First Jobber คือ กลุ่มคนที่เพิ่งเรียนจบมีอายุงานไม่เกิน 4 ปี ชีวิตใหม่หลังจบการศึกษาและเริ่มก้าวสู่วัยทำงานเต็มไปด้วยความท้าทายใหม่ๆ สำหรับการเลือกที่อยู่อาศัยก็เช่นกัน การโยกย้ายที่อยู่อาศัย จากเดิมที่อยู่ใกล้สถานศึกษาไปอยู่ในจุดที่สะดวกต่อการเดินทางไปทำงานแทน และสำหรับใครที่เข้ามาทำงานในเมืองหลวง ต้องยอมรับว่าการหาที่พักอาศัยที่เหมาะสมทั้งในเรื่อง สภาพแวดล้อม สิ่งอำนวยความสะดวกและราคา อาจไม่ใช่เรื่องง่าย การเลือกอยู่ในคอนโดอาจจะตอบโจทย์สำหรับหนุ่มสาวที่กำลังค้นหาตัวเองได้มากกว่า นอกจากนั้นการซื้อคอนโดก็ดูสมเหตุสมผลในช่วงวัยนี้มากกว่าบ้านหลังใหญ่อีกด้วย
จากคลังข้อมูลของ Baania เราพบว่าปัจจุบันราคาเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมในกรุงเทพ อยู่ที่ 65,000 บาทต่อตารางเมตร (จากข้อมูลกว่า 1,500 โครงการ) ซึ่งโดยทั่วไปค่าใช้จ่ายสำหรับที่อยู่อาศัยไม่ควรจะเกิน 40% ของรายได้ทั้งหมดในแต่ละเดือน แน่นอนว่าการหารายได้เพื่อผ่อนคอนโดสักห้องไม่ใช่เรื่องง่าย นี่จึงเป็นความท้าทายที่เหล่าแรงงานหน้าใหม่นี้จะต้องเผชิญ ซึ่งก็แตกต่างกันไปในแต่ละสาขาอาชีพ เนื่องจากรายได้ต่อเดือนที่แตกต่างกัน สามารถรับภาระในการผ่อนได้ต่างกัน
สำหรับเงินผ่อนต่อเดือนนั้น เราขอยกตัวอย่างการคำนวณอย่างง่ายดังนี้ โดยหากคุณเลือกห้องราคา 1,500,000 บาท (ตามภาพด้านบน) ผ่อนที่อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5% ต่อปี เป็นระยะเวลา 30 ปี คุณต้องจ่ายประมาณ 7,200 บาทต่อเดือน ซึ่งหมายความว่า คุณควรจะมีรายได้ต่อเดือนอย่างน้อย 20,000 บาท เพื่อให้ค่าผ่อนชำระไม่เกิน 40% ของรายได้ในแต่ละเดือนนั่นเอง
อยากซื้อคอนโด ทำอย่างไรดี?
คงจะมีบางวันที่คุณฉุกคิดได้ว่า “เสียค่าเช่าหอพักหรือคอนโด ทุกเดือน แต่กลับรู้สึกว่าเป็นเงินที่เสียเปล่า น่าจะซื้อคอนโดเป็นของตัวเองสักหลัง” แต่ก่อนที่ซื้ออะไร (โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์) คุณก็ควรมีเงินเก็บสักก้อนหรือควรมีความมั่นคงทางรายได้ในระดับนึง เนื่องจากนี่จะเป็นภาระผูกพันในระยะยาว ดังนั้นคุณควรจะตัดสินใจเลือกให้ดีที่สุด เพราะว่าถ้าซื้อไปแล้วโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นไปได้ยาก
แน่นอนว่า ถ้าคุณมีเงินดาวน์ยิ่งมากก็ยิ่งดี (แต่ส่วนนี้บางคนอาจใช้วิธีผ่อนดาวน์) ตัวอย่าง อัตราขั้นต่ำของเงินดาวน์ที่ควรเตรียมไว้สำหรับคอนโดที่ราคาไม่เกิน 1,500,000 บาท อยู่ที่ประมาณ 300,000 บาท (ตามภาพด้านบน) หากมีส่วนต่างระหว่างวงเงินที่ธนาคารปล่อยกู้กับราคาซื้อคอนโด ก็คือส่วนที่ผู้ซื้อต้องจ่ายเงินเพิ่มเอง นั่นก็คือมาจาก “เงินเก็บ” ดังนั้น ถ้าอยากซื้อคอนโดสักหลังควรตัดสินใจอย่างรอบคอบ เริ่มออมเงิน หรือหารายได้พิเศษเอาไว้ล่วงหน้านะครับ
สำหรับคอนโดที่กำลังก่อสร้าง อาจจะไม่ต้องเตรียมเงินดาวน์เป็นก้อนใหญ่ แต่สามารถใช้วิธีการผ่อนดาวน์ไปเรื่อยๆ จนกว่าโครงการจะสร้างเสร็จ หลังจากนั้นก็ค่อยทำเรื่องกู้ ซึ่งคุณอาจจะได้เงินคืนกลับมาบ้างเล็กน้อย แต่ก็อย่าลืมว่านอกจากเงินดาวน์ที่ต้องเตรียมแล้วยังมีค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในวันโอน อาทิ ค่าทำสัญญา ค่าโอนกรรมสิทธิ์ ค่าจดจำนอง เงินกองทุนค่าส่วนกลาง ฯลฯ ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมดนี้ก็ไม่ใช่น้อยๆ เหมือนกัน และสิ่งที่คุณต้องระลึกไว้เสมอก็คือไม่ใช่ว่าทุกคอนโด ที่คุณยื่นกู้กับทางธนาคาร แล้วจะได้วงเงิน 100% เต็มของราคาคอนโด นอกจากค่าอื่นๆ จิปาถะที่เราสาธยายไปแล้ว อย่าลืมว่าการอยู่คอนโดต้องจ่ายค่าส่วนกลางด้วยนะครับ
ซึ่งข้อดีของการกู้ซื้อคอนโดตอนที่คุณเพิ่งเริ่มทำงาน ก็คือ คุณยังอายุน้อยซึ่งเป็นข้อได้เปรียบในการทำสัญญาในการกู้ โดยคุณสามารถเลือกเวลาในการผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึง 30 ปี เลยทีเดียว
ชื่อเสียงของโครงการสำคัญไฉน?
การตัดสินใจซื้อคอนโดสักหลัง เราต้องพิจารณาหาข้อมูลดูประวัติจากโครงการที่มีการสร้างก่อนหน้านี้ ซึ่งปัจจุบันนี้เราสามารถหาข้อมูลได้จากหลายๆ ทางจะทำให้การตัดสินใจได้อย่างถูกต้องมากขึ้น ประโยชน์ที่ซื้อจากโครงการใหญ่คือความได้เปรียบในเรื่องของการทำสัญญากู้ วงเงินที่ได้ รวมไปถึงอัตราดอกเบี้ยซึ่งขึ้นอยู่กับนโยบายและการพิจารณาของแต่ละสถาบันการเงิน นอกจากนี้ผู้ประกอบการรายใหญ่จะไม่ทิ้งโครงการ และมักจะสร้างเสร็จตามกำหนดเวลา เพื่อรักษาชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของบริษัทตนเอง
ซึ่งปัจจุบันแต่ละธนาคารพยายามนำเสนอโปรโมชั่นต่างๆ ซึ่ง 1 ในนั้น คือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ได้เสนอเงื่อนไขที่น่าสนใจสำหรับการกู้ซื้อคอนโด ไว้ดังนี้
โดยคุณสมบัติของผู้กู้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขาทั่วประเทศ หรือโทร 1572