เทรนด์ใหม่กับการปลูกพืชกลับหัว ที่ช่วยให้ท่านสามารถปลูกผักได้แม้ในพื้นที่จำกัด ด้วยลักษณะของกระถางที่สามารถปลูกได้ทั้งสองฝั่ง จึงสามารถปลูกพืชได้ 1-2 ชนิดในกระถางเดียว ประหยัดพื้นที่ในการปลูก การปลูกพืชกลับหัว ยังสามารถนำมาตกแต่งสวนหรือมุมเก๋ ๆ ของบ้านท่าน ให้ดูเท่และมีสไตล์กว่าใคร
การปลูกพืชกลับหัว เป็นวิธีการปลูกทางเลือกหนึ่ง ที่ช่วยให้พืชเจริญเติบโต ลดปัญหาเรื่องวัชพืช แมลงและโรคต่าง ๆ ที่เป็นตัวการสำคัญในการทำร้ายพืชผัก การปลูกพืชในลักษณะนี้ ช่วยให้น้ำและธาตุอาหารไหลไปเลี้ยงส่วนยอดได้ดี ตามกฎแรงโน้มถ่วงของโลก และที่สำคัญคือช่วยให้ประหยัดพื้นที่ในการปลูก เพราะใช้วิธีการปลูกโดยการแขวน สามารถปลูกผักได้สองฝั่งคือ ฝั่งบนกระถาง และก้นกระถาง
นอกจากนี้ยังสามารถนำมาตกแต่งบ้านหรือสวนได้อีกด้วย ไม่ว่าจะแขวนที่ระเบียงห้อง บนราวตากผ้า หรือบริเวณสวนย่อมเล็ก ๆ ข้างบ้าน
การปลูกพืชกลับหัว มีข้อดีและประโยชน์มากมาย นอกจากช่วยให้ท่านสามารถปลูกผักได้แม้ในพื้นที่จำกัด ยังสามารถปลูกพืชให้เจริญเติบโตด้วยวิธีการปลูกตามแรงโน้มถ่วง ที่ช่วยให้พืชได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ มาดูข้อดี ดังนี้
1. ประสิทธิภาพ การปลูกพืชกลับหัวจะให้ประสิทธิการได้รับน้ำและธาตุอาหารที่มากกว่าปกติ เพราะการไหลของน้ำจะไปเลี้ยงส่วนยอดได้ดีกว่าการปลูกแบบทั่วไป
2. หมดปัญหาการหยุดลำเลียงน้ำ สามารถบรรเทาปัญหาหยุดชะงักของการลำเลียงน้ำ และธาตุอาหาร
3. ผลักน้ำไปเลี้ยงส่วนยอด ในสภาพที่ต้นพืชกลับหัวแรงโน้มถ่วงจะสามารถช่วยผลักน้ำไหลลงไปเลี้ยงส่วนยอด
4. ช่วยลดปัญหาเรื่องวัชพืช หมดปัญหาการเข้าทำลายของโรคและแมลงได้ดีอีกด้วย
5. ช่วยประหยัดพื้นที่ในการปลูก สามารถปลูกได้แม้ในพื้นที่เล็ก เช่น ริมระเบียง บริเวณหน้าต่าง และเคลื่อนย้ายได้สะดวก
1. ถั่วฝักยาว เนื่องจากเป็นพืชที่มีผลในลักษณะเลื้อยยาว การนำมาปลูกพืชแบบกลับหัวจึงมีความเหมาะสม เพราะสามารถนำกระถางแขวนตามราวต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก
2. ผักบุ้ง เป็นผักที่ปลูกง่าย โตเร็ว ไม่ว่าจะปลูกที่ไหน ก็สามารถเติบโตได้ง่าย
3. พริก การปลูกพริกแบบกลับหัว ช่วยให้สามารถเก็บผลผลิตได้ง่าย และเป็นผักที่ทุกท่านควรมีติดบ้าน
4. มะเขือเทศ เป็นพืชที่มากคุณประโยชน์ สามารถปลูกไว้รับประทานเองได้ง่าย ๆ
5. ตำลึง เป็นผักชนิดเลื้อย จึงสามารถนำมาปลูกในกระถางแบบกลับหัวได้ง่าย เหมาะกับการเก็บเกี่ยว และปลูกในที่สูง
6. คะน้า พืชผักเมนูประจำบ้าน ที่สามารถปลูกได้ง่าย โตเร็ว เป็นพืชที่ขยายพันธุ์ได้ง่าย และเหมาะกับการปลูกแบบปลอดสารเคมี
7. กะเพรา ลักษณะของต้นกะเพรา ด้วยลำต้นที่ตรงยาวจึงสามารถนำมาปลูกแบบกลับหัวได้ แถมยังสามารถเก็บผลผลิตได้เป็นเวลานาน
8. ผักสลัด ผักที่คนรักสุขภาพต้องมีติดบ้าน สามารถปลูกได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการปลูกแบบกลับหัว หรือปลูกในกระถางแบบไร้ดิน ก็เป็นที่นิยมเช่นกัน
9. ต้นหอม การปลูกต้นหอมในกระถางเป็นวิธีที่นิยม ไม่ว่าจะแบบทั่วไป หรือแบบกลับหัว ต้นหอมสามารถเติบโตเร็ว ดูแลง่าย
10. ผักชี ผักชนิดนี้ถือว่าเป็นผักสามัญประจำบ้าน การปลูกแบบกลับหัวจึงง่ายต่อการเก็บไปทำอาหาร ซึ่งตัดเอาแค่ส่วนยอด แล้วปล่อยให้แตกยอดออกมาใหม่ได้เอง
อุปกรณ์ที่ใช้ในการปลูกพืชกลับหัว เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับปลูกพืชทั่วไป สามารถหาได้ง่าย ๆ และมีราคาไม่แพง ดังนี้
1. วัสดุสำหรับปลูก ได้แก่ ขุยมะพร้าว กระถาง เชือกแขวน หรือลวดแขวน
2. ดินสำหรับปลูก ควรมีการผสมดินเข้ากับมูลสัตว์ หรือปุ๋ยคอก
3. ต้นกล้าหรือต้นพืช เลือกต้นพืชที่จะนำมาปลูก 1 กระถางแขวน สามารถปลูกได้ 1-2 ชนิด
4. กระถางสำหรับปลูก ควรเป็นกระถางที่มีรูด้านล่าง และด้านข้าง จะทำให้ง่ายต่อการปลูกพืชแบบกลับหัว และระบายน้ำได้ดี
5. แผ่นกระเบื้องสีเหลี่ยมหรือฟิวเจอร์บอร์ด สำหรับนำมาปิดด้านบนของกระถาง
วิธีการปลูกพืชกลับหัว ที่ทุกท่านสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตนเอง มีเพียงไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้น ท่านก็จะได้พืชผักที่ปลูกไปรับประทานเอง แถมยังปราศจากสารเคมี เหมาะกับคนรักสุขภาพ มีผักที่สามารถปลูกได้แม้ในพื้นที่จำกัด ดังนี้
1. เตรียมอุปกรณ์ และพืชที่ต้องการปลูกให้พร้อม อาจจะมี 1 หรือ 2 ชนิด สำหรับปลูกด้านบนกระถาง และใต้กระถาง
2. นำดินออกจากรากของพืชที่ต้องการปลูก
3. หลังจากเอาดินออก ล้างทำความสะอาดรากพืชชนิดแรกสำหรับปลูกใต้กระถางให้สะอาด ระวังอย่าให้รากหักขาด
4. เมื่อทำความสะอาดเรียบร้อย ผสมดินสำหรับปลูก อาจจะมีการใส่ปุ๋ยหรือมูลสัตว์เข้าไปเพื่อช่วยให้พืชเจริญเติบโต และงอกงาม
5. นำต้นพืชใส่ไปที่กระถางแขวน โดยการนำรากเข้าไปในก้นกระถาง
6. ตักดินใส่ที่กระถางปลูก ใช้แผ่นกระเบื้องหรือตาข่ายปิดด้านบนของกระถาง เพื่อป้องกันดินร่วง และช่วยให้ต้นไม้อยู่ทรงมากขึ้น
7. ปลูกผักอีกชนิดที่ด้านกระถางตามปกติ แล้วทำการรดน้ำต้นไม้หลังปลูกเสร็จเรียบร้อย เพียงเท่านี้ท่านจะได้พืชผัก 2 ชนิดในกระถางเดียวกัน
พืชผักต่าง ๆ ต้องการการดูแลอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะช่วยให้พืชเติบโต งอกงามและออกผลผลิตให้ท่านรับประทานอย่างต่อเนื่อง จึงควรมีการดูและรักษา ดังนี้
1. หมั่นรดน้ำเป็นประจำทุกวัน หรือรดน้ำตามความต้องการของชนิดพืชที่ปลูก
2. ใส่ปุ๋ย ควรมีการใส่ปุ๋ยลงไปในดินที่เตรียมไว้ก่อนปลูก และระหว่างที่พืชเริ่มเติบโต
3. กำจัดวัชพืช ที่ขึ้นมาแย่งสารอาหาร เช่น หญ้า หรือตัดใบพืชที่เน่าเสียออก
4. เปลี่ยนกระถาง หากต้นพืชเติบโตมีขนาดใหญ่เกินกว่าที่กระถางเก่าจะรับได้ ควรมีการเปลี่ยนกระถางใหม่
เทรนด์ใหม่กับการปลูกพืชกลับหัว ที่ทำให้สวนของดูสวยและมีสไตล์ ด้วยการปลูกผักแบบประหยัดพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นระเบียงแคบ ๆ บริเวณหน้าต่าง หรือสวนผักที่มีพื้นที่จำกัด วิธีนี้ยังมีข้อดีที่ช่วยให้พืชได้รับประสิทธิภาพของน้ำและธาตุอาหารโดยตรงจากรากไปสู่ปลายยอด และยังสามารถช่วยลดปัญหาเรื่องวัชพืชและแมลงต่างๆ ได้ดีอีกด้วย
ที่มาภาพประกอบ :