เมื่อชีวิตและความฝันต้องไปต่อ แต่สภาพคล่องทางการเงินกลายเป็นอุปสรรคขนาดใหญ่ นอกจากจะหันมาพิจารณาถึงรายรับ-รายจ่าย ตลอดจนเลิกโทษว่าตัวเองไม่มีวินัยทางการเงินแล้ว การนำอสังหาริมทรัพย์อย่างบ้าน คอนโด และที่อยู่อาศัยไปจำนองก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกดี ๆ ที่เจ้าของบ้านสามารถแปลงทรัพย์สินเป็นทุนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ใช้เวลาไม่นานเหมือนการขาย และมีโอกาสได้เงินก้อนเพื่อนำไปเสริมสภาพคล่องต่อได้ ที่สำคัญ เรายังมีสิทธิ์ความเป็นเจ้าของอยู่ในทรัพย์สินอีกด้วย 

ซึ่งสำหรับใครที่กำลังวางแผนอยากเปลี่ยนบ้านให้เป็นเงินทุน แต่ไม่รู้ว่าการจำนองทรัพย์สินมีรายละเอียดใดที่ต้องพิจารณาบ้าง เดี๋ยว Baania จะอธิบายให้ฟังแบบครบทุกเรื่องที่ควรรู้เอง! 

เมื่อพูดถึงการนำบ้านไปจำนอง เจ้าของบ้านหลาย ๆ คนอาจรู้สึกกังวลอยู่ไม่น้อย เนื่องจากเคยได้ยินถึงการโดนยึดบ้านจากการจำนอง แต่ในความเป็นจริงแล้ว หากมีเงินไม่พอใช้ หรือ หมุนเงินไม่ทัน การจำนองบ้านเป็นอีกหนึ่งวิธีแปลงสินทรัพย์เป็นทุนได้

ในเชิงความหมายแล้ว การจำนอง คือ นิติกรรมแบบหนึ่งซึ่งเป็นหลักค้ำประกันว่า ผู้จำนองจะชำระหนี้ให้แก่ผู้รับจำนอง และแม้ว่าผู้จำนองจะผิดนัดชำระหนี้ ทรัพย์ที่นำมาจำนองนั้นจะยังไม่ตกเป็นของผู้รับจำนองในทันที แต่ต้องผ่านกระบวนการฟ้องร้องบังคับคดีให้ทางศาลยึดทรัพย์ก่อนเท่านั้น จากนั้นทรัพย์จะถูกนำไปขายทอดตลาดเพื่อให้ผู้จำนองนำเงินมาชำระหนี้

หากกล่าวโดยสรุป ผู้รับจำนองไม่สามารถยึดทรัพย์ที่นำมาค้ำประกันได้โดยตรง แต่เป็นการบังคับให้ผู้จำนองซึ่งมีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์นั้น นำทรัพย์ออกขายเพื่อหาเงินมาชำระหนี้ นอกจากนี้ การจำนองอสังหาริมทรัพย์ยังมีข้อดีในเรื่องของการได้เงินก้อนใหญ่สามารถนำมาต่อยอดได้ในทันที และที่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบคือ แม้ว่าทรัพย์นั้นจะถูกนำไปจำนองแล้ว เจ้าของก็ยังสามารถครอบครองและใช้ประโยชน์ได้ตามปกติ ไม่ต้องส่งมอบหรือให้กรรมสิทธิ์แก่ผู้รับจำนอง เนื่องจากใช้ทรัพย์เป็นเพียงหลักประกันเท่านั้น

สำหรับอสังหาริมทรัพย์แล้ว ทรัพย์ที่สามารถจำนองได้ คือ ตัวบ้านเท่านั้น ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้ง บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม ห้องชุดพักอาศัย (คอนโดมิเนียม) และอาคารพาณิชย์ หรือบางกรณีอาจจะเป็นสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนไว้แล้วก็ได้ตามที่กฎหมายกำหนด แต่จะไม่ได้รวมถึงสิ่งของอื่นในบ้านแต่อย่างใด

รู้หรือไม่? “สินทรัพย์” กับ “ทรัพย์สิน” นั้นเป็นคำมีความหมายคล้ายแต่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง โดยสินทรัพย์ (Asset) จะให้ความหมายถึงสินทรัพย์ทั้งหมดที่บุคคลเป็นเจ้าของ อาจมีหรือไม่มีตัวตนก็ได้ แต่ทรัพย์สิน (Property) จะหมายถึงทรัพย์สินที่มีตัวตนเป็นส่วนใหญ่ มีราคาและถือเอาได้นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนบ้านเป็นเงินทุนอย่างการจำนองทรัพย์อาจไม่ได้เหมาะกับทุกคนเสมอไป ซึ่งการจะตัดสินใจได้ว่าเราเหมาะกับการจำนองทรัพย์หรือไม่นั้น สามารถพิจารณาได้จากข้อควรรู้ ดังนี้

จริงอยู่ว่า การจำนองเป็นการแปลงสินทรัพย์เป็นทุนที่ได้เงินก้อนใหญ่ แต่อย่างไรก็ดี สถาบันการเงินหลายแห่งจะให้สินเชื่อในอัตราที่สูง แต่ก็ไม่เต็มราคาประเมินของบ้าน โดยเฉลี่ยอาจจะอยู่ที่ 70-80% ด้วยปัจจัยปลีกย่อยอีกหลายอย่าง ฉะนั้นก่อนจะทำสัญญาจำนอง คุณต้องคำนวณเงินที่จำเป็นต้องใช้ และความสามารถในการชำระหนี้ให้ดี ไม่เช่นนั้น นอกจากปัญหาเดิมจะไม่ได้รับการแก้ไขแล้ว ยังเพิ่มปัญหาใหม่ขึ้นมาด้วย

ถึงเจ้าของบ้านอย่างเรา ๆ จะได้กรรมสิทธิ์ของบ้านหลังจากทำเรื่องจำนองไปแล้ว แต่ก็อย่าลืมคิดไว้เสมอว่า เมื่อนำทรัพย์ไปจำนองก็เท่ากับว่าคุณได้ปล่อยมือจากทรัพย์นั้นไปแล้วหนึ่งข้าง แต่ก็โชคดีที่การจำนองยังให้กรรมสิทธิ์คุณในทรัพย์อย่างเต็ม ๆ จนกว่าจะมีกระบวนการทางกฎหมายขึ้น ซึ่งก็แปลว่า คุณมีความเสี่ยงน้อยที่จะสูญเสียทรัพย์ไป และมีเวลาพอสมควรที่จะหาทางชำระหนี้เช่นกัน

บ้านของคุณเองในที่นี้ คือ บ้านที่คุณมีกรรมสิทธิ์ และปลอดภาระ ซึ่งก็หมายความว่า บ้านจะต้องไม่อยู่อยู่ระหว่างผ่อนชำระกับสถาบันการเงินใด จึงจะสามารถเปลี่ยนบ้านเป็นเงินทุนได้เหมือนที่ต้องการ 

เมื่อเงินไม่พอใช้ หรือมีปัญหาหมุนเงินไม่ทัน เจ้าของบ้านก็สามารถติดต่อเพื่อนหรือคนรู้จักเพื่อทำการจำนองสินทรัพย์ระหว่างบุคคลธรรมดาได้ แต่ถึงจะได้เงินก้อนมากเพียงใด Baania ก็อยากขอให้คุณลองพิจารณาดี ๆ ว่า คุณจะวางใจเอาบ้านแสนรักไปไว้ในมือคนอื่นได้มากน้อยขนาดไหน 

ซึ่งสำหรับใครที่ไม่อยากมีปัญหาส่วนตัวเรื่องเงินกับใคร ตัวเลือกที่น่าจะมั่นคงและสร้างความกังวลน้อยกว่าก็คือ สถาบันการเงิน โดยปัจจุบันสถาบันการเงินหลาย ๆ แห่งก็แข่งขันกันในด้านรับจำนองบ้าน ทำให้กระบวนการตั้งแต่การเตรียมเอกสาร ยื่นขอสินเชื่อ รออนุมัติ และนัดทำสัญญา สามารถเสร็จสิ้นได้ในเวลาอันรวดเร็ว เปลี่ยนบ้านเป็นเงินทุนให้คุณได้ไปต่อได้โดยไม่ต้องรอนานเพียงเตรียมเอกสารให้ครบและมีคุณสมบัติที่พร้อม อีกทั้งยังมีข้อได้เปรียบในด้านวงเงินกู้ที่สูง ระยะการผ่อนชำระยาว อัตราดอกเบี้ยพิเศษและระเบียบบังคับที่ชัดเจนอีกด้วย

จบลงไปแล้วกับทุกรายละเอียดที่เจ้าของบ้านควรรู้ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนบ้านเป็นเงินทุนด้วยการจำนองทรัพย์ จะเห็นได้ว่า บางครั้งการแปลงสินทรัพย์เป็นทุนก็ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอะไร หากเราเข้าใจรายละเอียดที่ถูกต้องทั้งหมด และหากคุณกำลังมองหาเพื่อนที่ให้คำปรึกษาทางการเงินแบบตรงไปตรงมาให้คุณได้แบบเต็มๆ แล้วล่ะก็ Baania ขอแนะนำ “สินเชื่อกรุงศรีโฮมฟอร์แคช” เปลี่ยนบ้านเป็นเงินก้อน สู้ทุกวิกฤต” ที่จะช่วยคุณจบปัญหาเงินไม่พอใช้ หมุนเงินไม่ทันด้วยการนำบ้านมาขอสินเชื่อที่คุณเลือกได้ คลิกที่รูปด้านล่างเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม