ปูนซีเมนต์นั้นจัดว่าเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุดอย่างหนึ่งของการก่อสร้าง เพราะว่าการก่อสร้างนั้นส่วนมากจะใช้ปูนซีเมนต์ในจุดที่ต้องการความแข็งแรงแน่นหนา อย่างเช่น พื้น เสา คาน หรือการใช้ปูนซีเมนต์ฉาบผิวในส่วนของผนัง หรือกำแพง ซึ่งปูนซีเมนต์ที่นำมาใช้สำหรับการก่อสร้างนั้นก็มีหลายรูปแบบ ทำให้ปูนซีเมนต์แต่ละชนิดมีคุณสมบัติในการใช้งานที่แตกต่างกันไป ในบทความนี้จะมาดูกันว่าปูนซีเมนต์นั้นมีกี่ประเภท และแต่ละประเภทมีความแตกต่างกันอย่างไร
ปูนซีเมนต์ที่ใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับงานก่อสร้างนั้นส่วนมากจะเป็น “ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ (Portland Cement)” ซึ่งเป็นปูนที่ได้รับความนิยมใช้มากที่สุดในวงการก่อสร้าง และปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ยังเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตปูนซีเมนต์สูตรพิเศษต่างๆ อีกด้วย โดยปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์นั้นถูกคิดค้นโดย Joseph Aspdin มีลักษณะเป็นผงละเอียดสีเทา เมื่อจะใช้ก็นำไปผสมกับวัสดุอื่นๆ เพื่อให้ได้เป็นปูนซีเมนต์สำหรับใช้ในงานต่างๆ นั่นเอง
ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์นั้นก็มีการแยกประเภทออกไปอีก ดังนั้นจึงสามารถแบ่งตามรูปแบบของการใช้งานที่แตกต่างกันออกไปได้ 5 ประเภทคือ
ปูนซีเมนต์นอกจากปูนซีเมนต์แบบปอร์ตแลนด์แล้วยังมีปูนประเภทอื่นๆ ที่แบ่งตามลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันไปอีกด้วย โดยปูนซีเมนต์ประเภทอื่นๆ ที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลายมีดังนี้
1. ปูนฉาบ เป็นปูนที่สร้างมาสสำหรับการฉาบหน้าพื้นผิวให้ดูเรียบร้อยสวยงาม โดยปูนฉาบก็สามารถแบ่งได้เป็น 3 รูปแบบคือ
2. ปูนกาว เป็นปูนที่ถูกออกแบบมาให้มีแรงยึดเกาะสูง ทำให้ปูนชนิดนี้จะใช้สำหรับงานปูกระเบื้องไม่ว่าจะเป็นกระเบื้องปูพื้น หรือติดผนัง
3. ปูนเกร๊าท์ เป็นปูนผสมทรายชนิดที่ไม่หดตัว เมื่อผสมน้ำแล้วนำมาใช้งานจะสามารถแห้งได้อย่างรวดเร็ว โดยปูนเกร๊าท์นิยมนำมาใช้สำหรับงานซ่อมแซมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานโครงสร้าง งานเทรากฐาน รวมไปถึงการฝัง หรือยึดชิ้นส่วนต่างๆ อีกด้วย
4. ปูนซ่อมเอนกประสงค์ เป็นปูนที่สามารถใช้งานได้ง่าย และหลากหลาย ส่วนมากจะเป็นการซ่อมแซมด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเสา คาน พื้น รอยร้าวต่างๆ ก็สามารถทำได้ เพียงแค่ผสมน้ำก็สามารถใช้งานได้เลย อีกทั้งยังมีบรรจุในถุงขนาดเล็กกว่าปูนซีเมนต์แบบอื่นๆ เพราะไม่เน้นใช้งานเป็นจำนวนมากนั่นเอง
การหาข้อมูลเกี่ยวกับเลือกปูนแต่ละประเภทเพื่อการใช้งานที่แตกต่างกันหลายๆ คนอาจบอกว่าไม่จำเป็นที่จะต้องใส่ใจ ให้เป็นเรื่องของช่างจัดการ แต่ในความเป็นจริงแล้วถ้าเรามีความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับรูปแบบการใช้งานของปูนแต่ละประเภทแล้ว ก็จะสามารถเลือกปูนมาใช้งานได้อย่างถูกต้อง และไม่โดนช่างเอาเปรียบ
งานปูนสำหรับบ้านพักอาศัยนั้นสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทหลักๆ คืองานเท งานก่อ งานฉาบ ซึ่งงานเทนั้นหมายถึงการเทพื้น เทเสา เทคาน งานก่อหมายถึงงานปูนที่เป็นการก่ออิฐชนิดต่างๆ เพื่อให้เป็นผนัง หรือกำแพง งานฉาบคืองานฉาบผิวให้มีความเรียบร้อยสวยงาม โดยปูนที่เหมาะกับการใช้งานทั้ง 3 ประเภทได้แก่
การก่อสร้างบ้านขึ้นมาจนเสร็จสมบูรณ์นั้นจะประกอบด้วยค่าใช้จ่ายต่างๆ มากมายหลายส่วน ซึ่งค่าใช้จ่ายสำหรับงานโครงสร้างเฉพาะที่เป็นงานปูนนั้นคิดเป็นสัดส่วนค่าใช้จ่ายเพียง 10% ของค่าก่อสร้างรวมทั้งหมด ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่น้อยมากเลย ดังนั้นการเลือกซื้อปูนมาใช้ในการสร้างบ้านควรเลือกปูนที่มีคุณภาพสูง และถูกต้องกับการใช้งานในแต่ละประเภท เพราะว่าถ้าใช้ปูนที่มีคุณภาพการทำงานปูนก็จะสะดวก ช่างทำงานง่าย และจะได้บ้านที่แข็งแรงตามมาตรฐาน ไม่ต้องซ่อมแซมบ่อย
การหาช่างปูนมาซ่อมแซมรอยร้าวต่างๆ หรือซ่อมแซมงานเล็กน้อยนั้นเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร ให้ทำการซ่อมแซมงานปูนต่างๆ ด้วยตัวเองเป็นเรื่องที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ในบางกรณี ซึ่งการทำงานกับปูนนั้นมีข้อควรระวังที่ต้องใส่ใจคือ ต้องแต่งกายให้มิดชิด ใส่หน้ากากกันฝุ่น และใส่แว่นตาเสมอเมื่อต้องผสมปูน และทำงานกับปูน รวมไปถึงไม่ควรใช้มือเปล่าสัมผัสปูนโดยตรงอีกด้วย และระหว่างทำงานให้หมั่นล้างคราบปูนที่เปื้อนตัวออกบ่อยๆ ไม่ให้มีคราบปูนติดตามตัว ถ้าปูนกระเด็นเข้าตาให้รับล้างออกทันที
เรื่องของปูนซีเมนต์ที่เป็นเรื่องใกล้ตัว และจำเป็นอย่างมากต่อการก่อสร้างทุกชนิดนั้นเป็นเรื่องที่ไม่สามารถละเลยได้ โดยเฉพาผู้ที่กำลังจะสร้างบ้าน เนื่องจากปูนนั้นเป็นวัสดุที่มีรายละเอียดปลีกย่อยมากพอสมควร และยังส่งผลต่อความแข็งแรงของโครงสร้างโดยตรง ทำให้เจ้าของบ้านควรรู้ว่าการก่อสร้างในแต่ละส่วนนั้นควรเลือกใช้ปูนชนิดไหนเพื่อที่จะให้บ้านของเรานั้นแข็งแรง สวยงาม มากที่สุด