ประตูหน้าบ้านหรือประตูบ้านเปรียบเสมือนแขนที่ไว้อ้ารับสิ่งต่างๆ เข้ามาในบ้าน และแน่นอนว่าเป็นสิ่งแรกที่เราจะต้องพบเวลาจะเข้าบ้าน ในตามตำราฮวงจุ้ยนั้น ถือว่าประตูหน้าบ้านมีบทบาทในการนำโชคลาภเข้ามามากที่สุด วันนี้ Baania จะพาคุณมาสำรวจฮวงจุ้ยประตูบ้านของคุณว่าจะ ให้โชคหรือจะหลุดโชค จะเป็นอย่างไรนั้นตามมาดูกันเลยครับ
ว่ากันด้วยเรื่องการวางตำแหน่งประตูรั้วบ้านและประตูหน้าบ้าน หากบ้านของคุณได้รับการออกแบบให้เป็นแบบนี้ แน่นอนว่าถ้ามองตามความสวยงามแล้ว ภาพที่เห็นก็น่าพอใจทีเดียวเชียว แต่หากมองในแง่ของหลักฮวงจุ้ยประตูบ้านแล้ว หากประตูหน้าบ้านตรงกับประตูรั้วแบบนี้ ถือว่าไม่ดีและไม่เหมาะกับการอยู่อาศัย เพราะจะส่งผลให้ทะเลาะเบาะแว้งกับเพื่อนบ้าน คนในบ้านไม่ปรองดองกัน ปะทะกันตลอดเวลา ตำแหน่งที่ดีทางฮวงจุ้ยประตูเข้าบ้านที่แนะนำก็คือ ประตูหน้าบ้านจะต้องอยู่เฉียงกับประตูรั้ว
แล้วประตูบ้านควรอยู่ทิศไหนดีล่ะ? ใครๆ ก็อยากออกแบบบ้านให้สวยงามกันทั้งนั้น แต่จะรู้หรือไม่ ความสวยงามมักจะขัดแย้งกับหลักฮวงจุ้ยเสมอ สำหรับการกำหนดทิศทางของประตูบ้านนั้น ในหลักฮวงจุ้ยประตูบ้านถือเป็นเรื่องที่สำคัญเพราะทิศทางที่เหมาะสมของฮวงจุ้ยประตูเข้าบ้าน ควรอยู่ในทิศใต้จะดีที่สุด เพราะทิศใต้เป็นทิศของทรัพย์หรือโชคลาภ นอกจากนี้ยังเป็นทิศทางลมที่ดีอีกด้วย
หลายบ้านมักออกแบบบ้านที่มีบันได เพื่อความเหมาะสมของโครงสร้าง เมื่อคำนึงตามหลักฮวงจุ้ยประตูบ้านแล้ว ตำแหน่งของบันไดบ้านต้องไม่ตรงกับประตูหน้าบ้าน โดยเชื่อว่ามีผลเสียต่อผู้อยู่อาศัย ทำให้จะต้องพบเจอกับสิ่งที่อันตราย อาจจะรุนแรงจนถึงขั้นเจ็บหนัก ไม่สามารถคาดการณ์เหตุต่างๆ ได้
แต่ละบ้านมักจะออกแบบบริเวณทางเข้าบ้านเป็นสนามหรือมีที่โล่ง เพราะในตำราฮวงจุ้ยประตูบ้านกล่าวว่า บริเวณที่โล่งหน้าประตูบ้านก็เปรียบเสมือนลานรับพลัง หน้าประตูไม่ควรมีสิ่งปิดบัง เช่น ต้นไม้ใหญ่ บริเวณหน้าประตูที่ดีจะต้องให้แสงแดดส่องถึง มีลมพัดผ่านได้ดี บ้านนั้นก็จะรับแต่สิ่งดีๆ เข้าบ้าน
บ้านที่มีขนาดต่างกัน จะมีการจัดวางตำแหน่งภายในบ้านและตำแหน่งห้องภายในบ้านที่ต่างกัน บ้านที่มีขนาดใหญ่มักจะมีห้องน้ำอยู่ภายในห้องนอน หากตำแหน่งประตูห้องน้ำตรงกับเตียงนอน กลางเตียง หรือปลายเตียง เป็นสิ่งที่ไม่ดีอย่างยิ่งและไม่ถูกสุขลักษณะเพราะความชื้นของห้องน้ำจะระเหยออกมากระทบตัวของผู้นอนทุกคืน ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยแบบไร้สาเหตุได้ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยง
บ้านแต่ละขนาดจะมีหลักในการกำหนดตำแหน่งประตูไม่เหมือนกัน การวางตำแหน่งประตูทางเข้าบ้านไว้ตรงกลางจะเหมาะกับบ้านหลังใหญ่ เพราะประตูบ้านตามหลักฮวงจุ้ยกล่าวไว้ว่า กระแสที่วิ่งมาจากประตูทางเข้าห้ามชนตัวบ้าน ถ้าบ้านมีพื้นที่น้อยแล้ววางประตูอยู่ตรงกลาง โอกาสที่จะกระแสจะวิ่งชนตัวบ้านก็มีสูง
ประตูบ้านเปิดเข้าหรือเปิดออกออกแบบมาตามความเหมาะสมของบ้านแต่ละหลัง บางครั้งเจ้าของบ้านออกแบบตามความชอบและความสวยงาม ตามหลักฮวงจุ้ยประตูเข้าบ้านกล่าวว่าการออกแบบประตูบ้านควรเปิดในลักษณะเปิดเข้าจะดีที่สุด ในปัจจุบันประตูบ้านส่วนใหญ่จะเปิดออก เพราะต้องทำประตูเหล็กดัดอีกชั้นหนึ่ง แต่ไม่ได้เสียหายอะไรมากถ้าประตูจะเปิดออก เรื่องความปลอดภัยน่าจะสำคัญมากกว่าความสะดวกในการเข้าบ้าน
โดยส่วนใหญ่บ้านแต่ละหลังจะมีทางเข้าเพียง 1 ทางเท่านั้น หากบ้านไหนมีประตูเข้าบ้าน 2 ประตู จะต้องคำนึงหลักฮวงจุ้ยเพราะการกำหนดจำนวนประตูทางเข้ามีความสำคัญมากเป็นกฎข้อห้ามอีกข้อหนึ่ง ถือว่าการมีประตูเข้าบ้าน 2 ประตู เท่ากับมี 2 ปาก ตามหลักฮวงจุ้ยประตูบ้านแล้วจะถือว่าทำให้เก็บทรัพย์ไม่อยู่
นอกจากประตูหน้าบ้านแล้วประตูหลังบ้านก็สำคัญเช่นกัน จากที่กล่าวถึงฮวงจุ้ยของประตูบ้านมาหลายข้อ ยังมีอีกหนึ่งข้อที่สำคัญมากและต้องคำนึงถึงหากต้องเลือกตำแหน่งประตูบ้าน การเลือกตำแหน่งของประตูหน้าและหลัง ไม่ควรให้มองเห็นตรงกัน เนื่องด้วยพลังงานบวกที่เข้ามาจะออกไปโดยทันที แต่หากบ้านใครออกแบบมาผิด ตรงส่วนนี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการหาตู้มาวางกั้น หรือนำผ้าม่านมาปิดกั้นไว้อีกชั้น เป็นการลดทอนการรั่วไหลของพลังงานได้ดี
สุดท้ายแล้ว ฮวงจุ้ยก็เป็นเรื่องของความเชื่อนะครับ Baania แนะนำหากอยู่แล้วมีความสุขหรือพอใจแล้วก็ใช้แบบเดิมก็ได้ แต่หากมีความเชื่อเรื่องนี้ ปรับเปลี่ยนฮวงจุ้ยประตูบ้านใหม่สักนิดก็ถือว่าดีไม่ใช่น้อยเลยนะครับ