มองเมืองด้วยเรื่องกิน ตอนที่ 2 Chinese food: China town

Highlights:

• กรุงเทพฯ มีร้านอาหารจีนมากกว่า 2,900 ร้าน
• บริเวณที่มีร้านอาหารจีนกระจุกตัวหนาแน่นที่สุดอยู่ที่ เยาวราช ประตูน้ำ ห้วยขวาง สุรวงศ์
• ราคากลางที่คอนโดมิเนียมย่านไชน่าทาวน์ ต่ำสุด 1.83 ล้านบาท/ยูนิต คือ ย่านห้วยขวาง สูงสุด 5.99 ล้านบาท/ยูนิต ย่านสุรวงศ์

You are where you eat… เมื่อไลฟ์สไตล์ของคนเรามักผูกพันอยู่กับอาหารการกิน โดยเฉพาะคนจีนที่เวลาเจอหน้าจะชอบทักทายกันว่า กินข้าวหรือยัง? เป็นวิธีการแสดงความห่วงใยของบรรดา อาป๊า อาม้า ที่น่ารักมากจริงๆ โต๊ะอาหารของบ้านคนจีนจะเป็นมุมที่มีความสำคัญมุมหนึ่งในบ้าน เพราะเป็นพื้นที่ที่คนทั้งบ้านจะได้เข้ามารวมตัวกันในเวลาสำคัญของครอบครัว ทั้งมื้อทั่วๆ ไปในหนึ่งวัน หรือ ในโอกาสพิเศษ

ยิ่งช่วงเทศกาลใหญ่ๆ บรรดาร้านอาหารและภัตตาคารจีนก็มักจะถูกจองกันจนแน่นไปหมด ส่วนบรรยากาศภายในร้านคงต้องบรรยายด้วยคำว่า “ขโมงโฉงเฉง” ทั้งจากควันที่ลอยมาจากอาหารที่ปรุงสุกใหม่ และยกมาเสิร์ฟแบบร้อนๆ เสียงกระทะ ตะหลิว ที่ผัดไปมา และที่ขาดไม่ได้คือ เสียงของสมาชิกในโต๊ะที่กำลังคุยกันอย่างเมามันส์ เพิ่มสีสันในชีวิตได้ไม่น้อยเลยครับ

จากข้อมูล Big Data ทั้งหมดกว่า 60,000 ร้านอาหารในกรุงเทพมหานคร ที่บาเนียได้นำมาวิเคราะห์ผ่านวิธี Spatial Smoothing ทำให้เราเห็นสัญชาติของพื้นที่ ผ่านวัฒนธรรมการกินอยู่ของคนในบริเวณนั้น โดยในบทความนี้เราจะนำเสนอเฉพาะย่านไชน่าทาวน์ หรือย่านที่มีการกระจุกตัวของร้านอาหารจีนหนาแน่นทั้ง 4 ย่านด้วยกัน เดาออกไหมครับว่าจะเป็นย่านไหนกันบ้าง … เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เราไปดูพร้อมๆกันเลยดีกว่าครับ

ไชน่าทาวน์@เยาวราช ถิ่นฐานแดนมังกรที่ไม่จางหาย ซิกเนเจอร์ของเยาวราชนอกจากจะมีร้านทองและป้ายสีแดงๆ มากมายที่ทำให้คนจดจำที่นี่ได้แล้ว ก็อาหารการกินนี่แหละที่โดดเด่นและโด่งดังมากของย่านนี้ ถ้าหากคุณอยากทานอาหารจีนต้นตำรับ แบบเหลาๆ เชื่อว่าที่นี่ต้องเป็นหนึ่งในลิสต์ของคุณเหมือนกัน

จากการสำรวจข้อมูลร้านอาหารจีนทั่วกรุงเทพฯทั้งหมดมีกว่า 2,900 ร้านอาหาร เราพบว่าบริเวณที่มีการกระจุกตัวของร้านอาหารจีนสูงสุดอันดับที่ 1 ก็คือ เยาวราช นี่แหละครับ แค่ถนนเส้นเดียวก็มากกว่า 70 ร้านเข้าให้แล้ว แถวนี้มีทั้งตลาดเก่าแหล่งวัตถุดิบและอาหารที่เปิดตั้งแต่เช้ามืด เน้นการขายตั้งแต่วัตถุดิบ อาหารแห้งที่อิมพอร์ตเข้ามาจากต่างประเทศ กลางวันที่คราคร่ำไปด้วยร้านอาหารตั้งแต่ข้างทาง ตึกแถว จนถึงภัตตาคารขึ้นชื่อ และตกเย็นยันค่ำด้วยสตรีทฟู้ดอันเป็นเอกลักษณ์ที่แม้แต่นักท่องเที่ยวยังต้องมาให้ได้

ด้วยความอุดมสมบูรณ์ขนาดนี้ทำให้บริเวณนี้เป็นที่หมายตาของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มีโรงแรมที่พัก โฮสเทล โฮมสเตย์มากมายที่เกิดขึ้นเพื่อรองรับผู้บริโภค แต่กลับแทบไม่มีการพัฒนาที่อยู่อาศัยโครงการใหม่ๆ เกิดขึ้นแถวนี้เลย กลุ่มคนจีนหรือลูกหลานคนจีนที่ลงหลักปักฐานในแผ่นดินไทยมานาน (จนแยกจากคนไทยแท้แทบไม่ออกแล้ว) กลับไม่นิยมพักอาศัยในเยาวราชเท่าไหร่นัก บ้างเป็นเพราะต้องการเดินทางที่สะดวก ขับรถได้ ต้องการความสงบในการพักอาศัย แต่ถึงแม้ว่าจะออกไปอยู่ที่อื่นแต่ก็ยอมเดินทางเข้ามาเพื่อทำธุรกิจบริเวณนี้เหมือนเดิม

แต่ถ้าหากว่ายังไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหนดี ในเงื่อนไขว่า 1.เดินทางสะดวก 2.อยากให้มีกลิ่นอายลายมังกร และ 3.อาหารการกินที่ถูกปาก เราขอแนะนำ ไชน่าทาวน์อีก 3 แห่ง ที่น่าจะตรงความต้องการทั้ง 3 ข้อที่ขอมานี้

ไชน่าทาวน์@ประตูน้ำ บริเวณที่มีร้านอาหารจีนกระจุกตัวอยู่อย่างหนาแน่น ไล่มาตั้งแต่โซนสยาม-ราชประสงค์ และเลี้ยวขึ้นมาทางประตูน้ำ ส่วนหนึ่งที่แถวนี้มีร้านอาหารจีนมากก็เพื่อจะรองรับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้ามายังกรุงเทพมหานครด้วย

สำหรับที่อยู่อาศัยย่านประตูน้ำ(ภาพด้านบน) เนื่องจากว่ายังเป็นพื้นที่กลางเมืองติดกับแหล่งพาณิชยกรรมซึ่งทำให้ที่ดินมีมูลค่าสูง จึงทำให้แถวนี้เต็มไปด้วยคอนโดมิเนียมในหลากหลายราคา ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่บริเวณแยกเพชรบุรีซึ่งใกล้กลับสถานีรถไฟฟ้า มีราคากลางอยู่ที่ 5.4 ล้านบาทต่อยูนิต และมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 7.17 ล้านบาทต่อยูนิต

ไชน่าทาวน์@ห้วยขวาง ถิ่นมังกรแห่งใหม่ในกรงุเทพฯ นิวไชน่าทาวน์นี้มีจุดเริ่มต้นมาจากสถานทูตที่ดึงดูดคนจีนเข้ามา เมื่อคนเริ่มเยอะขึ้นก็ต้องมีบริการต่างๆ เข้ามารองรับรวมถึงร้านอาหารด้วย จากที่กล่าวไปตอนต้น ห้วยขวางถือเป็นบริเวณที่มีร้านอาหารกระจุกตัวเข้มข้นอยู่พอสมควร อย่างแยกสุทธิสารก็มีร้านอาหารจีนถึง 19 ร้านเลยทีเดียว แล้วจะมีอาหารสัญชาติอื่นให้ทานบ้างมั้ยนะ

ที่พักอาศัยห้วยขวาง-สุทธิสาร(ภาพด้านบน) ส่วนใหญ่จะเป็นคอนโดมิเนียม เนื่องจากอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน มีราคากลางอยู่ที่ 1.84 ล้านบาทต่อยูนิต และมีราคาเฉลี่ยเท่ากับ 2.17 ล้านบาท/ยูนิต ซึ่งเป็นราคาที่ไม่สูงนักสำหรับตลาดคอนโดใกล้ระบบขนส่งมวลชน แต่สำหรับลูกหลานคนจีนที่เติบโตมากับตึกแถวมาตั้งแต่สมัยช่วงป๊า ม้าขายของ ทำธุรกิจ ย่านห้วยขวางก็ยังมีทาวน์โฮมให้ได้เลือกอยู่อาศัยกัน แม้ว่าจะไม่เหมือนกันซะทีเดียว แต่ก็ยังมีกลิ่นอายของห้องแถวมีเพื่อนบ้านผนังติดกัน แต่บรรยากาศเหมาะสำหรับการอยู่อาศัยขึ้นมากเลย

ส่วนราคาทาวน์โฮมย่านห้วยขวางก็มีค่ากลางอยู่ที่ประมาณ 3.5 ล้านบาท/ยูนิต หรือเฉลี่ยยูนิตละ 4.5 ล้านบาท แม้ว่าจะแพงกว่าเกือบ 2 เท่า แต่น่าจะดีกับการปรับตัวของอาป๊า อาม้า อาเจ็ก อาแปะ พวกเขาน่าจะรู้สึกดีกว่าย้ายไปอยู่ในคอนโดมิเนียม

ไชน่าทาวน์ @สุรวงศ์ ย่านเก่าแก่ จุดเริ่มต้นความสำเร็จของเถ้าแก่หลายๆ คน ร้านอาหารจีนแถวนี้ส่วนมากจะเป็นภัตตาคารกันเลยทีเดียว มีทั้งเก่า ใหม่ปะปนกันไปตามสไตล์สีลม นอกจากจะกระจุกตัวกันเป็นพิเศษบริเวณแยกนราธิวาส-สีลมแล้ว ร้านอื่นๆ ก็กระจายตัวกันไปโดยทั่วกัน

ตลาดที่พักอาศัยกลางเมืองอย่างสุรวงศ์ สีลมแบบนี้ หลายคนอาจจะอยากปาดเหงื่อ ถ้าไม่ได้มีที่ดินตกทอดมาจากบรรพบุรุษ ก็คงจะหาได้แต่เพียงคอนโดมิเนียมเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในซอย เพราะออฟิศเจ้าถิ่นยึดครองทำเลริมถนนไปเกือบหมดแล้ว ราคาที่อยู่อาศัยย่านสุรวงศ์(ภาพด้านบน) มีราคากลางอยู่ 5.99 ล้านบาทต่อยูนิต แต่โดยเฉลี่ยนั้นสูงถึง 16 ล้านบาทต่อยูนิต ทั้งนี้เนื่องจากว่าบริเวณสีลมมีคอนโดระดับซูเปอร์ลักชัวรีเกิดขึ้นใหม่หลายโครงการ โดยเฉพาะโครงการที่ติดถนนใหญ่ได้ ราคาไม่ธรรมดาเลยทีเดียวครับ ราคาเฉลี่ยของพื้นที่จึงถูกดึงขึ้นมาอย่างที่เห็น

เป็นยังไงกันบ้างกับทั้ง 4 ย่านไชน่าทาวน์ที่กล่าวไป อาจจะไม่ใช่ย่านใหม่อะไรมาก แต่ก็หวังว่าย่านเหล่านี้ที่บรรพบุรุษสัญชาติมังกรได้ก่อร่างสร้างตัวเอาไว้จะไม่จางหายไปจากใจลูกๆ หลานๆ ของเรา อย่าปล่อยให้ไชน่าทาวน์ของเราถูกวัฒนธรรมอื่นกลืนไปนะครับ

再见 (อ่านว่า ไจ้เจี้ยน) ลาก่อน

แล้วพบกันใหม่นะครับ