สำหรับท่านที่กำลังมองหาบ้านหลังใหม่ แต่ยังไม่มีความพร้อมทางด้านการเงินมากพอที่จะซื้อบ้านในราคาเต็มจำนวนได้ การกู้ซื้อบ้านกับทางธนาคารจึงถือว่าเป็นอีกทางเลือกที่มีความน่าสนใจ แต่จะทำอย่างไรให้การกู้ซื้อบ้านนั้นมีความราบรื่น รวมถึงต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างก่อนยื่นเรื่องกู้ซื้อบ้าน วันนี้ทางเรามีข้อควรรู้สำหรับการเตรียมตัวกู้ซื้อบ้านมาแนะนำ ซึ่งมีดังต่อไปนี้
ก่อนจะเข้าไปยื่นกู้ซื้อบ้านกับทางธนาคาร ควรเตรียมความพร้อมก่อน ด้วยการค้นคว้าข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับการขอสินเชื่ออย่างรอบด้าน โดยสามารถเข้าไปศึกษาได้จากเว็บไซต์ของทางธนาคาร รวมถึงการเข้าไปสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ของทางธนาคารโดยตรง เนื่องจากมีหลายสิ่งที่ต้องเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็น วงเงินกู้ อัตราดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายในส่วนอื่น ๆ ที่จะตามมา ซึ่งทางธนาคารแต่ละแห่งจะมีเงื่อนไขแตกต่างกันออกไป เราจึงควรเลือกยื่นกู้กับทางธนาคารที่สามารถรับเงื่อนไขได้ ถัดจากนั้นให้ทางผู้กู้เตรียมเอกสารต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องใช้ประกอบการยื่นกู้ให้ครบถ้วน เช่น บัตรประชาชน บัตรข้าราชการ และหลักฐานเกี่ยวกับที่มาของรายได้ เป็นต้น การยื่นเอกสารเหล่านี้มีความสำคัญต่อการยื่นกู้เป็นอย่างมาก เพราะทางธนาคารจะนำไปประกอบการพิจารณา เพื่ออนุมัติวงเงินกู้ตามที่ได้ยื่นเอาไว้
การเลือกซื้อบ้านควรคำนึงถึงรายได้ของตัวเองด้วย ว่ามีศักยภาพมากพอที่จะผ่อนชำระได้หรือไม่ เพราะหากเลือกบ้านที่มีราคาสูงมากจนเกินไป ก็จะเป็นภาระผูกพันในระยะยาวด้วย ยิ่งถ้าหากไม่สามารถผ่อนชำระได้ตามสัญญา จะนำไปสู่การยึดทรัพย์สินในภายหลัง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับตัวอย่างแน่นอน ดังนั้นก่อนยื่นเรื่องกู้ซื้อบ้านก็ควรมองหาบ้านที่มีราคาเหมาะสมกับรายได้ของตัวเรา ด้วยการประเมินศักยภาพทางการเงินของตัวเอง ว่ารายได้ของเราควรจะผ่อนบ้านในราคาเท่าไหร่ โดยให้นำภาระหนี้อื่น ๆ มาประเมินร่วมด้วย เช่น การผ่อนชำระค่างวดรถยนต์ เพราะจะทำให้ศักยภาพทางด้านการเงินของเรานั้นลดลง เมื่อประเมินศักยภาพทางด้านการเงินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ให้มองหาบ้านที่มีความเหมาะสมกับฐานะทางการเงินของตัวเอง
การจะยื่นเรื่องกู้เงินกับทางธนาคาร วินัยทางการเงินนับว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากเพราะจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับทางธนาคารได้ แต่สำหรับท่านที่ไม่เคยเป็นหนี้มาก่อน อาจจะไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่นักสำหรับการยื่นกู้เงิน เพราะทางธนาคารไม่สามารถทราบได้เลยว่าเรามีประวัติการผ่อนชำระเป็นอย่างไรบ้าง จึงมีโอกาสที่ทางธนาคารจะอนุมัติวงเงินกู้ได้ค่อนข้างยากกว่า สำหรับท่านที่จะยื่นเรื่องกู้เงินเพื่อนำไปซื้อบ้าน ควรจะมีบัตรเครดิตอย่างน้อย 1-2 ใบ พร้อมทั้งมีประวัติการผ่อนชำระในระดับที่ดี มีการชำระเงินค่างวดตรงตามระยะเวลาที่กำหนด เป็นการพิสูจน์ให้ทางธนาคารได้เห็นว่าเรามีประวัติการผ่อนชำระเป็นอย่างดี เพื่อให้ทางธนาคารมีความมั่นใจว่าหากปล่อยกู้ไปแล้วเราจะสามารถชำระเงินคืนได้ตามที่ระบุไว้ในสัญญา
ควรมีเงินออมมากพอในระดับหนึ่ง หรือควรมีเงินออมอย่างน้อยประมาณ 10-15 % ของราคาบ้านหลังใหม่ เพื่อไว้สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่มีความจำเป็น ไม่ว่าจะเป็น ค่าโอนกรรมสิทธิ หรือแม้แต่ค่าจดจำนองก็ตาม ซึ่งถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่ทางเจ้าของบ้านจำเป็นจะต้องมีสำรองไว้ นอกจากนี้ยังต้องมีเงินออมบางส่วนไว้สำหรับการตกแต่งบ้านหลังใหม่ เพราะในปัจจุบันนั้นมีบ้านในหลายโครงการ ที่มีเพียงแค่ตัวบ้านมาให้เท่านั้น แต่ทางเจ้าของบ้านจะต้องทำการตกแต่งภายในรวมถึงซื้อเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ มาประดับตกแต่งภายในบ้านด้วยตัวเอง ตรงส่วนนี้ถือว่ามีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงมากทีเดียว เนื่องจากเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ตกแต่งคุณภาพสูงนั้น มีการวางจำหน่ายในราคาแพง จึงควรจะมีเงินสำรองจำนวนหนึ่งไว้สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายด้วย
ก่อนหน้านี้บางท่านอาจจะยังไม่ทราบว่าการกู้ซื้อบ้าน ทางธนาคารจะมีการตรวจสอบบัญชีธนาคารย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน ก่อนจะอนุมัติวงเงินกู้ ดังนั้นทางผู้กู้จึงควรเดินบัญชีอย่างสม่ำเสมอ และจะต้องมีเงินติดบัญชีเอาไว้บ้าง ไม่ควรถอนเงินจนหมดเกลี้ยงทั้งบัญชี ซึ่งตรงส่วนนี้สำหรับ พนักงานบริษัทเอกชน หรือข้าราชการ ไม่มีความน่ากังวลเท่าไหร่นัก เพราะจะมีเงินเดือนเข้าบัญชีอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอเป็นประจำทุกเดือน แต่สำหรับอาชีพที่ไม่มีเงินเดือน อย่างเช่น ค้าขาย รับจ้างทั่วไป หรือฟรีแลนซ์ จะต้องให้ความสำคัญกับส่วนนี้มากเป็นพิเศษ โดยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารอย่างเป็นประจำ เพื่อให้บัญชีธนาคารของตัวเองมีความเคลื่อนไหว การเดินบัญชีอย่างสวยงามและสม่ำเสมอจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือทางด้านการเงินให้แก่ผู้กู้ จะมีผลต่อการอนุมัติวงเงินกู้ตามที่ได้ยื่นเรื่องเอาไว้อย่างแน่นอน
ก่อนจะทำการยื่นเรื่องกู้ซื้อบ้านกับทางธนาคาร ควรจะเข้าไปตรวจสอบเครดิตบูโรก่อนเสมอ ซึ่งสามารถเข้าไปตรวจสอบข้อมูลเครดิตบูโรได้ตามที่อยู่ที่ได้มีการระบุไว้ในเว็บไซต์ของ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (Credit Bureau) ด้วยการใช้หลักฐานเพียงแค่ บัตรประชาชน หรือ หนังสือเดินทาง เท่านั้นเอง โดยทางบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติจะทำหน้าที่ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเครดิตจากสถาบันการเงินหลากหลายแห่ง จากนั้นจะมีการสรุปข้อมูลเครดิตของแต่ละรายออกมาอย่างมีความชัดเจน และทางเจ้าของข้อมูลดังกล่าวก็มีสิทธิ์ในการเรียกดูข้อมูลเครดิตของตัวเอง ทางบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติจะมีการเปิดเผยรายงานข้อมูลเครดิตให้ได้รับทราบ เพื่อให้ท่านสามารถนำข้อมูลเครดิตดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ตามความจำเป็น นับว่าเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญอย่างยิ่งที่ทางผู้กู้จะต้องเตรียมตัวก่อนยื่นเรื่องกู้ซื้อบ้านกับทางธนาคาร เพื่อให้การกู้ซื้อบ้านมีความราบรื่นมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
การจะกู้ซื้อบ้าน นับว่าเป็นหนี้สินในระยะยาว ที่จะกลายเป็นภาระผูกพันนับสิบ ๆ ปี ก่อนจะทำเรื่องยื่นกู้เงินซื้อบ้าน จึงควรปิดหนี้สินบางรายการไปบ้าง ไม่ว่าจะเป็น หนี้บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล หรือแม้แต่ค่างวดรถยนต์ เพราะหนี้สินเหล่านี้จะทำให้ทางธนาคารเกิดความลังเลในการปล่อยกู้ อีกทั้งยังอาจจะทำให้วงเงินกู้ลดลงจากเดิมอีกด้วย ดังนั้นก่อนเข้าไปยื่นเรื่องกู้เงินกับทางธนาคาร จึงอยากจะแนะนำให้ชำระหนี้สินเหล่านี้ให้หมดไปเสียก่อน ไม่ต่ำกว่า 4 เดือน ก่อนจะดำเนินการกู้เงิน พร้อมทั้งไม่สร้างหนี้สินใหม่ ๆ ขึ้นมา ในระหว่างที่กำลังยื่นเรื่องกู้ซื้อบ้าน จะทำให้การยื่นกู้มีความสะดวกสบายมากขึ้น และมีโอกาสได้รับวงเงินกู้ตามที่ได้ยื่นเรื่องเอาไว้อีกด้วย
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 7 ข้อควรรู้ สำหรับการเตรียมตัวเพื่อกู้ซื้อบ้าน ทั้งหมดที่กล่าวมามีผลต่อการพิจารณาอนุมัติวงเงินกู้ทั้งสิ้น ท่านที่มีความประสงค์ต้องการจะซื้อบ้านหลังใหม่ จึงควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากปฏิบัติได้ตามที่กล่าวมาจะเป็นผลดีต่อการพิจารณาของทางธนาคาร มีโอกาสสูงมากทีเดียวที่ทางธนาคารจะอนุมัติวงเงินกู้ตามที่ยื่นเรื่องเอาไว้ แต่อย่างไรก็ตามขอแนะนำว่าก่อนจะเข้าไปยื่นกู้ซื้อบ้านกับทางธนาคาร ควรจะมีการประเมินศักยภาพทางด้านการเงินของตัวเองก่อน ว่ามีความพร้อมมากพอหรือไม่สำหรับการเป็นหนี้ในระยะยาว เพราะการกู้เงินซื้อบ้านจะส่งผลกระทบต่อการเงินของท่านนับสิบ ๆ ปี อย่างแน่นอน จึงควรจะพิจารณาอย่างรอบคอบมากที่สุด ก่อนที่จะดำเนินการใด ๆ ก็ตาม