ถือเป็นอีกปีทองสำหรับการซื้อบ้านมือสอง เพราะมีมาตรการรัฐต่างๆ เข้ามาสนับสนุน นอกจากมาตรการรัฐแล้ว เหล่าธนาคารต่างก็ออกโปรสินเชื่อจูงใจคนมาซื้อบ้านมือสองกับเขาด้วยเช่นกัน เรามาดูกันครับว่าสินเชื่อบ้านมือสองปี 2565 ของธนาคารไหนตอบโจทย์ตรงสไตล์การกู้และผ่อนบ้านของเราบ้าง
สินเชื่อบ้าน ธอส. สำหรับคนที่จะซื้อบ้านมือสองที่เราจะแนะนำในวันนี้ก็คือ สินเชื่อบ้าน All Home สินเชื่อนี้สามารถซื้อได้ทั้งบ้านใหม่ บ้านมือสอง หรือทรัพย์ NPA ของ ธอส. ผ่อนได้นาน ตั้งแต่ 3 ปี 6 เดือน ถึง 40 ปี โดยอายุผู้กู้รวมกับระยะเวลาที่ขอกู้จะต้องไม่เกิน 70 ปี ในส่วนของวงเงินนั้นเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
สำหรับลูกค้าสวัสดิการ อัตราดอกเบี้ย 1-3 ปีแรกจะอยู่ที่ = MRR – 2.40 % ต่อปี แต่หากเป็นกลุ่มลูกค้ารายย่อย (Self Welfare) อัตราดอกเบี้ย 1-3 ปีแรกจะอยู่ที่ = MRR – 2.30 % ต่อปี หากสนใจสามารถยื่นคำขอกู้ อนุมัติ และทำนิติกรรมตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2565 โดยสามารถดูรายละเอียดของสินเชื่อตัวนี้ได้ที่ >> https://www.ghbank.co.th/product-detail/all-home-2565
สินเชื่อบ้านมือสองของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ก็น่าสนใจมีจุดเด่นอยู่ที่อัตราดอกเบี้ยต่ำ อนุมัติเร็ว ได้วงเงินกู้สูงสุดถึง 90% ของราคาประเมิน แถมยังรผ่อนชำระนานได้นานสูงสุดถึง 30 ปี แต่รวมระยะเวลาการผ่อนชำระเมื่อรวมกับอายุผู้กู้แล้วต้องไม่เกิน 65 ปี มาดูกันที่ดอกเบี้ยหากซื้อบ้านตั้งแต่ 1 ล้านบาท แต่ไม่ถึง 5 ล้านบาท จะได้อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-3 แรกจะอยู่ที่ MRR-2.125% ต่อปี แต่ถ้าวงเงินตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป จะได้อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-3 จะอยู่ที่ MRR-2.375% ต่อปี ถ้าเห็นว่าสินเชื่อบ้านมือสองนี้ตอบโจทย์ตรงใจจะต้องรีบสมัครยื่นกู้ภายใน 31 ธันวาคม 2565 สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่>> https://www.krungsri.com/th/personal/loans/home-loans/homeloan#section4
ใครชอบเรื่องการอนุมัติไว ต้องสินเชื่อบ้านมือสองของธนาคารกสิกรไทย เพราะอนุมัติเบื้องต้นไวสุดเพียง 3 วันทำการเท่านั้น ที่สำคัญเงินเดือน 15,000 บาทก็สามารถกู้ขอซื้อบ้านได้ โดยให้วงเงินสูงสุด 90% ของมูลค่าหลักประกัน พร้อมให้ระยะเวลาผ่อนสูงสุด 30 ปี แต่อายุรวมแล้วจะต้องไม่เกิน 70 ปี ในส่วนของอัตราดอกเบี้ยนั้นหากเป็นผู้ที่มีรายได้ประจำจะได้รับอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีอยู่ที่ 7.72% ต่อปี
แต่หากมีรายได้ต่อเดือนตั้งแต่ 30,000 - 50,000 บาทขึ้นไป จะได้รับดอกเบี้ยพิเศษสุดปีที่ 1-3 จะอยู่ที่ MRR +0.93% ต่อปี เท่านั้น และพิเศษสุดใครมีรายได้ต่อเดือนตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป จะได้รับดอกเบี้ยพิเศษสุดปีที่ 1-3 จะอยู่ที่ MRR -0.07% ต่อปี เท่านั้น แต่จะต้องยื่นกู้สินเชื่อบ้านวันนี้ - 30 กันยายน 2565 และจดจำนองภายใน 31 ตุลาคม 2565 เท่านั้นนะครับ โดยจะได้วงเงินกู้ไม่เกิน 90% ของมูลค่าหลักประกัน หากสนใจอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่>> https://www.kasikornbank.com/th/personal/loan/homeloan/pages/home.aspx
4. สินเชื่อบ้านมือสองธนาคารยูโอบี(UOB)
ใครอยากได้วงเงินเต็ม 100% สินเชื่อบ้านมือสองของธนาคารยูโอบี(UOB) ถือว่าตอบโจทย์สุดๆ เพราะหากทรัพย์ที่จะซื้ออยู่ในพื้นที่ที่กำหนดก็จะได้วงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาประเมิน แถมยังผ่อนยาวๆ ได้นานถึง 30 ปี ส่วนดอกเบี้ยก็เบาถึงใจ หากวงเงินกู้ขั้นต่ำ 5 แสนบาท และสูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาทขึ้นอยู่กับที่ตั้งของหลักประกัน พร้อมทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ (MRTA) อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-3 จะอยู่ที่ MRR-3.80% ต่อปี แต่หากไม่ทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ (MRTA) อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-3 จะอยู่ที่ MRR-3.60% ต่อปี ถ้าสนใจสมัครใช้บริการได้ตั้งแต่วันนี้ - 30 กันยายน 2565 และจดจำนองภายใน 31 ตุลาคม 2565 สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่>> https://www.uob.co.th/homeloan/products/home-loan/index.page
สินเชื่อบ้านมือสองปีแรกให้ดอกต่ำ ต้องสินเชื่อบ้านมือสองของธนาคารกรุงไทยที่ให้ดอกเบี้ยปีแรกเริ่มต้น 0.75% ต่อปีเท่านั้น แถมปีแรกยังผ่อนต่ำล้านละ 3,000 บาท/เดือน และผ่อนได้นานสูงสุดถึง 40 ปี วงเงินกู้บ้านก็ให้สูงสุดถึง 100% ซึ่งหากทำประกัน MRTA อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-3 = MRR - 3.35% ต่อปี แต่หากไม่ทำประกัน อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-3 = MRR - 3.25% ต่อปี ใครสนใจจะต้องสมัครใช้บริการยื่นสมัครสินเชื่อภายใน ภายในวันที่ 30 กันยายน 2565 และทำนิติกรรมจำนองภายใน 30 วัน โดยดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ >> https://krungthai.com/th/personal/loan/housing-loan/16
ใครชอบสินเชื่อบ้านที่เลือกผ่อนได้ต้องสินเชื่อบ้านมือสองของธนาคารกรุงเทพ หรือสินเชื่อบ้านบัวหลวง ให้วงเงินกู้สูงสุด 100% ของมูลค่าหลักประกัน แต่หากราคาซื้อขายสูงเกินกว่า 10 ล้านบาท วงเงินสินเชื่อสูงสุดไม่เกิน 80% ของมูลค่าหลักประกันครับ โดยสามารถผ่อนได้นานสูงสุด 30 ปี แต่หากเป็นพนักงานประจำจะผ่อนได้สูงสุด 35 ปี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นรวมอายุผู้กู้สูงสุดจะต้องไม่เกิน 65 ปี
ในส่วนของดอกเบี้ยนั้น สำหรับคนที่มีรายได้ประจำ หากวงเงิน 1 ล้านบาทขึ้นไป แต่ไม่เกิน 5 ล้านบาท จะมีอัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 : 3.00% ต่อปี และปีที่ 2-3 : 4.95% ต่อปี หรือจะเลือกแบบ 3 ปีแรก 4.20% ต่อปีก็ได้ครับ แต่หากวงเงินตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป จะมีอัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 : 3.00% ต่อปี และปีที่ 2-3 : 4.45% ต่อปี หรือจะเลือกแบบ 3 ปีแรก 4.075% ต่อปีก็ได้ หากสนใจสินเชื่อตัวนี้สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ >> https://www.bangkokbank.com/th-TH/Personal/My-Home/Home-Loan/Loans-for-General-Customers
สินเชื่อเคหะ หรือสินเชื่อบ้านของธนาคารออมสิน ก็เป็นอีกสินเชื่อบ้านมือสองที่น่าสนใจ โดยให้วงเงินกู้รวมกันสูงสุดไม่เกิน 110% ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมินหลักทรัพย์แล้วแต่ราคาใดที่ต่ำกว่า แถมยังผ่อนได้นานสูงสุด 40 ปี เมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาที่ชำระเงินกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี สำหรับดอกเบี้ยนั้นจะต้องไปสอบถามธนาคารอีกครั้งนะครับ เพราะธนาคารจะเป็นผู้กำหนดเองครับ หากสนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่>> https://loanreg.gsb.or.th/Page/ProductGeneric/LoanRegisterHousing.aspx
หนึ่งในสินเชื่อบ้านมือสองวงเงินสูง ดอกเบี้ยต่ำ ต้องสินเชื่อบ้านธนาคารทีทีบี โดยให้วงเงินกู้สูงสุด 100% สำหรับกู้ซื้อบ้านในโครงการที่กำหนดราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท และบ้านโครงการทั่วไปให้วงเงินอนุมัติสูงสุดไม่เกิน 95% ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมินธนาคาร แล้วแต่ราคาใดต่ำกว่า ระยะเวลาผ่อนก็ให้ผ่อนนานสูงสุดถึง 35 ปี ทั้งนี้ เมื่อรวมกับอายุผู้กู้แล้วไม่เกิน 65 ปี ในส่วนของดอกเบี้ยนั้นหากสมัครพร้อมผลิตภัณฑ์ที่ธนาคารกำหนดจะได้รับอัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-3 = MRR -1.73% ต่อปี ถ้าไม่สมัครผลิตภัณฑ์ที่ธนาคารกำหนดจะได้รับดอกเบี้ยปีที่ 1-3 = MRR -0.98% ต่อปี หากสนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่>> https://www.ttbbank.com/th/personal/loans/home-loan/home-loan
สินเชื่อบ้านมือสองของแต่ละธนาคารมีจุดเด่นและมีความหลากหลายต่างกันไป ก่อนตัดสินใจยื่นกู้อย่าลืมศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนเลือกนะครับ เพื่อจะได้สินเชื่อบ้านที่ดีที่สุด ตอบโจทย์เราที่สุด และจะได้ไม่ต้องทำเอกสารยื่นให้เสียเวลาและวุ่นวายอีกด้วย