จากคุณหมอตรวจคนไข้กลายมาเป็นผู้ตรวจไซต์งานโครงการขนาดใหญ่ แม้สองสิ่งจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่ความมุ่งมั่นที่จะเรียนรู้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดทำให้วันนี้คุณหมอสมเชาว์ ตันฑเทอดธรรมได้มาสวมบทบาทของกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือเอ็น ซี กรุ๊ปที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจอสังหาฯ กว่า 20 ปี
คุณสมเชาว์จบจากคณะแพทยศาสตร์ สาขาอายุรกรรม จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี 2521 จากนั้นรับราชการเป็นอายุรแพทย์อยู่ที่โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น ก่อนจะได้รับทุนของโรงพยาบาลไปศึกษาต่อด้านอายุรกรรมที่โรงพยาบาลรามาธิบดี แต่โชคชะตาพลิกผันให้เดินบนเส้นทางสายธุรกิจจากคำชักชวนของคุณพ่อ กระทั่งปี 2534 ได้ตัดสินใจทิ้งคราบคุณหมอแล้วก้าวสู่การเป็นผู้บริหารธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในนามบริษัท วังทอง กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทที่คุณพ่อกับน้องเขยร่วมกันก่อตั้งอย่างเต็มตัว
กระทั่งประมาณปี 2537 เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเมื่อน้องเขยได้เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็ง วังทอง กรุ๊ปจึงแบ่งให้ญาติฝั่งน้องเขยเป็นผู้ดูแลส่วนคุณพ่อคุณสมเชาว์ได้แยกออกมาจัดตั้งบริษัทใหม่นาม เอ็น ซี กรุ๊ป พัฒนาด้านอสังหาริมทรัพย์เช่นเดียวกัน การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่นแต่ต้องมาสะดุดเมื่อเจอวิกฤติฟองสบู่แตกในปี 2540 ทำให้หลายบริษัทต้องปิดตัวไปตามๆ กัน แต่คุณสมเชาว์ก็ไม่ย่อท้อแม้อุปสรรคพยายามติดต่อกับสถาบันการเงินในการขอปล่อยเงินกู้เพื่อที่จะสร้างบ้านให้เสร็จ พร้อมทั้งเจรจาและนำสัญญาที่เป็นธรรมมาใช้สร้างความเชื่อมั่นกับลูกค้า จนสามารถโอนบ้านและฟื้นตัวกลับมาเติบโตจนถึงทุกวันนี้
“นอกจากพื้นฐานของครอบครัวที่ค้าขายวัสดุก่อสร้างจนขยับมาทำอสังหาฯ ถือเป็นพื้นฐานและประสบการณ์เมื่อเข้ามาทำธุรกิจนี้ ผมได้เรียนรู้งานจากคุณพ่อ ทีมงาน และศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม รวมถึงการได้เข้ามาทำงานตั้งแต่ระดับล่างและการแก้ไขปัญหาต่างๆ ทำให้ผมได้รู้ เข้าใจและพร้อมที่จะสู้กับทุกอุปสรรคที่เกิดขึ้นได้” คุณสมเชาว์กล่าว
การทำธุรกิจของคุณสมเชาว์ยึดหลัก “บริหารอย่างสมดุล” เป็นกุญแจสู่การความสำเร็จในการทำธุรกิจ คุณสมเชาวน์บอกว่าการทำธุรกิจต้องอาศัยคนจำนวนมากทำงานร่วมกัน อาศัยเพียงเราคนเดียวธุรกิจก็ไม่สำเร็จ ต้องบริหารคนทำงานให้ได้ตามเป้าที่วางไว้ ขณะเดียวกันก็ต้องให้เขามีความสุขกับการทำงานสามารถเติบโตได้ในอนาคตส่วนเรื่องการเงินนั้นต้องจัดสรรเงินทุนในการดำเนินการได้อย่างไม่ติดขัด ถึงแม้บางส่วนจะต้องกู้ยืมมาก็ต้องให้เพียงพอแต่ไม่ควรเกินกำลังจนเกินไป
นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการดูแลครอบครัวและตัวเองไม่แพ้กัน เมื่อทำงานมาอย่างเต็มที่แล้วถึงเวลาที่ต้องพักผ่อนอยู่บ้านกับครอบครัวก็จะให้เวลาอย่างเต็มที่ ยามว่างคุณสมเชาว์มักหาเวลาไปเดินป่า ขับรถพาครอบครัวไปเที่ยวต่างจังหวัด ดูแลสุขภาพด้วยการตีเทนนิส พออายุเพิ่มขึ้นก็เริ่มหันมาสนใจกีฬากอล์ฟ ที่สำคัญต้องควบคุมอาหาร จัดสรรเวลาดูแลตนเองเป็นพิเศษ
“ผมโชคดีที่มีภรรยาที่ช่วยดูแลลูกชายทั้งสองคนได้อย่างดี ตอนนี้คนโตเป็นแพทย์และกำลังเรียนต่อปริญญาโทด้านศัลยกรรม ส่วนคนเล็กจบทางด้านวิศวกรรมและกำลังเรียนต่อปริญญาโทบริหารธุรกิจที่ประเทศอังกฤษ คาดหวังว่าลูกทั้งสองจะเข้ามาสานต่อธุรกิจในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นบริษัทเอ็น ซี กรุ๊ป และโรงพยาบาลลาดพร้าวที่ตนได้ถือหุ้นอยู่ด้วยเช่นกัน” คุณสมเชาว์กล่าว
ส่วนเป้าหมายที่วางไว้นั้นคุณสมเชาว์บอกว่าอยากจะทำให้ธุรกิจของเอ็น ซี กรุ๊ปเติบโตขึ้นอย่างยั่งยืน มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับ ส่วนตัวเองนั้นยังคงจะทำหน้าตรงนี้ต่อไปอย่างดีที่สุด พร้อมกับการสร้างทายาทและสร้างรากฐานธุรกิจให้มั่นคงเพื่อความอย่างยั่งยืนในอนาคตต่อไป
ระยะเวลากว่า 20 ปีในการขับเคลื่อนเอ็น ซี กรุ๊ปให้เติบโตมาถึงปัจจุบัน สามารถพัฒนาโครงการที่พักอาศัยมากว่า 50 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 3 หมื่นล้านบาท ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล ขยายสู่ต่างจังหวัดอย่างพัทยาและเชียงใหม่ ผ่านช่วงวิกฤติมาแล้วมากมาย น่าจะเป็นสิ่งที่การันตีถึงความสามารถในการบริหารงานของคุณสมเชาว์ได้เต็มภาคภูมิ...