“สิทธิพร สุวรรณสุต” แม่ทัพ PD House สร้างบ้านด้วยใจ ใช้ความชำนาญ

การสร้างบ้านนับเป็นการใช้เงินที่เก็บหอมรอมริบหรือเงินในอนาคตที่มีจำนวนมากมาเนรมิตที่อยู่อาศัย บางคนตั้งงบประมาณไว้แต่เมื่อลงมือก่อสร้างพบว่างบบานปลายออกไปเรื่อยๆ เกินงบจนเรียกขำๆ กันว่า บ้าน หรือ บาน กันแน่  เมื่อเป็นเช่นนี้หากต้องการควบคุมงบประมาณในการก่อสร้าง

การใช้บริการรับสร้างบ้านถือเป็นอีก 1 ตัวเลือกที่ดี วันนี้ทีมงาน Baania มีโอกาสพูดคุยกับคุณ สิทธิพร สุวรรณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีดีเฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล และยังสวมหมวก นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน อีกตำแหน่งหนึ่ง เกี่ยวกับธุรกิจรับสร้างบ้านที่น่าสนใจในหลายประเด็น

PD House เริ่มจากความถนัด เพื่อสร้างอนาคตให้ครอบครัว 
คุณสิทธิพร ปัจจุบันอายุ 56 ปี เรียนจบทางด้านสายก่อสร้าง เริ่มชีวิตการทำงานที่บริษัทเอกชนอยู่ช่วงหนึ่งจากนั้นมีโอกาสได้เข้ารับราชการในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ตำแหน่งช่างโยธา รับราชการได้ 7 ปี จึงมีความคิดเปลี่ยนมาทำธุรกิจของตนเอง โดยเลือกธุรกิจที่ถนัดคือ งานก่อสร้าง เพราะเคยทำงานบริษัทที่เกี่ยวกับการสร้างบ้าน สร้างที่อยู่อาศัย จึงเปิดบริษัทครั้งแรกที่ปทุมธานี ในปี 2533 ขณะอายุ 20 กว่าๆ ในชื่อบริษัทว่า ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป เป็นแบบห้างหุ้นส่วนจำกัด ในปี 2535 จึงได้จดทะเบียนเป็นแบบบริษัทจำกัด ลักษณะแบบผู้ประกอบการท้องถิ่น 

ด้วยพื้นฐานครอบครัวที่ไม่ได้มีฐานะต้องต่อสู้ดิ้นรนมาตลอด ทำให้อยากประสบความสำเร็จในอาชีพและครอบครัว จึงมีไฟและแรงผลักดัน ช่วงเริ่มธุรกิจใหม่ๆ นอนวันละ 3-4 ชั่วโมง ทำเองหมดทุกอย่าง และในช่วงแรกๆ ยังไม่ได้ลาออกจากราชการ เย็นกลับมาก็มานั่งทำงานถึงตีสอง ตีสาม พอเช้าหกโมงครึ่งก็ตื่นมาทำงานต่อ แปดโมงก็ไปทำงานรับราชการ เช่าบ้าน เช่าที่ทำงานอยู่ใกล้กับที่ทำงานราชการ

ผ่านวิกฤตร้อนหนาว ก่อนขยายสู่ภูมิภาค
ที่ผ่านมามีทั้งประสบความสำเร็จ บางครั้งเจออุปสรรค เกิดความผิดพลาด เจอวิกฤตต่างๆ  ทั้งดีและไม่ดีมาตลอด จนกระทั่งในปี 2552 เติบโตและขยายสาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และจังหวัดใกล้เคียง ได้ 10 สาขา จึงเริ่มรับสร้างบ้านไปในส่วนภูมิภาคให้ได้ ในช่วงปี 2546-2547 โดยภาคเหนือจังหวัดเชียงใหม่, พิษณุโลก, เชียงราย ส่วนภาคใต้มีหาดใหญ่, ภูเก็ต

สำหรับลูกค้าในจังหวัดเชียงใหม่ปัจจุบันจะเป็นลูกค้าที่ทำธุรกิจหรืออาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ แต่ต้องการมีบ้านหลังที่สองที่เชียงใหม่ ประมาณร้อยละ 60 และเป็นลูกค้าที่พื้นเพเป็นชาวเชียงใหม่ แต่มีธุรกิจอยู่ที่กรุงเทพฯ พ่อแม่อยู่ทางนี้ต้องการปลูกบ้านอีกร้อยละ 40 

เริ่มทำตลาดที่เชียงใหม่ในตอนแรก สิ่งหนึ่งเพราะมีช่างฝีมือจำนวนมาก มีความต้องการทั้งในและคนนอกพื้นที่ จึงสามารถเลือกช่างที่มีฝีมือมาร่วมงานได้ โดยจะอบรมช่างที่เข้าร่วมงานกับบริษัท เพื่อเป็นการยกระดับพัฒนาคุณภาพการสร้างบ้าน นำเอานวัตกรรมเข้ามาเพื่อให้ช่างเบาแรง เอาระบบคาน ระบบเสาสำเร็จรูปเข้ามา ออกแบบและสั่งโรงงานผลิต นำมาติดตั้งโดยไม่ต้องมาผสมคอนกรีตให้เหนื่อยโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยแทนที่จะใช้แรงงาน 20-30 คนก็เหลือเพียงแค่ 4-5 คน  แทนที่จะเสร็จภายใน 3 เดือนสำหรับโครงสร้างก็เสร็จภายใน 20 วัน ช่างเหนื่อยน้อยลงแต่ได้ค่าตอบแทนเช่นเดิม มีคู่มือในการทำงาน และมีระบบการตรวจสอบ 

เจาะกลุ่มลูกค้าหลากหลาย พร้อมวางระบบขยายสาขา 
กลุ่มลูกค้าภาคเหนือส่วนใหญ่จะเป็นบ้านราคา 3 ล้านขึ้นไป เฉลี่ยจะอยู่ประมาณ 4-6 ล้านบาท จะเป็นคนในพื้นที่ คนกรุงเทพฯ คนในพื้นที่ใกล้เคียงและต่างชาติกลุ่มสแกนดิเนเวีย ยุโรป ประมาณร้อยละ 5 ผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท ที่ไม่ได้เน้นขายของ แต่จะให้ข้อมูล ความรู้พร้อมการรีวิวของลูกค้าที่เคยใช้บริการ สำหรับสาขาของ PD House มี 2 รูปแบบ  คือ

1. บริษัทเราขยายสาขาออกมาจากบุคลากรของเราที่เติบโตขึ้นมา ประสบการณ์มากขึ้น หรือว่าอยากจะกลับท้องถิ่นหรือบ้านเกิด เราไว้วางใจ เราก็จะมีสาขาเปิดและส่งเขากลับบ้านเกิด ไปบริหารสาขา
2. แบบระบบแฟรนไชส์ โดยบริษัทเข้ามาดำเนินการวางระบบให้ ให้นักลงทุนเข้ามาศึกษาโดยเราจะถ่ายทอดการทำธุรกิจ มีส่วนกลางดูแลร้อยละ 50 และแฟรนไชส์อีกร้อยละ 50 ปัจจุบัน PD House มีจำนวน 30 สาขา 

หลักในการบริหารจัดการใช้วิธีหาคนเก่งมาทำงาน หาคนเชี่ยวชาญในแต่ละด้านมาร่วมงาน และมอบอำนาจให้ตัดสินใจ ผิดถูกถือว่าเป็นการ-ทำงานร่วมกัน ส่วนเป้าหมายในอนาคต ถ้าวางมือไป PD House ยังขับเคลื่อนไปได้ด้วยระบบที่วางไว้ได้ โดยมีบุคลากรรุ่นหลังมีนักลงทุนเข้ามาร่วมทำธุรกิจกันในแต่ละพื้นที่ คิดว่านั่นคือความสำเร็จ ไม่ใช่เรื่องเงินทองเพราะเมื่ออายุเยอะใช้จ่ายได้นิดหน่อย เหลือแค่ดูแลสุขภาพตัวเองไม่ให้เจ็บป่วย แต่ขอให้ธุรกิจนี้มันเดินหน้าต่อไปได้ ตามที่เราได้วางแนวทาง วาง-ระบบการจัดการไว้ให้ ปลูกฝังคนรุ่นใหม่ให้ก้าวขึ้นมา การทำงานปัจจุบันจึงถือเป็นการพักผ่อนไปในตัว โดยเฉพาะ 10 ปีที่ผ่านมา พบว่าหลงเสน่ห์เมืองไทยอย่างแรง หลังจากได้มาเยี่ยมสาขาในแต่ละพื้นที่ จากที่ก่อนนี้คิดแต่จะไปเที่ยวต่างประเทศ ไปดูความศิวิไลซ์ แต่วันนี้หลงเสน่ห์กับธรรมชาติเมืองไทยสำนักงานสาขาอยู่ในเมือง แต่หลังจากที่มาแวะดูงานเสร็จก็จะไปในพื้นที่ต่างๆ 

ความสุขจากการทำงานที่มาพร้อมกับผลงานคุณภาพได้มาตรฐานของ PD House นอกจากจะสร้างรอยยิ้มให้กับผู้อยู่อาศัยแล้วยังเป็นการสร้างความสุข ให้กับชายชื่อ สิทธิพร สุวรรณสุต ในฐานะคนปลูกเรือนให้กับลูกค้า ดังที่เขาตั้งใจไว้เช่นกัน...