ผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ปี 2555 ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อบังคับใช้เป็นกฎกระทรวงผังเมืองรวมจังหวัดเชียงใหม่ คนทำผังเมืองตัวจริงอย่าง “วิชัย ขจรปรีดานนท์” โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเชียงใหม่ มีมุมมองในเรื่องนี้อย่างไร ผังเมืองเชียงใหม่ที่จะประกาศใช้ต่อจากนี้เป็นตัวควบคุมการพัฒนาหรือส่งเสริมการพัฒนากันแน่
ความแตกต่างของผังทั้ง 2 ประเภทเป็นอย่างไร
ผังเมืองรวมจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งประกาศเป็นราชกิจจานุเบกษา ตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน 2555 เป็นระบบการใช้ที่ดินแบบกว้างๆ พื้นที่วางผังจะครอบคลุมพื้นที่ทั้งจังหวัด ซึ่งเป็นพื้นที่ชนบท (ตำบล) ของจังหวัด โดยจะยกเว้น-กันเขตพื้นที่ บริเวณที่มีเจริญสูง หรือเป็นชุมชนเมืองสูงกว่าพื้นที่ อบต.ก็คือบริเวณพื้นที่เขตเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่อยู่รอบๆ เขตเทศบาล ซึ่งจะเป็นพื้นที่รองรับการขยายตัวของชุมชนเมืองในอนาคต 20 ปี พื้นที่ยกเว้น/กันออกตามที่กล่าวมาจะกำหนดเป็นสีชมพูไว้ เพื่อวางและจัดทำในรายละเอียด ซึ่งก็คือผังเมืองรวม-ผังเมืองรวมชุมชน
ส่วนผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่เป็นผังละเอียด ขณะนี้กำลังรอกฤษฎีกาพิจารณา และจะมีการประกาศใช้ในเร็วๆ นี้ เป็นการวางผังในรายละเอียดบนพื้นที่สีชมพู เนื่องจากพื้นที่สีชมพูเป็นพื้นที่ความเจริญสูง มีความเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ สังคม การบริหาร การปกครองของอำเภอ มีความซับซ้อนของเมือง-ชุมชนในด้านต่างๆ มากกว่าพื้นที่ชนบท จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจัดทำผังให้มีรายละเอียด เช่น สีเหลือง สีแดง สีส้ม สีเขียวแก่ เขียวอ่อน สีน้ำเงิน สีเทา สีเขียวมะกอก สีน้ำตาล เป็นต้น หลายประเภทเพื่อให้มีการควบคุม ส่งเสริมการใช้ประโยชน์ที่ดิน และอื่นๆ ที่เข้มงวดมากกว่าผังเมืองรวมจังหวัด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับศักยภาพหรือระดับความเจริญของเมือง รวมถึงลักษณะของพื้นที่ด้วย
ผังเมืองมีความจำเป็นอย่างไร
การวางผังเมืองรวมจังหวัดมีความสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาพื้นที่ตามนโยบายของรัฐบาล และการบริหารจัดการที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งท้องถิ่นทุกระดับ ซึ่งใช้เป็นกรอบนโยบายการชี้นำและการควบคุมการพัฒนาพื้นที่ ในด้านการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อกิจการต่างๆ ทั้งในเขตชุมชนเมือง พื้นที่เกษตรกรรม และพื้นที่สงวนไว้เพื่อการอนุรักษ์และคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งจะมีการประกาศกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในเร็วๆ นี้ และจะมีผลโดยตรงต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ได้แก่ เจ้าของที่ดิน และกิจการในเขตวางผัง รวมทั้งผู้มีอำนาจในการควบคุม อนุมัติ อนุญาตให้ก่อสร้างอาคาร หรือประกอบกิจการตามกฎหมายเฉพาะเพื่อการนั้นๆ
ขอบเขตของผังมีรายละเอียดอย่างไร
ผังเมืองรวมจังหวัดเชียงใหม่มีขอบเขตผังครอบคลุม 25 อำเภอ เริ่มจากด้านเหนือ ได้แก่ อำเภอฝาง อำเภอไชยปราการ อำเภอเชียงดาว อำเภอแม่แตง อำเภอแม่ริม ลงมาบริเวณตรงกลางในเขตประกาศผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ กำหนดการใช้ที่ดินประเภทชุมชน (สีชมพู) ส่วนด้านใต้ตั้งแต่อำเภอหางดง อำเภอจอมทอง อำเภอดอยเต่า ถึงอำเภออมก๋อยสุดเขตจังหวัดเชียงใหม่ ใช้ขอบเขตการปกครองเป็นเขตวางผัง ระดับของการจัดทำผังเมืองจะเชื่อมโยงสอดคล้องกัน และชี้นำการพัฒนาหรือควบคุมการพัฒนามุ่งสู่เป้าหมายและยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศได้เริ่มตั้งแต่ผังภาคเหนือ 17 จังหวัด การวางผังภาคจะนำระบบชุมชนมาคิดคำนวณทั้งเรื่องความแตกต่างแต่ละภาค แต่ละเมือง แต่ละชุมชน รวมทั้งบทบาทหน้าที่ของชุมชน รองลงมาคือผังเมืองระดับจังหวัด ได้แก่ ผังเมืองรวมจังหวัดเชียงใหม่ เป็นผังในด้านการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจการต่างๆ
ในส่วนผังเมืองระดับเมือง คือผังเมืองรวมเมืองเชียงใหม่ จะอยู่บริเวณพื้นที่สี่เหลี่ยมคูเมือง โครงข่ายคมนาคมและขนส่ง มีถนนวงแหวนรอบกลาง ถนนวงแหวนรอบนอก ซึ่งเป็นการพัฒนาในรายละเอียด ขอบเขตเมืองเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางความเจริญของภาคเหนือและประเทศ ส่วนผังเมืองเฉพาะจะกำหนดย่านสี่เหลี่ยมคูเมือง หรือย่านวัดเกตุ โดยผังเมืองทุกระดับจะต้องสัมพันธ์และเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน ตั้งแต่ผังระดับเมือง จังหวัดจนถึงผังประเทศ
กระแสในพื้นที่หลายฝ่ายต่อต้านผังเมืองนี้ เพราะมองว่าเป็นการจำกัดการพัฒนา-การลงทุน
ต้องบอกว่าฝ่ายที่เห็นด้วยกับผังนี้ก็มี ไม่เห็นด้วยก็มี แต่ในข้อเท็จจริงต้องมีผังเมือง ต้องมีการกำหนดทิศทางการเติบโตของเมือง เพราะเมืองจะโตในทุกทิศทุกทางไม่ได้ ต้องมีกฎกติกา ผังเมืองไม่ใช่ตัวควบคุม แต่กำหนดทิศทางและส่งเสริมให้มีการพัฒนา ซึ่งการจัดทำผังเมืองเชียงใหม่ครั้งนี้เราคำนวณการใช้ไว้ 20 ปี ซึ่งจะมีการทบทวนทุกๆ 5 ปีว่าบริบทของเมืองมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง ก็จะต้องมาทบทวนและปรับปรุงกันใหม่
กรอบของผังเมืองเชียงใหม่วางอยู่บนพื้นฐานอะไร
ผังเมืองนั้นเป็นวิทยาศาสตร์ ก็เหมือนกับการวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจที่ต้องมีการสำรวจพื้นที่ วางระบบทั้งกลุ่มอนุรักษ์และพัฒนา ซึ่งก่อนที่จะวางผังออกมาได้นั้นต้องตีโจทย์ให้แตกว่าเมืองนี้จะเป็นเมืองอย่างไร เราไม่ได้กำหนดผังเอง แต่เป็นการกำหนดโดยยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่ที่มีอยู่แล้ว ซึ่งจะชี้ให้เห็นชัดเจนว่าเชียงใหม่จะมีการพัฒนาไปในทิศทางใด กล่าวคือเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางการพัฒนาภาคเหนือตอนบน เชื่อมโยงกับประเทศในกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) ทั้งการเชื่อมโยงด้านพาณิชยกรรม อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การศึกษา การบริการสาธารณสุข ศูนย์กลางด้านการประชุมและแสดงสินค้า (MICE) ซึ่งเราก็เอากรอบยุทธศาสตร์การพัฒนามาวางผังการใช้ที่ดิน เป็นต้น ซึ่งในข้อเท็จจริงก็คือผังเมืองมีความจำเป็นต่อทุกเมือง