หากอยากซื้อบ้านปัจจุบันไม่ใช่เรื่องยาก แต่ทั้งนี้เนื่องจากว่ามีปัจจัยหลายอย่างเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย โดยเฉพาะผู้ที่กำลังมองหาบ้านหลังแรก นอกจากเรื่องเงินที่เป็นปัจจัยหลักแล้ว ยังมีองค์ประกอบอื่น ๆ ที่ต้องจำมาประกอบการพิจารณาด้วย เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด ฉะนั้นวันนี้จึงมีข้อมูลในการเตรียมตัวสำหรับการซื้อบ้านมาแนะนำ ต้องเตรียมตัวอย่างไร เพื่อให้พร้อมสำหรับการซื้อบ้านมากที่สุด เราเตรียม 4 หัวข้อหลักที่ต้องทำการบ้านไว้ที่นี่แล้ว
การซื้อบ้านสักหลัง จำเป็นต้องหาข้อมูลเบื้องต้น เกี่ยวกับการซื้อบ้านอย่างเช่น การตามข่าวสารด้านอสังหาริมทรัพย์ เพราะว่าความรู้เหล่านี้เป็นพื้นฐานสำคัญในการเลือกบ้าน แน่นอนใคร ๆ ต่างก็อยากได้บ้านที่ดีที่สุด ในงบประมาณที่เหมาะสม นั้นหากไม่หาความรู้ด้านนี้ไว้ อาจทำให้ได้บ้านไม่ได้มาตรฐาน และอาจเปลืองงบประมาณมากกว่าเดิมด้วย และความรู้เบื้องต้นอย่างเช่น ข้อดีและข้อเสียของโครงการแต่ละหลัง การเตรียมเอกสารต่าง ๆ ที่จำเป็น ล้วนเป็นความรู้ที่ต้องศึกษาก่อนตัดสินใจซื้อ
ทำเลที่ตั้ง ราคาและโครงการบ้านนั้น มีความสำคัญเท่า ๆ กัน ฉะนั้นจะต้องเลือกให้สอดคล้องกันด้วย การเลือกทำเลที่ตั้งของบ้าน มีผลต่อราคาโดยตรง อย่างเช่น บ้านแถบชานเมือง จะมีราคาถูกกว่าบ้านกลางกรุง เป็นต้น แต่หากเจอบ้านชานเมือง ที่มีราคาสูงพอ ๆ กับบ้านกลางกรุง ก็ให้ดูในส่วนของโครงการและองค์ประกอบร่วมด้วย ว่าคุ้มค่าหรือไม่
สำหรับการเลือกทำเลที่ตั้ง ควรเป็นแหล่งที่สะดวกต่อทุกคนภายในบ้าน สำหรับคนทำงาน ควรคำนึงถึงการเดินทางเป็นหลัก และหากเป็นครอบครัวที่มีเด็ก ก็ควรคำนึงถึงระยะทางจากบ้านไปยังโรงเรียน ใกล้หรือไกลมากน้อยแค่ไหน เดินทางสะดวกหรือไม่ เป็นต้น เพราะบ้านเป็นที่อยู่อาศัยแบบระยะยาว ดังนั้นจึงต้องตัดสินใจให้ดี เน้นทำเลที่ตั้งที่สะดวกสำหรับทุกคนในบ้าน และราคาจะต้องสอดคล้องกับงบประมาณที่มี ที่สำคัญโครงการบ้านที่เลือกมานั้น จะต้องได้มาตรฐาน การก่อสร้างจะต้องเป็นไปตามหลักที่กฎหมายรองรับ หากเลือกโครงการบ้านที่ไม่น่าเชื่อถือ อาจทำให้มีปัญหาในการอยู่อาศัยแบบระยะยาวได้
หลังจากพอมีข้อมูลเกี่ยวกับโครงการบ้าน ทำเลที่ตั้งแล้ว ควรนำโครงการต่าง ๆ มาพิจารณาอย่างละเอียด ช่วงก่อนตัดสินใจซื้อนั้น ค่อนข้างสำคัญมาก เพราะว่าจะต้องเปรียบเทียบระหว่างโครงการ เพื่อให้ได้บ้านที่ตอบโจทย์มากที่สุด โดยในหัวข้อนี้ จะมีสิ่งที่ต้องนำมาพิจารณาร่วมด้วยเพิ่มเติมดังนี้
ถือเป็นสิ่งแรกที่ควรคำนึง เพราะหากว่าโครงการบ้านที่เลือกมานั้น ยังอยู่ในงบประมาณที่วางไว้ แต่หากในแต่ละเดือนต้องผ่อนเป็นจำนวนมาก จนเกินกำลังก็อาจะทำให้เครียดได้ ตัวอย่างเช่น เมื่อยื่นกู้กับธนาคารโดยมีรายได้ 20,000 – 25,000 ต่อเดือน ผู้กู้ต้องการระยะเวลาในการกู้ 20 ปีคิดอัตราดอกเบี้ยที่ 5% โดยกู้ได้ 100% จากราคาประเมิน โดยราคาบ้านอยู่ที่ 2,000,000 บาท จะต้องชำระค่างวดที่ประมาณ 16,000 บาท เป็นต้น
ซึ่งจำนวนในการปล่อยกู้นั้น อาจมีพิจารณาเพิ่มเติมต่างกันไปตามรายบุคคล และอาจมีการผ่อนชำระช่องทางอื่น ๆ ด้วยเช่น ผ่อนผ่านบัตรเครดิต เป็นต้น ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เงินกู้ลดทอนลง รวมถึงอายุของผู้กู้ด้วยว่าเหมาะสมกับระยะเวลาในการชำระเงินหรือไม่ ฉะนั้นจะต้องนำองค์ประกอบเหล่านี้มาพิจารณาดูว่า ในแต่ละเดือนมีกำลังการผ่อนเท่าไหร่
แต่ละธนาคารนนั้นจะมีอัตราการปล่อยกู้ที่ต่างกันไป และโครงการบ้านก็จะมีเรทอัตราที่ต่างกัน อย่างเช่นที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ที่ดินเปล่า หรือห้องชุด เป็นต้น โดยจะมีการปล่อยกู้ตั้งแต่ 85% ขึ้นไป แล้วแต่เงื่อนไขของธนาคารนั้น ๆ โดยมากจะให้ระยะเวลาในการผ่อนชำระไม่เกิน 30 ปี แต่สำหรับธนาคารบางแห่งจะมีระยะเวลาให้ไม่เกิน 15 ปีซึ่งบางธนาคารจะมีเงื่อนไขเพิ่มเติมสำหรับการปล่อยกู้เพื่อการอุปโภคและบริโภคไม่เกิน 5% ของราคาประเมิน เป็นต้น และในกรณีที่มีการขอกู้ร่วมกัน ก็จะมีอัตราการปล่อยกู้แยกย่อยออกไปอีก
การซื้อบ้านแต่ละหลัง ใช้จำนวนเงินไม่น้อย ดังนั้นจึงต้องมีการนำมาเปรียบเทียบเพื่อให้คุ้มค่ามากที่สุด โดยเฉพาะการเปลี่ยนเทียบอัตราดอกเบี้ย ให้ผู้ซื้อเทียบอัตราให้ละเอียดที่สุด เพราะถือว่าดอกเบี้ยเป็นปัจจัยสำคัญ สำหรับการต่อยอดเงินกู้รวมที่ต้องชำระทั้งหมด ดังนั้นหากเลือกที่อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด ก็จะทำให้อัตราการผ่อนชำระลดลงตามไปด้วย
การเปรียบเทียบข้อมูลจะทำให้ผู้ซื้อตัดสินใจได้ง่ายยิ่งขึ้น รวมถึงง่ายต่อการวางแผนด้านงบประมาณการเงิน การซื้อบ้านค่อนข้างมีรายละเอียดเยอะ ดังนั้นหากมีการเตรียมความพร้อมมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้ได้เปรียบในการซื้อ
เมื่อตัดสินใจจากข้อมูลที่ศึกษามาแล้ว ก็ถึงขั้นตอนที่จะต้องทำเรื่องกู้ซื้อบ้าน ถือว่าเป็นขั้นตอนที่ยากที่สุด เพราะว่าอาจมีปัจจุบันที่คาดไม่ถึง อย่างเช่น ไม่สามารถยื่นเรื่องกู้ซื้อได้ จะต้องมีทางออกสำรองเผื่อไว้ด้วย ดังนั้นการเลือกโครงการบ้าน ที่สอดคล้องกับงบประมาณ จะทำให้โอกาสการยื่นกู้มีโอกาสผ่านง่ายยิ่งขึ้น การซื้อบ้านแต่ละหลังนั้น มีรายละเอียดปลีกย่อยค่อนข้างมาก ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์กู้ไม่ผ่านจะทำให้ไม่ได้รับเงินคืน ดังนั้นควรศึกษารายละเอียดต่าง ๆ ให้ดีเสียก่อนตัดสินใจกู้ซื้อ นอกจากการเตรียมพร้อมสำหรับซื้อบ้านแล้ว ยังต้องเตรียมเงินทุนส่วนหนึ่ง เอาไว้หลังจากผ่านการซื้อแล้วด้วย เนื่องจากการโอนกรรมสิทธิ์อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมด้วย
หากเตรียมตัวให้พร้อมการอยากซื้อบ้านจะกลายเป็นเรื่องง่าย หากมีการเตรียมความพร้อมมาอย่างดี ลองศึกษารายละเอียดที่นำมาเสนอในวันนี้ คาดว่าเป็นประโยชน์กับผู้ที่กำลังอยากหาบ้านสักหลังแน่นอน