ตลอดปีที่ผ่านมาหลายคนคงเห็นข่าวเลิกจ้างพนักงานกันอยู่บ่อยๆ สอดคล้องกับรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) ที่ได้สำรวจครัวเรือนตัวอย่าง 27,960 ครัวเรือนทั่วประเทศในเดือนตุลาคม 2562 พบว่า มีจำนวนการว่างงานทั้งสิ้น 355,000 คน คิดเป็น 0.9% ซึ่งคนที่จบปริญญาตรีเป็นกลุ่มที่ตกงานมากที่สุด สถานการณ์เหล่านี้พาความกังวลใจมายังคนที่กำลังมีภาระผ่อนที่อยู่อาศัยทั้งบ้านและคอนโดเป็นอย่างหนัก หากตกงานขึ้นมาแบบไม่ทันตั้งตัวภาระหนี้เหล่านี้จะจัดการอย่างไรดี
วันนี้ผมนำวิธีจัดการกับภาระหนี้บ้านหากตกงานมาแนะนำกันครับ ขั้นแรกเลยก็คือรีบไปเจรจาของผ่อนผันและประนอมหนี้กับธนาคารก่อน หากคุณมีประวัติการชำระที่ดีการเจรจาก็จะเป็นรื่องง่ายและมีทางเลือกให้มากมาย ไปดูกันครับว่ามีวิธีอะไรบ้าง
ปรับลดจำนวนเงินที่ต้องผ่อนในแต่ละเดือน
ขอผ่อนรายเดือนน้อยลงจากเดิม แต่ต้องมากกว่าดอกเบี้ยประจำเดือนอย่างน้อย 500 บาท ซึ่งจะได้ระยะเวลาผ่อนชำระได้นานสูงสุดไม่เกิน 2 ปี วิธีนี้จะทำให้ไม่เสียประวัติในเครดิตบูโร สถานะบัญชียังเป็นบัญชีปกติเหมือนเดิม พอพ้นระยะตามเวลาที่ธนาคารกำหนดให้ปรับลงเงินค่างวด ก็ต้องกลับไปผ่อนตามจำนวนเดิม
ขอปรับปรุงโครงสร้างหนี้
เป็นวิธีการผ่อนงวดในแต่ละเดือนที่ลดลงมากกว่าครึ่ง ซึ่งสถาบันการเงินจะทำสัญญาขยายระยะเวลา ลดจำนวนเงินผ่อน หรืออาจลดดอกเบี้ยให้น้อยลงชั่วคราวเป็นเวลาประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับการเจรจากับธนาคาร แต่วิธีนี้จะทำให้เครดิตบูโรถูกปรับเป็นบัญชีปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ซึ่งมีผลต่อการขอสินเชื่อในอนาคต
ขอผ่อนผันชำระยอดหนี้ค้างชำระ
สำหรับใครที่ขาดรายได้ชั่วคราว มีรายได้ต่อเดือนไม่เพียงพอต่อค่าผ่อนบ้านลองเจรจาขอผ่อนชำระคืนยอดหนี้ที่ค้างได้นานสูงสุด 36 เดือนติดต่อกัน โดยแบ่งออกเป็นขอชำระเป็นเงินก้อนเล็กทุกเดือน หรือขอชำระเป็นเงินก้อนโดยแบ่งเป็นงวดๆ และขอชำระเงินคงค้างทั้งหมดภายในระยะเวลาหนึ่งที่ตกลงกับธนาคารได้
ขอขยายเวลาชำระหนี้
ขอขยายเวลากู้เงิน เป็นอีกวิธีหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะสามารถขอขยายเวลากู้เงินได้ถึง 30 ปีนับจากปัจจุบัน วิธีนี้จะทำให้ยอดค่างวดต่อเดือนลดลง แต่ระยะเวลาที่ยืดออกไปนั้น จะขึ้นอยู่กับอายุของผู้กู้ด้วย โดยรวมระยะเวลาขยายแล้วผู้กู้จะต้องมีอายุไม่เกิน 70 ปี
ขอลดดอกเบี้ยกับธนาคาร
นอกจากตกงานแล้ว ดอกเบี้ยยังปรับเพิ่มอีก คุณสามารถแจ้งขอลดอัตราดอกเบี้ยในวันที่ชำระเงินได้
ขอจ่ายเฉพาะดอกเบี้ย
ถ้าถึงคราววิกฤตจริงๆ แล้วเป็นลูกหนี้ชั้นดีมาตลอด คุณสามารถขอผ่อนชำระแต่ดอกเบี้ยประจำเดือนได้ ซึ่งสามารถขอผ่อนชำระได้นานสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน แต่จะขอดำเนินการจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยได้ครั้งเดียว
ขอโอนบ้านให้กับสถาบันการเงินเป็นการชั่วคราว
หากมั่นใจว่าอย่างไรก็ผ่อนไม่ไหวแน่ๆ ภายใน 1 ปีนี้ คุณสามารถขอโอนบ้านให้กับสถาบันการเงิน แล้วผันตัวไปเป็นผู้เช่าบ้านตัวเองอยู่แทน โดยจะได้หลักประกันโดยหักลบกลบหนี้ในจำนวนไม่เกิน 90 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าหลักประกัน แต่หากมีหนี้ส่วนเกินลูกหนี้จะต้องชำระให้เสร็จสิ้นภายในวันโอน ซึ่งหากอยากได้บ้านคืนภายหลังในเวลาที่กำหนด คุณสามารถขอซื้อคืนได้
ขอเปลี่ยนตัวลูกหนี้ตามสัญญากู้ใหม่ กู้เพิ่ม หรือเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขสัญญา
ถ้าคุณไม่สามารถชำระดอกเบี้ยที่ค้างทั้งหมดได้ คุณสามารถขอกู้เพิ่มเพื่อชำระดอกเบี้ยที่ค้างชำระพร้อมกับขยายระยะเวลากู้เงินได้ สำหรับเงื่อนไขคือในระยะเวลา 3 เดือนก่อนการขอกู้เพิ่ม จะต้องชำระเงินงวดอย่างสม่ำเสมอ และเมื่อนำวงเงินที่ขอกู้เพิ่มรวมกับเงินต้นคงเหลือแล้ว เงินงวดใหม่ต้องมากกว่าไม่เกินร้อยละ 25 ของเงินงวดเดิม
หากจัดการภาระหนี้บ้านอย่างถูกวิธีก็จะผ่านเหตุการณ์เหล่านั้นไปได้ครับ ผมเชื่อว่าธนาคารทุกแห่งพร้อมที่จะช่วยคุณ เพียงคุณไปลองปรึกษาเขา หรือเดินเข้าโครงการคลินิกแก้หนี้ ที่สำคัญอย่ามัวเครียดหรือหนี้หนีอย่างเดียว เพราะเรื่องราวอาจจะใหญ่โตจนบ้านหรือคอนโดโดนยึดไปเสียก่อนได้
ผมขอเป็นกำลังให้ทุกท่าน แล้วเราจะผ่านเหตุการณ์เหล่านี้ไปด้วยกันนะครับ