เลื่อยนั้นจัดว่าเป็นเครื่องมือช่างพื้นฐานที่มีความจำเป็นจะต้องมีไว้ติดบ้าน เพราะเลื่อยนั้นสามารใช้ประโยชน์สำหรับการตัดสิ่งต่างๆ ตามแต่ประเภทของเลื่อยนั้นๆ คนส่วนมากจะคุ้นเคยกับเลื่อยที่เอาไว้ใช้เลื่อยไม้แบบปกติที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป แต่ในความเป็นจริงแล้วเลื่อยนั้นมีมากมายหลายประเภท ซึ่งเลื่อยแต่ละประเภทจะมีรูปทรงที่ รวมไปถึงวัสดุที่นำมาทำตัวเลื่อย และวัสดุที่นำมาทำเป็นใบเลื่อยแตกต่างกันไปตามลักษณะการใช้งาน
เลื่อย (Saw) เป็นเครื่องมือชนิดหนึ่งที่ใช้ในการตัดสิ่งต่างๆ ให้ขาดออกจากกัน ส่วนประกอบหลักของเลื่อยมีอยู่ 2 ส่วนคือใบเลื่อย และด้ามจับ ซึ่งใบเลื่อยนั้นจะทำมาจากวัสดุต่างๆ แตกต่างกันไปตามประเภทของการใช้งาน แต่ส่วนมากใบเลื่อยนั้นจะทำมาจากเหล็กกล้า เพราะว่ามีความแข็งแรง สามารถใช้งานได้เป็นระยะเวลานาน ส่วนด้ามจับนั้นเมื่อก่อนนิยมทำจากไม้ แต่ในปัจจุบันด้ามจับของเลื่อยประเภทต่างๆ ทำมาจากวัสดุต่างๆ ที่มีความแข็งแรงตามแต่ความต้องการในการใช้งานนั่นเอง
ส่วนการแบ่งประเภทของเลื่อยนั้นจะแบ่งตามประเภทของวัสดุที่เลื่อยนั้นสามารถตัดได้ ทำให้มีการแบ่งเลื่อยออกเป็น 2 ประเภทคือเลื่อยตัดไม้ และเลื่อยตัดเหล็ก ซึ่งเลื่อยทั้งสองประเภทนี้สิ่งที่แตกต่างกันนอกอย่างชัดเจนคือคุณสมบัติของใบเลื่อยนั่นเอง
เป็นเลื่อยที่ใบเลื่อยนั้นถูกออกแบบมาให้ใช้ตัดไม้ หรืออาจจะตัดวัสดุอื่นๆ ได้บ้าง ซึ่งเลื่อยตัดไม้นั้นก็มีมากมายหลายรูปแบบตามแต่ลักษณะการทำงาน ซึ่งจะมีทั้งเลื่อยมือ คือเลื่อยที่ใช้แรงงานของคนในการตัด, เลื่อยไฟฟ้า คือเลื่อยที่ใช้ระบบไฟฟ้าในการทำงาน ไม่ต้องใช้แรงงานในการตัด จะใช้ในการตัดไม้ต่างๆ เป็นจำนวนมาก หรือต้องการความรวดเร็ว, เลื่อยยนต์ เป็นเลื่อยที่ใช้เครื่องยนต์ในการทำงานให้ใบเลื่อยหมุนนั่นเอง ซึ่งเลื่อยยนต์ส่วนมากจะใช้ในการตัดต้นไม้
เลื่อยตัดเหล็กนั้นแตกต่างจากเลื่อยไม้ในเรื่องของวัสดุที่สามารถตัดได้นั่นเอง เลื่อยตัดเหล็กนั้นใบเลื่อยถูกออกแบบมาให้ตัดโลหะประเภทต่างๆ ได้อย่างสะดวก ซึ่งเลื่อยตัดเหล็กที่นิยมใช้ส่วนมากก็จะเป็นเลื่อยมือ และเลื่อยไฟฟ้า แต่การใช้เลื่อยตัดเหล็กในการตัดโลหะประเภทต่างๆ นั้นต้องเลือกใช้ใบเลื่อยที่ถูกออกแบบมาให้ใช้กับโลหะแต่ละชนิด
เมื่อรู้ว่าเลื่อยนั้นมีกี่ประเภทแล้ว ลองมาดูกันว่าเลื่อยแต่ละประเภท แต่ละชนิดนั้นมีรายละเอียดอย่างไร และสามารถใช้งานอะไรได้บ้าง
เลื่อยลันดาน่าจะเป็นเลื่อยที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยมากที่สุด เพราะเลื่อยลันดานั้นมีการใช้อย่างแพร่หลายมาตั้งแต่สมัยอดีต เนื่องจากเป็นเลื่อยที่สามารถใช้ในการตัดไม้ได้หลากหลายประเภท มีขนาดพอเหมาะใช้งานง่าย มีความยาวประมาณ 16 – 24 นิ้วตามซึ่งสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมในการใช้งาน
เลื่อยลันดานั้นเหมาะสมกับการใช้ในงานช่างไม้ งานก่อสร้าง หรือการตัดกิ่งไม้ที่มีขนาดไม่ใหญ่นัก ทำให้เป็นเลื่อยที่ได้รับความนิยม และมีไว้ใช้งานในแทบทุกบ้าน
เลื่อยหางหนูจัดเป็นเลื่อยขนาดเล็กที่ใช้สำหรับเลื่อยไม้ หรือวัสดุอื่นๆ อย่างเช่นฝ้า หรือยิปซัมเนื่องจากเป็นเลื่อยขนาดเล็กทำให้เลื่อยหางหนูนั้นสามารถเลื่อยได้ละเอียด และเลื่อยให้ทรงโค้งได้ง่าย ทำให้เลื่อยหางหนูนั้นนิยมใช้ในงานเฟอร์นิเจอร์ งานตกแต่งภายใน ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของเลื่อยหางหนูคือเป็นเลื่อยที่สามารถเปลี่ยนใบเลื่อยได้ง่าย หรือถ้าไม่ได้ใช้งานก็สามารถถอดใบเลื่อยเก็บเพื่อป้องกันอันตรายได้
เลื่อยฉลุนั้นเป็นเลื่อยที่เหมาะกับการทำงานที่ต้องเก็บรายละเอียด หรือสร้างลวดลายต่างๆ ลงบนชิ้นงานไม้ เลื่อยฉลุมีคุณสมบัติพิเศษคือสามารถตัดชิ้นงานขนาดเล็กได้ดี สามารถตัดไม้ให้เป็นมุมโค้งต่างๆ ได้ง่าย เนื่องจากใบเลื่อยมีขนาดเล็ก และมีความบางกว่าใบเลื่อยชนิดอื่นๆ ทำให้ใบเลื่อยนั้นมีความอ่อนตัวคล้ายเส้นลวด การใช้งานของเลื่อยฉลุนั้นต้องขึงใบเลื่อยกับโครงด้ามจับให้ตึงพอดี จึงจะสามารถใช้งานเลื่อยฉลุได้อย่างสะดวก
เลื่อยชนิดนี้ได้ชื่อมาจากรูปทรงของด้านจับที่ลักษณะโค้งคล้ายคันธนูนั่นเอง ซึ่งเลื่อยคันธนูนั้นเป็นเลื่อยที่ถูกออกแบบให้ใช้กับงานตัดแต่งกิ่งไม้ ตัดต้นไม้ โดยเฉพาะ ใบของเลื่อยคันธนูนั้นจะทำมาจากเหล็กกล้าชุบแข็งทำให้มีความแข็งแรง และมีความความมากกว่าเลื่อยไม้ประเภทอื่นๆ เลื่อยคันธนูนั้นมีให้เลือกหลายหลายขนาดตามความเหมาะสมในการใช้งาน โดยมีขนาดตั้งแต่ 12 – 30 นิ้ว
เลื่อยรอ หรือเลื่อยรอปากไม้ จัดว่าเป็นเลื่อยไม้ชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญกับการทำงานช่างไม้ เลื่อยรอปากนั้นจะมีลักษณะคล้ายมีดอีโต้ แต่ส่วนของคมมีดนั้นจะเป็นใบเลื่อยแทน ซึ่งใบของเลื่อยรอปากไม้นั้นจะมีความคม และเอียดมาก เนื่องจากการใช้งานของเลื่อยประเภทนี้คือใช้การช่วยให้โครงไม้ที่ต่อกันนั้นสามารถต่อกันได้สนิท หรือที่เรียกว่า “รอปากไม้” นั่นเอง แม้ว่าในปัจจุบันงานไม้จะมีเครื่องจักรเข้ามาช่วยเยอะขึ้น แต่ความนิยมในการใช้เลื่อยรอปากไม้ก็ยังคงมีอยู่
เลื่อยโค้งตัดกิ่งไม้ก็เป็นเลื่อยประเภทหนึ่งที่ถูกออกแบบให้ใช้ตัดกิ่งไม้โดยเฉพาะ แต่จะแตกต่างจากเลื่อยคันธนูตรงที่เลื่อยโค้งตัดกิ่งไม้นั้นจะมีขนาดเล็กกว่า ตัวใบเลื่อยมีความโค้งเล็กน้อย และด้ามจับสามารถนำไม้ยาวไปต่อเพื่อเพิ่มความยาว ทำให้สามารถตัดกิ่งไม้ในที่สูงได้อย่างสะดวกมากขึ้น แลละไม่ต้องเสี่ยงอันตรายจากปีนขึ้นไปตัดกิ่งไม้บนที่สูงอีกต่อไป
เลื่อยพลูซอเป็นเลื่อยไม้ที่มีลักษณะคล้ายกับเลื่อยรอปากไม้แต่ใบของเลื่อยพลูซอนั้นจะมีฟันเลื่อยทั้งสองข้าง ซึ่งเลื่อยพลุซอนั้นถือว่าเป็นเลื่อยไม้สารพัดประโยชน์ที่สามารถพกพาได้ง่าย ใช้งานได้ครอบคลุมการตัดไม้แทบทุกประเภท ทำให้เลื่อยพลูซอนั้นนอกจากจะได้รับความนิยมในหมู่ผู้ที่ต้องทำงานไม้ต่างๆ แล้ว ยังได้รับความนิยมในกลุ่มของผู้ที่ชอบชีวิตกลางแจ้งอีกด้วย เนื่องจากความสามารถในการตัดไม้ที่ทำได้หลากหลาย และพกพาได้สะดวกนั่นเอง
เลื่อยไฟฟ้านั้นเป็นการพัฒนาจากเลื่อยต่างๆ ที่แนะนำมาในด้านบนให้มีความสะดวกมากขึ้น ประหยัดแรง ด้วยการใช้ไฟฟ้าเข้ามาเป็นตัวขับเคลื่อนใบเลื่อย ทำให้การทำงานต่างๆ นั้นสามารถทำได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งเลื่อยไฟฟ้าก็หลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้งานได้ตามประเภทของงาน และความเหมาะสมในด้านต่างๆ ซึ่งเลื่อยไฟฟ้านั้นก็สามารถแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือเลื่อยที่ใช้ตัดไม้ กับเลื่อยที่ใช้ตัดเหล็กหรือโลหะนั่นเอง
ลองมาทำความรู้จักกันว่าเลื่อยไฟฟ้าประเภทต่างๆ ที่นิยมใช้งานกันนั้นมีอะไรกันบ้าง
การเลื่อยไม้ประเภทต่างๆ ด้วยเลื่อยมือนั้นมีหลักการใช้เลื่อยให้ถูกวิธีซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องศึกษาโดนเฉพาะผู้ที่ต้องการทำงานไม้ประเภทต่างๆ เนื่องจากจะทำให้เลื่อยไม้ได้ตรง และมีความปลอดภัยในการใช้งานด้วย ลองมาดูกันว่าถ้าต้องการใช้เลื่อยลันดาเลื่อยไม้อย่างถูกวิธีนั้นต้องทำอย่างไรบ้าง
การที่จะทำให้เลื่อยนั้นสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานนั้นการบำรุงรักษา และการใช้งานเลื่อยให้ถูกประเภทก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ซึ่งการบำรุงรักษาเลื่อยนั้นก็ไม่มีขั้นตอนที่ยุ่งยาก เพียงแค่เมื่อใช้งานเสร็จให้ทำการปัดเศษขี้เลื่อยที่ติดอยู่ตามใบเลื่อยออกให้หมด ใช้ผ้า มาเช็ดทำความสะอาดบริเวณใบเลื่อย และด้ามจับ จากนั้นให้ชโลม หรือฉีดพ่นด้วยน้ำยากันสนิม เพียงเท่านี้เลื่อยที่มีอยู่ก็จะมีอายุการใช้งานที่นานขึ้นอย่างแน่นอน
ส่วนการใช้ใบเลื่อยให้ถูกประเภทนั้น เป็นการยืดอายุการใช้งานของใบเลื่อย และเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของผู้ใช้ ยกตัวอย่างเช่นไม่ควรนำเลื่อยลันดา หรือเลื่อยหางหนูไปตัดไม้ที่มีตะปูฝังอยู่ เพราะนอกจากจะตัดไม่เข้าแล้วยังจะทำให้ใบเลื่อยเสียหายได้อีกด้วย ควรถอดตะปูออก หรือใช้เลื่อยตัดเหล็กตัดตะปูออกไปก่อนนั่นเอง ถ้าใบเลื่อยเริ่มหมดความคม ให้ใช้ตะไบเหล็กที่มีขนาดพอดีกับฟันเลื่อยทำการลับ และตกแต่งใบเลื่อยให้คมได้
เป็นอย่างไรกันบ้างกับรายละเอียดของเลื่อยประเภทต่างๆ ที่นิยมใช้งานกันภายในบ้าน ซึ่งจะเห็นได้ว่าเลื่อยแต่ละประเภทนั้นจะมีลักษณะ และรูปแบบที่แตกต่างกันไปตามความต้องการในการใช้งาน โดยการเลือกใช้เลื่อยเพื่อมาทำงานต่างๆ ที่ต้องการนั้นต้องเลือกประเภทของเลื่อย และชนิดของใบเลื่อยให้เหมาะสม และในการใช้งานเลื่อยทุกครั้งต้องทำด้วยความระมัดระวังมากที่สุด