ขั้นตอนที่ควรรู้ในการตรวจงานโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก

ว่ากันตามจริงแล้ว คงมีเจ้าของบ้านไม่มากนักที่สนใจในขั้นตอนการก่อสร้างบ้านเพราะเป็นเรื่องที่ฟังดูเข้าใจยาก แต่สิ่งที่ควรจะเป็นในขั้นตอนนี้คือ ท่านเจ้าของบ้านควรเข้าไปตรวจดูความเรียบร้อยก่อนผู้รับเหมาจะเทคอนกรีตเสริมเหล็กซึ่งจะเป็นส่วนที่มองไม่เห็นเมื่อก่อสร้างเสร็จ อีกทั้งโครงสร้างนั้นจะเกี่ยวข้องกับความแข็งแรงของบ้านด้วย วันนี้ Baania จะแนะนำวิธีตรวจสอบง่ายๆ ว่าคุณควรจะดูงานโครงสร้างในส่วนไหนบ้าง เพื่อจะไปคุยกับผู้รับเหมาได้รู้เรื่องว่ามี การวางแผนการทำงานไว้อย่างไร เพื่อเช็คดูความพร้อมของทีมในการสร้างบ้านให้คุณครับ

1. ตรวจสอบประเภทคอนกรีตเสริมเหล็ก

อันดับแรกสุดคุณควรตรวจสอบว่าผู้รับเหมาใช้คอนกรีตประเภทใด ถูกต้องตามประเภทการใช้งานหรือไม่ เช่น งานโครงสร้างอาคารก็จะใช้คอนกรีตเสริมเหล็กงานก่อสร้างทั่วไป งานสระว่ายน้ำก็จะใช้คอนกรีตกันซึม เป็นต้น แต่ถ้าเป็นการผสมคอนกรีตหน้างานเองให้ดูจากปูนซีเมนต์ที่ผู้รับเหมาซื้อมา ต้องเป็นปูนซีเมนต์ประเภท 1 (Normal Portland Cement) เหมาะกับงานก่อสร้างคอนกรีตทั่วๆไป เช่น คาน เสา พื้น ค.ส.ล. หรือดูบนถุงปูนจะเขียนว่า สำหรับงานโครงสร้าง และควรหลีกเลี่ยงการผสมน้ำเพิ่มที่หน้างาน เพราะจะทำให้ส่วนผสมคอนกรีตเกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งส่งผลให้คอนกรีตเกิดการแยกตัว นอกจากนี้วิศวกรผู้ควบคุมงานจะช่วยทดสอบความแข็งแรงของคอนกรีตอีกทีว่าใช้การได้ไหมอย่างไร

2. ตรวจสอบก่อนเทคอนกรีต

ก่อนการเทคอนกรีต ผู้รับเหมาจะจัดเตรียมไม้แบบ ไม่ว่าจะเป็นไม้แบบที่ใช้ไม้หรือเหล็กก็สามารถใช้ได้ แต่ต้องเพียงพอในการเทแต่ละครั้ง ซึ่งการเทพร้อมกันจะช่วยให้คอนกรีตเป็นเนื้อเดียวกันได้ดีกว่าแบ่งเทหลายครั้ง ท่านเจ้าของบ้านอาจจะดูความเรียบร้อยการติดตั้งไม้แบบและตัวค้ำยันว่ามีความแข็งแรง มีการวัดระดับและการทำเครื่องหมายระดับอย่างชัดเจนที่ไม้แบบ มีการหนุนลูกปูนหรือก้อนปูนทรงกระบอกที่ใช้รองระหว่างเหล็กกับพื้นไม้แบบ ที่สำคัญก่อนการเทคอนกรีตเสริมเหล็กควรให้สถาปนิกหรือวิศวกรมาตรวจแบบเหล็กด้วยว่าถูกต้องตามแบบคำนวณของวิศวกรผู้ออกแบบโครงสร้างและใช้เหล็กที่มีมาตรฐานรับรอง มีระยะทาบ ระยะงอ การผูกเหล็ก และ ต่อเหล็กอย่างถูกต้องตามหลักวิศวกรรม

3. ตรวจสอบระหว่างเทคอนกรีต

ลองตรวจสอบความพร้อมของผู้รับเหมาที่จะเทคอนกรีตเสริมเหล็กว่ามีเครื่องมือเทที่เพียงพอ สะอาด พร้อมใช้งาน และมีคนงานมากน้อยแค่ไหน ทั้งนี้ควรจะเทให้เสร็จเป็นชั้นๆ ไป เพื่อให้คอนกรีตเป็นเนื้อเดียวกัน อย่างไรก็ตามหากมีการแบ่งเทคอนกรีต สำหรับส่วนคานต้องหยุดเทที่ระยะกลางคาน ห้ามหยุดเทที่ระยะน้อยกว่านั้น เพราะบริเวณดังกล่าวจะมีแรงเฉือนในหน้าตัดคาน ทำให้เหล็กที่นำมาเสริมเพื่อรองรับแรงเฉือนในคานจะต้องรับแรงที่เกิดบริเวณรอยต่อด้วย ซึ่งจะส่งผลต่อความแข็งแรงของโครงสร้าง ส่วนพื้น สามารถเทคานให้เหลือเหล็กสำหรับผูกเหล็กของพื้นคอนกรีตทีหลังได้ แต่ถ้าจะให้ดีถ้าเทพร้อมกันได้ก็จะดีกว่าเพราะจะทำให้คอนกรีตเป็นเนื้อเดียวกันกับคานได้

4. ตรวจสอบหลังคอนกรีต

หลังการเทคอนกรีตเสริมเหล็กต้องมีการบ่มคอนกรีตหรือการทิ้งไว้ให้คอนกรีตเซ็ตตัวอย่างน้อย 7 วัน ขึ้นอยู่กับประเภทของคอนกรีตเสริมเหล็กและโครงสร้าง โดยทำได้หลายวิธีเช่น การบ่นโดยใช้วัสดุอุ้มน้ำคลุมแล้วฉีดน้ำให้ชุ่ม ฉีดน้ำให้เปียกชื้น หรือ ใช้พลาสติกคลุม ระหว่างนี้ลองตรวจสอบโครงสร้างที่ใช้ค้ำยันว่ายังมีความแข็งแรงดีไหม ถ้ามีส่วนที่ดูจะรับน้ำหนักไม่ไหว ทำให้พื้นคอนกรีตเกิดการแอ่น ต้องรีบแจ้งผู้รับเหมา

หลังจากที่บ่มคอนกรีตเสริมเหล็กได้ที่แล้ว เมื่อมีการแกะแบบข้างคานแล้วให้ตรวจดูว่ามีโพรงในคอนกรีตหรือไม่ ส่วนแบบท้องคานต้องให้คอนกรีตได้อายุต่ำกำหนดก่อน อาจจะสอบถามจากผู้รับเหมาที่จะเทคอนกรีตเสริมเหล็กว่าใช้เวลากี่วัน นอกจากนี้ก็ดูโดยรวมว่าคอนกรีตมีผิวที่เรียบ ไม่มีเหล็กเส้นโผล่ออกมาที่ผิวของโครงสร้าง หรือเสาและคานมีส่วนใดส่วนหนึ่งโก่งและงอหรือเปล่า ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยก็ให้ผู้รับเหมาดำเนินการในส่วนของชั้นอื่นๆ ต่อไปครับ

ทั้งหมดนี้คือขั้นตอนง่ายๆ สำหรับการตรวจโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กอย่างคร่าวๆ โดยใช้การสังเกต ถ้าเรามีความสงสัยอื่นๆ เกี่ยวกับความแข็งแรง อาจจะลองสอบถามถามผู้รับเหมา หรือวิศวกรควบคุมงานได้สำหรับคำตอบต่างๆ เป็นการรีเช็คด้วยว่า บ้านของเราได้ผู้รับเหมาและวิศวกรมืออาชีพแค่ไหนอย่างไร เพื่อให้บ้านของเราแข็งแรงและไม่มีปัญหาตามมาภายหลัง ซึ่งการแก้ไขโครงสร้างหลังบ้านเสร็จแล้วนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยครับ ส่วนใครที่อยากรู้แนวทางการตรวจบ้านก่อนรับโอนแบบสรุปมาให้ทุกส่วน เรามีเช็คลิสต์ตรวจบ้านก่อนรับโอนมาแนะนำด้วยเช่นกัน คุณสามารถติดตามได้ที่ลิ้งค์ด้านล่างนี้เลยครับ