การเทพื้นคอนกรีต ในการสร้างบ้านนั้น ต้องคำนึงถึงการเลือกใช้คอนกรีตที่ได้มาตรฐาน มีความแข็งแรงทนทานและรับน้ำหนักได้ดี เพราะจะช่วยให้พื้นคอนกรีตบ้านมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ไม่แตกร้าวได้ง่าย ซึ่งในปัจจุบันมีเครื่องมือที่ทันสมัยมากมาย ช่วยให้สะดวกสบายในการลงพื้นคอนกรีตได้รวดเร็วขึ้น
เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกที่ควรจะทำเลยคือ การปรับระดับหน้าดินให้ได้ระดับและมีความสม่ำเสมอเท่ากันก่อน ไม่ว่าจะเป็นการเทพื้นทางด้านนอกบ้านหรือในบ้าน เพราะหากปรับพื้นที่ไม่เสมอกัน ด้วยความต่างของระดับจะทำให้เกิดแรงดันรั้วในจุดนั้นแล้วดันพื้นผิวหน้าคอนกรีตให้เกิดการยกตัวแตกร้าวขึ้นได้
หลังจากมีการเตรียมดินและคำนวณพื้นที่มาแล้ว ควรมีการวัดความหนาในพื้นที่ของมุมต่าง ๆ เพื่อให้กะได้ว่าจำนวนและปริมาณของคอนกรีตที่จะนำไปใช้ควรมีปริมาณเท่าไหร่ อย่าใช้การคำนวณพื้นที่จากการจดบันทึกโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดปัญหาความไม่แน่นอน เช่น ทำให้การเทพื้นคอนกรีตไม่ต่อเนื่อง ไม่ผสานเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน เป็นต้น ส่งผลให้คอนกรีตไม่เพียงพอต่อการใช้งาน ทำให้ต้องสั่งเพิ่มแถมทำงานล่าช้าไปอีก
ก่อนทำการเทพื้นคอนกรีตทุกครั้ง ต้องคำนวณพื้นที่ใช้งานและปริมาณของคอนกรีตที่ใช้ให้มีความเหมาะสม ซึ่งจำเป็นอย่างมากในการกำหนดพื้นที่รอยต่อ เพื่อลดการยืดและการหดตัวของคอนกรีตที่เทลงไป หากมีรอยต่อที่ติดกับขอบผนัง จะถือว่าเป็นรอยต่อที่มีการแยกแบบอิสระ ไม่จำเป็นต้องมีโครงสร้างเพื่อลดปัญหาการรั้งตัวจากการทรุดตัวของพื้นคอนกรีต
มีรอยต่ออีกอย่างหนึ่งที่เป็นรอยต่อที่แบ่งเป็นส่วนเล็ก ๆ ช่วยลดแรงรั้งจากการหดตัวเช่นกัน ซึ่งรอยต่อประเภทนี้จะมีระยะของรอยต่อเป็นตัวกำหนด โดยจะขึ้นอยู่กับความหนาของพื้นคอนกรีต นิยมใช้เป็นรูปสี่เหลี่ยมในการทำรอยต่อเพื่อความสะดวกและง่ายต่อการทำงาน
ขั้นตอนการเทพื้นคอนกรีตให้มีความเรียบสวยและดูดีนั้นมีปัจจัยอยู่หลายด้าน ทั้งนี้ก็เพื่อให้การเทพื้นคอนกรีตออกมาดี ไม่เกิดความเสียหายและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ดังนั้น หากท่านนำความรู้ที่ได้จากบทความนี้ไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ ก็จะเป็นแนวทางให้ทุกท่านมีพื้นที่คอนกรีตที่เรียบเนียนสวยงามไว้ใช้งานตรงความต้องการและไม่ต้องคอยกังวลปัญหาที่จะตามในภายหลัง