การปูพื้นไม้จริงยังเป็นที่นิยมจากอดีตจนถึงปัจจุบัน

การปูพื้นบ้านด้วยไม้จริง ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ในอดีต สมัยก่อนบ้านเรือนมักจะทำจากไม้จริง แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยน คนก็เริ่มหันมาใช้วัสดุทดแทนเพื่อนำมาปูพื้น เนื่องจากราคาถูกกว่าการใช้ไม้จริง แถมมีให้เลือกหลากหลายแบบมากกว่า แต่การใช้ไม้จริงมาปูพื้นก็ทำให้บ้านดูมีสไตล์ที่โดดเด่นเฉพาะตัวมากขึ้น สำหรับคนที่มีงบประมาณมากพอ การเลือกใช้ไม้จริงมาเพื่อปูพื้นบ้านก็น่าสนใจไม่น้อย วันนี้ Baania จึงมีหลักการในการปูพื้นไม้จริงมาแนะนำ

ข้อดี-ข้อเสียของพื้นไม้จริง

ข้อดี

•  การปูพื้นไม้จริงช่วยส่งเสริมให้บ้านดูสวยงามหรูหรา และมีสไตล์ที่โดดเด่น ยิ่งถ้ามีเฟอร์นิเจอร์ทำมาจากไม้จริงด้วย จะทำให้ยิ่งลงตัว และกลมกลืน
• พื้นไม้จริงมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน มีความแข็งแรงทนทานกว่าวัสดุทดแทนมากพอสมควร จึงคุ้มค่าที่จะลงทุนเสียเงินซื้อ
• ให้ความสวยงามตามธรรมชาติ หากใช้งานเป็นระยะเวลานานหลายปีจนสีของไม้เริ่มดูเก่า สามารถทำการขัดและทำสีให้กลับมาสวยเหมือนใหม่ได้อีกรอบ

ข้อเสีย

• การเลือกซื้อไม้จริงจึงค่อนข้างทำได้ยากและมีราคาสูง เพราะในปัจจุบันการรักษาสิ่งแวดล้อมถือว่าเป็นเรื่องที่มนุษย์ให้ความสำคัญกนอย่างมาก 
• มีข้อจำกัดในการใช้งานอยู่พอสมควร เพราะวัสดุแบบไม้จริงเหมาะกับการใช้งานเพียงแค่ในตัวอาคารเท่านั้น ไม่เหมาะกับการนำไปติดตั้งไว้ภายนอกอาคารหรือที่โล่งแจ้ง
• เสื่อมคุณภาพตามกาลเวลา สภาพของไม้จะมีการปรับเปลี่ยน ยืด หด โก่ง เปลี่ยนไปตามสภาพอากาศ อีกทั้งยังต้องระวังไม่ให้ไม้โดนน้ำเพราะจะทำให้ไม้เสื่อมคุณภาพลงได้

ไม้ที่นิยมนำมาใช้ในการปูพื้น

• ไม้สัก

ในบรรดาพื้นไม้จริงที่นิยมใช้กัน พื้นไม้สักเป็นหนึ่งในวัสดุที่คนนิยมนำมาใช้ในการปูพื้นบ้าน เนื่องจากมีความแข็งแรง เนื้อละเอียดและมีความนิ่ม ทำให้การใช้เครื่องมือต่าง ๆ มาตัดแต่งได้ง่าย สำหรับคนที่มีความกังวลเรื่องปลวกก็หายห่วงได้เลย เพราะปลวกจะไม่กินพื้นไม้สัก ไม้สักมีหลายชนิดให้เลือก เช่น ไม้สักทอง ไม้สักหยวก ไม้สักไข ไม้สักหิน และไม้สักขี้ควาย เป็นต้

• ไม้เต็ง

ตัวไม้มีสีน้ำตาลอ่อน ๆ ผิวหยาบ เมื่อเนื้อไม้แห้งจะแข็งมาก ทำให้การตัดแต่งทำได้ยาก จึงนิยมใช้กันสำหรับงานภายนอกตัวอาคารมากกว่า เพราะเป็นวัสดุที่มีความทนทานต่อสภาพอากาศได้ค่อนข้างดี 

• ไม้ยาง

เนื้อไม้มีความหยาบและอ่อน ไม้ยางเหมาะกับการใช้ในที่ร่มหรือภายในตัวอาคาร แต่ตอนที่ปูพื้นไม้ยางก็ควรติดตั้งอย่างระมัดระวัง เพราะเมื่อใช้ตะปูตอกจะทำให้ไม้แตกได้ง่า

• ไม้แดง

เนื้อไม้สีแดงมีความแน่น นิยมนำมาใช้ปูพื้นบ้านเพราะมีความแข็งแรงทนทาน รับน้ำหนักได้ดี และเมื่อสภาพอากาศเปลี่ยนจะไม่ค่อยยืดหรือหดตัวมากเท่าไหร่นัก

• ไม้ตะแบก

ไม้ตะแบก เนื้อไม้จะมีความเงาและละเอียดใส มีลวดลายที่โดดเด่น มีสีเทาอมเหลือง เหมาะกับการนำมาใช้ปูพื้นบ้าน จะทำให้บ้านดูสวยงามมากขึ้น

หลักการปูพื้นไม้จริง

หลักการปูพื้นไม้จริงในปัจจุบัน นิยมใช้กัน 2 วิธี คือ การปูบนปูน และการปูบนตง ซึ่งลักษณะของการปูพื้นทั้งสองแบบก็มีความแตกต่างกัน ดังนี้

1. การปูพื้นไม้จริงบนปูน

การปูพื้นบนปูน ควรใช้ไม้ที่มีหน้ากว้างไม่เกิน 4 นิ้ว และความยาวไม่เกิน 120 เซนติเมตร ควรทำรางลิ้นเอาไว้เรียบร้อยแล้วทำการเทปูนแล้วขัดจนเรียบ หลังจากนั้นทิ้งช่วงไว้ประมาณ 7-14 วัน เพื่อรอให้ปูนแห้งสนิท ทาพื้นด้วยกาวให้ทั่ว แล้วปูพื้นไม้ทับลงไป จากนั้นรออีกประมาณ 10-14 วันเพื่อให้กาวแห้ง แล้วทำการขัดไม้จนเรียบและลงสีเพื่อความสวยงาม
 

2. การปูพื้นไม้จริงบนตง

การปูพื้นบนตง ควรใช้ไม้ที่มีหน้ากว้างมากกว่า 4 นิ้ว และความยาวเกินกว่า 120 เซนติเมตร การปูพื้นไม้ตง ไม่จำเป็นต้องขัดมัน แต่ก่อนจะปูพื้นลงไปจะต้องทำตงไม้ไว้เพื่อรองรับก่อน หลังจากนั้นทำการเทปูนจนเรียบเสมอกับตงไม้ ทิ้งช่วงไว้ประมาณ 7 วัน เมื่อปูนแห้งสนิท ให้นำไม้มาตอกตะปูลงบนตงไม้ ซึ่งการปูพื้นลงบนตงไม้จะมีความทนทานมากกว่าการปูลงบนปูน แต่การปูพื้นบนตงไม้จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงมากกว่า

หลักการเลือกพื้นไม้จริง

การจะเลือกซื้อพื้นไม้จริง มีความจำเป็นที่จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนเลือกซื้อ ว่าเหมาะกับการใช้งานภายในบ้านมากน้อยเพียงใด ในปัจจุบันมีพื้นไม้จริงวางจำหน่ายอยู่หลายชนิดทั้ง ไม้สัก ไม้แดง ไม้รัง ไม้ยาง ไม้ตะแบก ไม้มะค่าโมง และไม้เต็ง เป็นต้น ซึ่งไม้แต่ละชนิดก็มีราคาที่แตกต่างกันออกไป มีให้เลือกหลากหลายขนาด หลากหลายแบบ แต่เพื่อความคุ้มค่าสูงสุด ควรคำนึงถึงหลักการเลือกซื้อก่อน ซึ่งมีดังต่อไปนี้

• งบประมาณ

พื้นไม้จริงมีราคาที่ค่อนข้างสูง ซึ่งไม้แต่ละชนิด ก็จะมีราคาในการวางจำหน่ายที่แตกต่างกันออกไป นอกจากราคาไม้จริงแล้ว ควรคิดราคารวมสำหรับการติดตั้งและวัสดุที่ใช้ในการติดตั้งด้วย เพื่อให้ราคารวมทั้งหมดอยู่ในงบที่ได้กำหนดไว้

• การใช้งาน

ให้คำนึงถึงการใช้งานว่าเหมาะสมกับการเลือกใช้ไม้ชนิดใด เพราะพื้นไม้จริงมีให้เลือกหลากหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดก็มีความแข็งแรงและทนทานแตกต่างกันไป อีกสิ่งหนึ่งคือเรื่องของสภาพอากาศ เพราะไม้บางชนิดจะมีการยืดและหดตัวได้ตามความเปลี่ยนแปลงของอากาศ หากเลือกใช้ไม้ผิดชนิด อาจเกิดปัญหาตามมาได้ในอนาคต

• การติดตั้ง

ก่อนเลือกซื้อพื้นไม้จริง ควรสอบถามทางผู้ขายด้วยว่ามีบริการติดตั้งให้หรือไม่ เพราะการติดตั้งจากทางผู้ขายจะทำให้ได้งานที่มีคุณภาพมากกว่า หรือหากจะนำมาติดตั้งเอง ก็ควรที่จะศึกษาวิธีการติดตั้งพื้นไม้ชนิดนี้ก่อน เมื่อซื้อมาแล้ว จะได้ทำการติดตั้งพื้นไม้ได้อย่างถูกวิธี

วิธีการดูแลรักษาพื้นไม้จริง

เมื่อนำไม้จริงมาปูเป็นพื้นบ้านแล้ว สิ่งที่ควรใส่ใจไม่แพ้กันคือ เรื่องการดูแลรักษาความสะอาดอย่างเป็นประจำ เพื่อยืดอายุการใช้งานพื้นไม้ให้สามารถใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น การดูแลรักษาก็ไม่ได้ยุ่งยาก สามารถทำได้เองง่าย ๆ ลองมาดูเทคนิคในการดูแลรักษาพื้นไม้จริง ดังต่อไปนี้

• เมื่อมีฝุ่นเริ่มเกาะอยู่ตามพื้นไม้ ให้ใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ แล้วนำมาถูพื้นไม้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยลดฝุ่นที่เกาะอยู่ตามพื้น
• อีกหนึ่งปัญหาหลักของการปูพื้นด้วยไม้ที่มักพบเจอได้บ่อยคือ จะมีฝุ่นเข้าไปเกาะตามซอกและร่องไม้ ซึ่งนานวันก็จะทับถมเข้าไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นความสกปรกหมักหมม แต่สามารถแก้ได้ด้วยวิธีง่าย ๆ โดยใช้น้ำเปล่าผสมเข้ากับน้ำมันมะกอก เทน้ำมะนาวผสมเข้าไปด้วยพอประมาณ ใช้ผ้าสะอาดมาชุบแล้วนำไปถูตามซอกไม้ จะช่วยกัดเซาะคราบสกปรกต่าง ๆ ได้อย่างดี
• พื้นไม้ที่ผ่านระยะเวลาการใช้งานมาหลายปี อาจจะเริ่มมีเสี้ยนไม้โผล่ขึ้นมา เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่สมาชิกในครอบครัวอาจเผลอเดินไปเหยียบเสี้ยนไม้จนเกิดการบาดเจ็บได้ จึงควรทำให้พื้นไม้กลับมาเรียบเนียนอีกครั้ง ด้วยการใช้กระดาษทราย (เบอร์ 250 หรือ 280) นำมาขัดพื้นจนเรียบเสมอกัน

การนำวัสดุที่มีคุณภาพอย่างพื้นไม้จริงมาปูเป็นพื้นบ้าน แม้ว่าราคาจะสูงกว่าวัสดุชนิดอื่น หรือหาซื้อได้ยาก แต่เมื่อได้นำมาปูเป็นพื้นบ้านแล้ว จะทำให้บ้านของคุณดูสวยงามและมีความโดดเด่น จุดสำคัญคือ ควรดูแลรักษาและทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ และสิ่งที่เราจำเป็นจะต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กันเลยก็คือ เรื่องของสิ่งแวดล้อม เพราะไม้จริงทุกชนิดนั้นได้มาจากการตัดต้นไม้ จึงควรใช้งานให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุด หมั่นดูแลรักษาดี ๆ จะได้ไม่ต้องเปลี่ยนพื้นไม้บ่อย ๆ  

ที่ภาพประกอบ : http://sninterwood.co.th