รีไฟแนนซ์บ้านอย่างไรให้สบายใจสบายตัวสุดๆ

การได้อยู่ในบ้านตามที่ใจฝันคือความสุขของหลายๆ คน แต่สำหรับการจ่ายค่างวดผ่อนบ้านอาจจะไม่ใช่ บางครั้งค่าบ้านทำให้เราต้องเหนื่อยสายตัวแทบขาด หรือต้องยอมงดความสุขบางอย่างไปก่อน และถึงแม้ว่าค่าใช้จ่ายดังกล่าวจะไม่สามารถทำให้สภาพคล่องของคุณสะดุ้งสะเทือนได้ แต่การที่มีรายจ่ายลดลงก็ย่อมจะดีกว่าอยู่แล้ว และทางเดียวที่จะทำให้การผ่อนบ้านดูเป็นมิตรกับคุณมากขึ้นก็คือ การรีไฟแนนซ์บ้าน นั่นเองครับ

แน่นอนว่าการทำรีไฟแนนซ์บ้านเป็นสิ่งที่คุ้นหูพวกเราอย่างมาก แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจว่าจะยื่นทำรีไฟแนนซ์บ้านดีหรือไม่ หลายคนกลับลังเล ไม่มั่นใจ และต้องมาทบทวนกันใหม่ว่า สิ่งที่ตัวเองจะทำนั้นมีประโยชน์จริงหรือเปล่า บทความเรื่องการรีไฟแนนซบ้านอันนี้ช่วยคุณได้แน่นอนครับ

What?

ก่อนอื่น เราต้องทำความเข้าใจกับการรีไฟแนนซ์บ้านว่าหมายความว่าอะไร จริงๆ แล้วก็ตรงตามชื่อทีเดียว เพราะมันคือการ “กู้เงินก้อนใหม่” เพื่อมา “ปิดยอดหนี้เดิม” โดยเจ้าหนี้รายใหม่ของคุณจะถูกเปลี่ยนเป็นสถาบันการเงินอื่น ใช่ครับ การรีไฟแนนซ์บ้านก็ยังทำให้คุณเป็นหนี้อยู่เหมือนเดิม ต่างกันที่เปลี่ยนเจ้าหนี้นั่นเอง

Why?

แล้วเช่นนั้น เราจะทำรีไฟแนนซ์บ้านกันไปทำไม?

เหตุผลก็เพราะว่า เมื่อคุณยื่นขอสินเชื่อใหม่ เงื่อนไขอะไรๆ ก็เปลี่ยนไป โดยหลักแล้ว ประโยชน์ของการยื่นรีไฟแนนซ์บ้านคือ หนึ่งคุณจะได้อัตราดอกเบี้ยบ้านที่ดีขึ้น โดยในปัจจุบันสถาบันการเงินหลายแห่งมีโปรโมชั่นสำหรับการรีไฟแนนซ์บ้านที่คุ้มค่ามากๆ ซึ่งหากคุณเลือกผ่อนค่างวดเท่าเดิม หนี้คุณก็จะหมดเร็วขึ้น หรือ สอง ในกรณีที่คุณเริ่มรู้สึกว่าผ่อนค่างวดต่อเดือนแบบเดิมไม่ไหว คุณสามารถขอยืดระยะเวลาการกู้ซื้อบ้านออกไปได้จากการทำรีไฟแนนซ์บ้าน สิ่งนี้ก็จะช่วยลดภาระค่างวดผ่อนต่อเดือนลงได้  และสามการยื่นขอสินเชื่อบ้านใหม่ คุณอาจจะได้เงินส่วนต่างมาใช้จ่ายเพิ่มขึ้น

When?

การรีไฟแนนซ์บ้านนิยมทำกันทุก 3 ปี ด้วยเหตุผลหลักๆ 2 ประการคือ โปรโมชั่นดอกเบี้ยบ้านของสถาบันการเงินมักจะมีอายุราว 3 ปี หมายถึงว่า หากหมดช่วงนี้ไปแล้ว ดอกเบี้ยบ้านของคุณก็มีโอกาสจะสูงขึ้น และข้อสำคัญอีกข้อหนึ่งก็คือ สัญญาส่วนใหญ่มักจะระบุไว้ว่า หากไถ่ถอน (หรือปิดยอดหนี้) ก่อน 3 ปี คุณก็จะต้องจ่ายค่าปรับจำนวนหนึ่ง

แต่อันที่จริง ไม่ต้องรอให้ถึง 3 ปีก่อนแล้วค่อยทำรีไฟแนนซ์บ้านก็ได้นะครับ ลองตรวจสอบสัญญาของคุณให้ดี แล้วลองยื่นของทำรีไฟแนนซ์บ้านล่วงหน้าราว 2 – 3 เดือน เพื่อให้สถาบันการเงินมีเวลาจะดำเนินการด้านเอกสารและประเมินมูลค่าสินทรัพย์ของคุณ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกของตัวคุณเองด้วย

How?

คนที่กำลังผ่อนบ้านควรทำรีไฟแนนซ์บ้านทุกคนหรือไม่?

คำตอบคือ ไม่จำเป็นครับ เพราะจุดประสงค์ของการทำรีไฟแนนซ์บ้าน ก็เพื่อให้ภาระการผ่อนของเราเบาลง ซึ่งหากไม่เป็นเช่นนั้น ก็อย่าเสียเวลาไปทำเลยครับ ลองคำนวณผ่อนบ้านดูง่ายๆ ว่า หลังจากหมดโปรโมชั่นไปแล้ว 3 ปี (คือปีที่ 4 – 6) เราต้องจ่ายเงินให้สถาบันการเงินรายเดิมเป็นยอดสุทธิเท่าไหร่บ้าง แล้วก็เปรียบเทียบกับอัตราดอกเบี้ยบ้านใหม่ว่า เราต้องจ่ายให้สถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้รายใหม่เท่าไหร่ ซึ่งก็ต้องน้อยกว่าเดิมนะครับ

ทั้งนี้อย่าลืมว่า การทำรีไฟแนนซ์บ้านนั้นไม่ฟรี เพราะต้องมีค่าใช้จ่ายปลีกย่อยอีกหลายประการด้วยกัน (ไม่นับว่าเราต้องเตรียมเอกสารต่างๆ ให้วุ่นวายอีก)

แล้วทำอย่างไรที่เราถึงจะได้รีไฟแนนซ์บ้านแบบสบายใจสบายตัว

อันดับแรกคือ คุณต้องขยันครับ โดยการหาข้อมูลดอกเบี้ยบ้านและโปรโมชั่นต่างๆ ของสถาบันการเงินอื่นๆ มาเปรียบเทียบกันและเลือกตัวเลือกที่ดีที่สุด ย้ำครับ คุณต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดเท่านั้น เพื่อให้ภาระการผ่อนบ้านของคุณเบาลง ตัวเลือกที่ดีนั้นต้องพิจารณาทั้ง อัตราดอกเบี้ย โปรโมชั่นพิเศษ และการงดเว้นค่าธรรมเนียมบางรายการครับ

ค่าใช้จ่ายปลีกย่อยที่คุณต้องจ่ายเมื่อดำเนินการรีไฟแนนซ์บ้านมีดังนี้

• ค่าธรรมเนียมการขอเอกสารสรุปยอดหนี้เงินกู้ (ขึ้นอยู่กับนโบยายของแต่ละสถาบันการเงิน)
• ค่าเบี้ยปรับกรณีปิดภาระหนี้ก่อนกำหนด (หากไถ่ถอนก่อนกำหนดในสัญญา)
• ค่าจัดการสินเชื่อตามสัญญาใหม่
• ค่าธรรมเนียมสำรวจและประเมินหลักประกัน
• ค่าอากรแสตมป์
• เบี้ยประกันอัคคีภัย
• ค่าจดจำนอง  เป็นต้น

แม้การรีไฟแนนซ์บ้านนั้นจะเป็นวิธีที่ทำให้คุณผ่อนบ้านอย่างมีความสุขมากขึ้น แต่คุณต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนถึงความคุ้มค่าก่อนที่จะตัดสินใจนะครับ ข้อดีอีกอย่างคือ คุณจะทำสักกี่รอบก็ได้ (ทำทุก 3 ปีก็ได้ หากคุณขยันพอ)

ถ้าอยากรู้เรื่องการรีไฟแนนซ์บ้านให้ละเอียดกว่านี้ ลองปรึกษาเพื่อนสนิททางการเงินของ Baania ได้เลยครับ ตอนนี้เห็นว่ามีข้อเสนอดีๆ และฟรีค่าธรรมเนียมหลายรายการให้ด้วย ... อยากผ่อนบ้านสบายขึ้นคลิ๊กเลย