อสังหาริมทรัพย์ 1 ในปัจจัย 4 ที่เป็นปัจจัยขั้นพื้นฐานของมนุษย์ในการดำรงค์ชีวิต บางคนมีความต้องการเพียงมีที่อยู่อาศัยไว้พักผ่อน แตกต่างกับบางคนที่มีความชื่นชอบ และตั้งใจศึกษาด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เช่นคู่แฝดอย่าง คุณอธิภัทร-อัทธภพ เดชอนันท์ภร แห่ง บริษัท แฝดเชียงใหม่ จำกัด ที่มีความสนใจด้านอสังหาฯ เพาะบ่มความรู้จนเชี่ยวชาญ ก่อนเข้ามาทำงานเบื้องหลังด้านอสังหาฯ อย่างเต็มตัว
สั่งสมประสบการณ์ ก่อนมุ่งสู่ฝันด้วยความตั้งใจ
เดิม คุณอธิภัทร-อัทธภพ พื้นเพเดิมเป็นชาวจังหวัดนครสวรรค์ เมื่อจบการศึกษา เริ่มต้นการทำงานเป็นสถาปิคหลายแห่ง ก่อนจะมาทำงานที่เชียงใหม่กับ บริษัท เอ 8 และได้มีโอกาสทำงานที่บริษัทเมย์ 37 ของอาจารย์ประเสริฐ ตันประเสริฐ ซึ่งทั้ง 2 แห่งนี้ถือว่าได้ให้โอกาสและยังทำให้ได้เรียนรู้หลากหลายด้านมาก มากขึ้น จนได้ขยับขึ้นมาเป็นหัวหน้าโปรดักชั่น
กระทั่งปี 2550 ได้ใช้ความรู้ด้านการก่อสร้าง มาเป็นผู้ให้ความรู้ ในการอบรมส่งคนงานไปทำงานที่ประเทศสิงค์โปร์ โดยเปิดโรงเรียนชื่อ “เชียงใหม่เทสซิ่งเซ็นเตอร์” เริ่มจากตนทั้งสองต้องผ่านการมีการทดสอบทักษะด้านงานก่อสร้าง ตั้งแต่การอ่านแบบ, ประกอบโครงสร้างไม้, ผูกโมเดลเหล็ก ซึ่งต้องทำให้เสร็จและต้องทำให้ทันภายในระยะเวลา 8 ชั่วโมง โดยจะมีเจ้าหน้าที่จากสิงค์โปร์ตรวจสอบความถูกต้องว่าถูกต้อง จึงได้รับใบอนุญาตในการสอนนักเรียน
เริ่มต้นด้าน “อสังหาฯ” ด้วยงานบริการทุกเรื่องที่ครอบคลุม
หลังจากเก็บเกี่ยวประสบการณ์มาพอสมควรจึงเริ่มหันเข้าสู่ธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์มากระทั่งถึงปัจจุบัน โดยจะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาฯ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการดำเนินงานแบบครบวงจร ทั้ง งานออกแบบอาคาร - ผังโครงการ, งานด้านจัดสรรที่ดิน, ยื่นขออนุญาตจัดสรรที่ดิน,จดทะเบียนอาคารชุด, ประสางานหน่วยงานต่าง, ระบบบัญชี, เป็นที่ปรึกษาเรื่องการก่อสร้างและ, งานรับเหมาก่อสร้าง
ทั้งนี้โครงการบ้านการุณ นับเป็นแห่งแรกที่ไว้วางใจให้เข้ามาดำเนินงาน จนทำให้มีหลายโครงการให้ความสนใจสอบถามข้อมูล รายละเอียด กระทั่งได้รับความไว้วางใจจากผู้ประกอบการของจังหวัดเชียงใหม่เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ สำหรับการดำเนินธุรกิจด้านนี้ เนื่องจากมองว่าตลาดอสังหาฯของจังหวัดเชียงใหม่ มีแนวโน้มการขยายตัวและมีอัตราเติบโตสูง ประกอบกับธุรกิจลักษณะนี้ในจังหวัดเชียงใหม่มีจำนวนไม่มากนัก ซึ่งอยู่ในรูปแบบบริษัทมีประมาณ 3-5 รายเท่านั้น ทำให้เชื่อว่าโอกาสในการเพิ่มส่วนแบ่งของตลาดยังมีอีกมาก
งัดกลยุทธ์ “สองหัวดีกว่าหัวเดียว” ทำงาน-ประสานสิบทิศ
การทำงานเป็นลักษณะคู่หูหรือ “บัดดี้” หลายคนที่มีประสบการณ์คงคาดว่าเหมือนลิ้นกับฟัน แต่ไม่สำหรับคนคู่นี้ โดยทั้งสองมองว่า ต่างคนต่างเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน อีกทั้งยังมีเป็นข้อดีมากกว่าที่จะได้ช่วยกันทำงาน ส่งผลให้มีความละเอียด สมบูรณ์ของชิ้นงาน หรือบางเรื่องก็เข้ามาเสริมในส่วนที่ใครตกหล่น หรือมีประเด็นที่อีกคนไม่ได้คิดถึง
อีกทั้งการทำงานแบบคู่หู ยังช่วยลดภาระและความเครียดได้อีกด้วย เนื่องจากมีการวิธีการทำงานจะ ถูกแบ่งงานให้แต่ละคนไว้อย่างชัดเจน อาทิ เมื่อคนหนึ่งติดต่อประสานงานกับลูกค้าก็จะรับผิดชอบในส่วนนี้ แต่เมื่อถึงขั้นตอนการติดต่อราชการหรือเป็นในเรื่องของงานเอกสาร อีกคนก็จะเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการให้เสร็จสมบูรณ์
กลยุทธ์แบบ “สองหัวดีกว่าหัวเดียว” ที่ผ่านมาเชื่อว่าเป็นแนวคิดที่ให้ผลลัพธ์ในทิศทางที่ดี เห็นได้จากตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน มีโครงการที่เข้าไปดำเนินการแล้วมากกว่า 100 โครงการ หรือกว่าร้อยละ 40 ของโครงการที่ลงทุนโดยกลุ่มทุนท้องถิ่น
ทุนท้องถิ่นต้องปรับตัว ธุรกิจต้องขยับขยาย
การเปลี่ยนแปลงธุรกิจในปัจจุบันเมื่อมีแบรนด์ใหญ่ กลุ่มทุนจากส่วนกลางเข้ามาในพื้นที่ ทำให้กลุ่มทุนท้องถิ่นต้องมีการปรับตัวให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ สิ่งสำคัญจะต้องรู้ถึงจุดอ่อน-จุดแข็ง ต้องสร้างความแตกต่าง มีจุดยืนที่ชัดเจน เช่นการออกแบบบ้าน จะต้องเป็นแบบที่ลูกค้าชื่นชอบ ต้องไม่เอาความชอบ หรือความต้อการของตนเองมาเป็นที่ตั้งเป็นต้น
สำหรับการวางเป้าหมายในอนาคตในแวดวงอสังหฯ นั้น วางทิศทางไว้ว่า อาจจะทำทางด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างเต็มตัว แต่ทั้งนี้ก็คงต้องดูปัจจัยด้านบวก-ลบ ตลอดจนสถานการณ์ต่างๆ ให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ
ธุรกิจอสังหาฯ หากเปรีบเหมือนละครเวที นอกจากเจ้าของโครงการหรือนักลงทุนที่อยู่เบื้องหน้าแล้ว ด้านหลังของเวที ยังมีทีมขับเคลื่อนให้ทุกฉาก ทุกตอน มีความถูกต้องสมบูรณ์แบบ กลุ่มคนเหล่านี้ถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จ ปิดฉากด้วยความสวยงามนั่นเอง
ดูรายละเอียดโครงการบ้านการุณ ได้ที่นี่: www.Baania.com/บ้านการุณ
บทความที่เกี่ยวข้อง: “เชียงใหม่-ดอยสะเก็ด” โครงการจัดสรรผุด ราคาสุดเร้าใจเริ่มต้นหลักแสน