ว่านหางจระเข้ เป็นพืชสมุนไพรที่ทุกคนต่างตระหนักดีในสรรพคุณต่างๆ ที่มีอยู่อย่างมากมายโดยเฉพาะเรื่องการช่วยบำรุง ดูแล รักษาผิวพรรณ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ว่านหางจระเข้ยังมีสรรพคุณด้านอื่นอีกมากมาย ลองดูกันว่าเราสามารถใช้ประโยชน์อะไรจากว่านจระเข้ได้บ้างและมีวิธีปลูกไว้ในบ้านอย่างไร
ว่านหางจระเข้นั้นเป็นพืชที่มีต้นกำเนิดมาจากชายทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และทางตอนใต้ของแอฟริกา ในโลกนี้มีสายพันธ์ุของว่านหางจระเข้มากกว่า 300 ชนิด มีลักษณะลำต้นอวบ ไม่สูงมาก มีหนาม ซึ่งในหลายๆ ประเทศทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย ว่านหางจระเข้นั้นถูกนำมาใช้ในการรักษาโรคต่างๆ มาตั้งแต่สมัยโบราณ
ว่านหางจระเข้จัดเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณครอบจักรวาล ไม่ว่าจะเป็นการรักษาโรคต่างๆ เช่น บรรเทาอาการไอ เป็นยาระบาย โรคตับ และโรคอื่นๆ อีกมากมาย แต่สรรพคุณที่โดดเด่นของว่านหางจระเข้นั้นจะเกี่ยวข้องกับการรักษาแผลต่าง ไม่ว่าจะเป็นแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก อาการอักเสบบริเวณผิวหนัง รวมถึงนิยมใช้ในการบำรุงผิวให้มีสุขภาพดีอีกด้วย
ว่านหางจระเข้เป็นพืชที่ดูแลง่าย ซึ่งการปลูกว่านหางจระเข้นั้นสามารถปลูกได้ทั้งการใช้หน่อและใช้ใบ บทความนี้จะมาแนะนำถึงการปลูกโดยใช้หน่อ โดยการเลือกหน่อว่านหางจระเข้นั้นต้องเป็นหน่อที่มีขนาดพอประมาณ และมีใบอย่างน้อย 4-5 ใบ โดยหน่อที่จะนำมาปลูกต้องมีรากติดมาด้วย
กระถางปลูกว่านหางจระเข้ต้องสามารถระบายน้ำได้ดี ควรมีรูระบายน้ำด้านล่าง ส่วนดินสำหรับปลูกว่านหางจระเข้ควรเป็นดินปนทราย ผสมกรวดเล็กน้อยเพื่อช่วยในการระบายน้ำ จากนั้นขุดหลุมและนำหน่อว่านหางจระเข้ปักลงไปให้มีความลึกประมาณ ¼ ของหน่อ จากนั้นก็นำดินกลบ แล้วรดน้ำให้ชุ่ม แต่อย่าลืมว่าต้องวางกระถางให้โดนแดดเพราะว่านหางจระเข้เป็นพืชที่ชอบแดด
ความสามารถในการรักษาแผลของว่านหางจระเข้นั้นเกิดจากสารโพลียูโรไนด์ และโพลีแซคคาไรด์ เนื่องจากสารทั้งสองนี้มีคุณสมบัติช่วยสมานแผลทำให้แผลหายเร็ว และยังช่วยป้องกันเชื้อโรคไม่ให้เข้าสู่แผลได้ โดยสามารถใช้ได้ทั้งแผลสด และแผลไฟไหม้ วิธีการใช้ว่านหางจระเข้ในการรักษาแผลไฟไหม้ก็เพียงแค่นำใบสดมาปอกเปลือก ล้างให้สะอาด แล้วนำวุ้นมาถู หรือปิดที่ปากแผล
สรรพคุณอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้คนรู้จักว่านหางจระเข้คือ สามารถนำมาใช้บำรุงผิวได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการลบรอยด่างดำ รักษาสิว บำรุงเส้นผม เติมความชุ่มชื่นให้กับผิว ซึ่งการใช้ว่านหางจระเข้มาบำรุงผิวนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีสารสกัดจากว่านหางจระเข้ออกมามากมาย แต่รู้หรือไม่ว่าการดูแลผิวด้วยว่านหางจระเข้สามารถทำได้ด้วยตัวเอง
วิธีการบำรุงผิวหน้าด้วยว่านหางจระเข้นั้นสามารถทำเองได้ไม่ยาก เพียงแต่นำวุ้นว่านหางจระเข้ตำละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ นมสด 1 ½ ช้อนโต๊ะ ดินสอพอง 1 ช้อนโต๊ะ มาผสมให้เข้ากันแล้วนำไปพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด เพียงเท่านี้ผิวหน้าก็จะกระจ่างใส และสูตรนี้ยังสามารถช่วยลดความมันบนใบหน้าได้อีกด้วย
นอกจากสรรพคุณทางยาแล้ว ว่านหางจระเข้ยังสามารถนำมาทำเป็นอาหารอร่อยๆ ได้หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็น ว่านหางจระเข้ลอยแก้ว วุ้นว่านหางจระเข้น้ำกะทิ น้ำว่านหางจระเข้ สมูทตี้ว่านหางจระเข้ ว่านหางจระเข้อบกรอบ หรือแม้แต่พล่าทะเลวุ้นว่านหางจระเข้ เป็นต้น ซึ่งเมนูเหล่านี้เป็นเมนูที่ทำไม่ยาก และมีรสชาติที่ดีอีกด้วย
วิธีการทำพล่าทะเลวุ้นว่านหางจระเข้นั้น อาจจะต้องเตรียมวัตถุดิบหลายอย่าง แต่รับรองว่าทำได้ไม่ยาก เพียงแค่ล้างวุ้นว่านหางจระเข้ให้สะอาด หมดเมือก แล้วแช่น้ำปูนใสทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วนำไปต้มจนสุก โดยระหว่างต้มให้ใส่ใบเตยลงไปด้วยเพื่อลดกลิ่นคาว เมื่อสุกแล้วนำมาใส่จาน แล้วจึงใส่เครื่องทะเล และผักต่างๆ ที่เตรียมไว้ลงไป จากนั้นราดด้วยน้ำพล่า คลุกเคล้าให้เข้ากัน ปรุงรสเพิ่มตามชอบ เพียงแค่นี้ก็จะได้เมนูแสนอร่อยจากว่านหางจระเข้แล้ว
การใช้ว่านหางจระเข้นั้นก็มีข้อควรระวังด้วยเหมือนกัน เช่น ไม่ควรทานมากจนเกินไป เพราะจะทำให้เกิดความผิดปกติของระบบย่อยอาหาร โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการความดันโลหิตสูงยิ่งไม่ควรทาน การนำวุ้นว่านหางจระเข้มาทาที่หน้าหรือผิวหนังต้องล้างให้สะอาดก่อน โดยเฉพาะยางสีเหลืองต้องล้างออกให้หมด ไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดอาการแพ้ได้
จากบทความนี้จะเห็นได้ว่า ว่านหางจระเข้ นั้นเป็นพืชสมุนไพรใกล้ตัวที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย นำมาเป็นอาหารก็ได้ นำมาเป็นสมุนไพรเพื่อการรักษาโรค ดูแลผิวพรรณ และยังสามารถปลูกเป็นไม้ประดับก็ได้ ว่านหางจระเข้นั้นมีคุณประโยชน์มากมายอยู่ที่การเลือกนำไปใช้ และการนำไปใช้นั้นต้องใช้อย่างระมัดระวัง หรือควรหาข้อมูลต่างๆ ก่อนเพื่อความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ดีที่สุด