โดนลดเงินเดือน แต่ยังมีหนี้บ้านก้อนโตต้องทำอย่างไรดี?

หลายคนรู้สึกว่าปลอดภัยมากขึ้นเมื่อได้ Work From Home ทำงานที่บ้าน ในขณะเดียวกันบางคนก็รู้สึกว่าชีวิตไม่มั่นคงมากขึ้น เพราะโดนลดเงินเดือนลง จากพิษโควิด-19 (COVID-19) ที่เข้ามากระทบเศรษฐกิจไทยอย่างจังๆ จนธุรกิจต่างพากันทรุดฮวบ ทั้งปิดกิจการบ้าง ออกมาตรการเลิกจ้าง ลาแบบไม่รับเงินเดือน โดนลดเงินเดือนบ้าง เป็นต้น ซึ่งพนักงานเงินเดือนที่ได้รับผลกระทบเหล่านี้คงแทบตั้งหลักกัน เพราะใครจะคิดว่าทำงานอยู่ดีๆ ก็โดนลดเงินเดือนจนจัดสรรเงินที่มีอยู่หรือรายได้ที่น้อยลงไม่ถูก ยิ่งใครที่มีภาระผ่อนบ้านกันอยู่เรียกว่าคงรวนกันเลยล่ะครับ วันนี้ผมมีวิธีการจัดสรรเงินเมื่อโดนลดเงินเดือนแต่หนี้บ้านก้อนโตจะทำอย่างไร เรามีวิธีแก้ไขมาบอกกันครับ

วิธีจัดสรรเงินเมื่อโดนลดเงินเดือน

1.จัดสรรรายได้ใหม่
เมื่อเราได้รับเงินเดือนที่น้อยลง อย่างแรกเลยต้องมาเริ่มจัดสรรเงินที่เราจะได้ต่อเดือนใหม่ว่าจะแบ่งส่วนอะไรอย่างไรบ้าง มีรายจ่ายอะไร และมีรายได้เท่าไรบ้าง

2.ประหยัด 
เราต้องใช้จ่ายน้อยลง ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง โดยทำลิสต์ดูว่าสิ่งใดจำเป็นและไม่จำเป็นบ้าง เชื่อว่ารายจ่ายคุรคงลดลงอัตโนมัติ เพราะว่าออกนอกบ้านไปใช้จ่ายลำบาก แต่ก็ต้องระวังจะชอปปิงออนไลน์เพลินด้วยนะครับ

3. สำรวจหนี้
สำรวจหนี้ที่เรามีอยู่ ตั้งแต่ค่าผ่อนบ้าน บัตรเครดิต ค่าผ่อนโทรศัพท์มือถือ ค่าผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น โดยยอดผ่อนชำระที่เหมาะสมคือต้องไม่เกิน 30-40% ของรายได้ต่อเดือน ซึ่งหากพบว่ายอดผ่อนเกินต้องหารายได้มาทดแทนหนี้ส่วนเกินนั้น

4. ตัดใจขายของไม่จำเป็น เพื่อหารายได้เพิ่ม 
ต้องบอกว่าในช่วงนี้การหารายได้เพิ่ม ดูจะยากเต็มทน แต่ในวิกฤตก็ยังมีโอกาสซ่อนอยู่ด้วยการทำงานในรูปแบบออนไลน์ต่างๆ รวมถึงเรายังสามารถเพิ่มสภาพคล่องด้วยการตัดใจขายสิ่งของที่คิดว่าไม่จำเป็นในช่องทางออนไลน์ เช่น การโพสต์ขายสินค้าลงช่องทางโซเชียลต่างๆ หรือไปฝากร้านกับ Shopee หรือ Lazada เป็นต้น เพื่อนำเงินที่ได้มาใช้จ่ายหรือใช้เป็นผ่อนหนี้ต่างๆ

5. นำเงินสำรองมาใช้เท่าที่จำเป็น
ต้องบอกว่าใครที่โชคดี เก็บตุนเงินสำรองไว้ใช้ยามฉุกเฉิน ตอนนี้เวลานี้อาจเรียกว่าวิกฤตของชีวิตก็เป็นได้ ถึงคราวนำเงินยามวิกฤตมาใช้กันแล้วล่ะครับ ดังนั้นถ้าจำเป็นจริงๆ ก็แนะนำว่าให้เงินส่วนนี้มาใช้ได้ แต่อย่างไรก็ตามอย่าใช้เพลิน เพราะว่าอาจมีวิกฤตมากกว่านี้ก็เป็นได้ ฉะนั้นใช้เงินสำรองนี้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น โดยควรคำนวณว่า เราจะต้องมีเงินเหลือสำรองไว้ใช้อย่างน้อย 6 เดือนเสมอ ที่สำคัญต้องคิดเสมอว่าคุณโดนลดเงินเดือน ซึ่งยังมีรายได้อยู่

6. ประกันสำคัญสุดๆ
ยามนี้ประกันสุขภาพ ประกันชีวิต หรือประกันโควิดสำคัญมากสำหรับเรา หากใครที่คิดว่าเป็นเรื่องไม่จะเป็น อยากให้ลองคิดตามดูว่าหากต้องเผชิญกับโรคภัยตอนนี้ เราจะมีเงินในการรักษามากพอหรือไม่ ฉะนั้นทำประกันไว้ก่อนครับ เช่น ประกันโควิดของ TQM เสียเพียงหลักร้อย แลกกับความสบายใจและความคุ้มค่าในการรักษาหากมีอาการป่วย

7. ติดต่อธนาคาร ขอผ่อนผันการชำระหนี้
หากได้พยายามทำทุกอย่างแล้ว เพื่อหาเงินมาผ่อนทุกอย่างให้เพียงพอ แต่ก็ยังไม่สำเร็จ การติดต่อปรึกษากับทางธนาคารคือหนทางที่ดีที่สุด ยิ่งในตอนนี้ธนาคารต่างๆ ได้ออกมาตรการมาช่วยคนที่มีหนี้บ้านที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 (COVID-19) อ่านมาตรการของแต่ละธนาคารได้ที่นี่ ซึ่งถือว่าช่วยเหลือเราได้มาก รวมถึงยังมีวิธีอื่น เช่น การประนอมหนี้  ปรับลดจำนวนเงินที่ต้องผ่อน  โดยสามารถอ่านบทความแนวทางลดภาระหนี้บ้านกับธนาคารได้ที่นี่ 

ต้องบอกว่าวิกฤตในครั้งนี้ไม่ว่าจะโดนลดเงินเดือนหรือจะโดนผลกระทบในส่วนอื่น คงจะเห็นกันแล้วว่าทุกภาคส่วนล้วนได้รับผลกระทบ แต่เชื่อว่าเราจะต้องผ่านไปด้วยกันนะครับ