอาดกระจก โดยนำเอาผลไม้ในธรรมชาติที่หาซื้อได้ง่าย หรือมีปลูกไว้ในบ้านอยู่แล้วมาทำเป็นส่วนผสม ให้นำผลมะนาวมาคั้นเอาน้ำให้มีอัตราส่วน 2 ช้อนโต๊ะมาผสมกับสบู่เหลวในอัตรา 1 ช้อนโต๊ะจากนั้นให้นำน้ำส้มสายชูในอัตราส่วน 1 ใน 4 ของถ้วยตวงนำมาผสมด้วย จากนั้นหาขวดสเปรย์เพื่อนำมาบรรจุน้ำยาที่ผสมแล้วลงไป นำไปฉีดกระจกตามจุดที่ต้องการแล้วใช้ผ้าสะอาดเช็ดออก

10. ขี้เถ้าแกลบและโซดาไฟ

เป็นอีกสูตรหนึ่งที่ช่วยขจัดคราบสกปรกได้ดี ให้กระจกที่หม่นหมองแลดูไม่สวยงาม กลับมาสวยวับ เพิ่มความเงางามได้อีกด้วย โดยขี้เถ้าแกลบอาจหาซื้อได้ตามร้านขายต้นไม้ ขั้นตอนง่าย ๆ เพียงนำขี้เถ้าแกลบประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ มาผสมกับโซดาไฟให้เข้ากัน ในขั้นตอนนี้ควรระวังเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายจากสารโซดาไฟกัดมือ ให้สวมถุงมือ แล้วใช้ผ้าชุบน้ำจุ่มลงแล้วนำไปเช็ดกระจกสลับกับการเช็ดแห้งด้วยผ้าสะอาด เพียงเท่านี้กระจกที่เคยทิ้งคราบสกปรกก็จะไม่เหลือคราบให้รำคาญใจอีกต่อไป

11. แป้งข้าวโพด

แป้งข้าวโพดที่ใช้เป็นส่วนประกอบอาหารและทำขนมเป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถทำให้กระจกกลับมาเงางามสดใสได้ โดยนำแป้งข้าวโพดในปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ มาผสมกับน้ำอุ่นในปริมาณ 2 ถ้วยตวง คนละลายให้เข้ากัน จากนั้นหาขวดสเปรย์มาบรรจุเพื่อนำไปใช้งาน หากจะให้ดีควรหาน้ำส้มสายชูครึ่งถ้วยตวงมาผสมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพช่วยล้างสิ่งสกปรก เพราะน้ำส้มสายชูมีฤทธิ์เป็นกรด จากนั้นสามารถนำไปใช้งานได้ทันที

12. ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์

อีกสูตรหนึ่งหากบ้านใดมีไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ก็สามารถนำมาทำน้ำยาเช็ดกระจกได้เช่นกัน เพียงนำไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ในอัตราส่วน 1 ใน 4 ถ้วยตวงผสมรวมกับน้ำส้มสายชูในอัตรา 1 ใน 2 ถ้วยตวง และน้ำอุ่นในปริมาณ 1-2 แกลลอน ผสมให้มีความเข้ากัน อาจจะหาน้ำมันระเหยหรือมะนาวช่วยเพิ่มกลิ่นให้มีความหอมมากยิ่งขึ้น จากนั้นนำขวดสเปรย์มาบรรจุ แล้วนำไปฉีดบริเวณกระจกที่ต้องการกำจัดคราบ

13. กระจกฝ้า

กระจกฝ้า ปัญหาความมัวหมองที่ไม่ชวนมอง แลดูขัดตาเป็นที่สุด วิธีการง่าย ๆ ที่จะช่วยทำให้กระจกฝ้ากลับมาเงางามดังเดิม แค่นำผ้าสะอาดชุบน้ำให้พอหมาดนำมาถูกับก้อนสบู่ แล้วนำมาเช็ดบริเวณกระจกที่ต้องการทำความสะอาดเบา ๆ ล้างออกด้วยน้ำสะอาด เช็ดตามด้วยผ้าสะอาดอีกครั้ง เพียงเท่านี้ก็จะสามารถขจัดสิ่งสกปรกบนกระจกฝ้าเรียบร้อยแล้ว

14. กระจกบานเกล็ด

เป็นอีกหนึ่งกระจกที่สร้างความหนักใจไม่น้อยเมื่อเกิดคราบสกปรก เพราะการสอดผ้าเพื่อเข้าไปทำความสะอาดตามช่องกระจกดูนั้นไม่ง่ายเลย แต่หลายท่านอาจมองข้ามขั้นตอนและวิธีการง่ายนี้ไป เพียงแค่คุณนำเอาที่คีบและผ้าสะอาด 2 ชิ้นห่อปลายคีบด้วยผ้าเข้าด้วยกัน โดยใช้ยางรัดไว้ให้แน่นไม่ให้หลุดง่าย จากนั้นให้ พรมน้ำยาเช็ดกระจกให้ทั่วแล้ว รูดไปตามบานกระจกไปมาเพียงเท่านี้คุณก็สามารถทำความสะอาดกระจกบานเกล็ดที่ว่ายากได้อย่างง่ายดายแล้ว

15. กระจกบนที่สูง

วิธีนี้ต้องมีเครื่องมือช่วย โดยใช้แปรงยืดหดได้สำหรับใช้ในการเช็ดกระจกบนที่สูงโดยเฉพาะซึ่งหาซื้อได้ในท้องตลาดทั่วไป อุปกรณ์นี้ช่วยให้เราทำความสะอาดได้อย่างไม่ยุ่งยาก เพราะว่าหัวแปรงที่ติดมากับด้ามจะมีหลายแบบให้เลือกใช้ตามความเหมาะสม และด้ามมีความยาวสามารถใช้งานตามความสูงได้ตามที่เราต้องการ อีกทั้งมีการต่อท่อน้ำยาไปยังปลายของหัวแปรง เพื่อใช้ฉีดทำความสะอาดได้ โดยไม่ต้องเปลืองเวลาไปหาอุปกรณ์เสริมอีก

16. ข้อควรระวัง

การทำความสะอาดกระจกอาจมีวิธีใช้งานที่ต่างกันแล้วแต่ความเหมาะสม เราควรมีการเลือกใช้วิธีที่เหมาะกับชนิดและประเภทของกระจกด้วยการพิจารณาให้รอบคอบ เช่น

• หากกระจกมีความบาง อาจใช้แรงน้อยในการเช็ด ไม่ควรเพิ่มแรงกดให้มากเกินไปเพราะอาจทำให้กระจกแตกได้
• คำนึงถึงความปลอดภัย เช่น หากบริเวณที่ต้องการทำความสะอาดอยู่ที่สูง ควรใช้เครื่องมือช่วยที่มีการออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหานี้โดยเฉพาะ อย่าพยายามปีน เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายได้และควรศึกษาวิธีต่าง ๆ ให้เข้าใจก่อนนำไปใช้งาน

“วิธีทำความสะอาดกระจก” นับว่าเป็นวิธีที่ช่วยในการขจัดสิ่งสกปรกที่ติดตามกระจกทำให้มองแล้วดูไม่สวยงามออกไป เราควรหมั่นที่จะดูและเอาใจใส่ทำความสะอาดกระจกในบ้านให้ใสอยู่เสมอเพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ เพียงนำเคล็ดลับจากบทความนี้ไปทำให้กระจกทั่วบ้านของคุณใสสะอาดชวนมอง