ที่ดินเป็นทรัพย์สินที่ใคร ๆ ก็อยากเป็นเจ้าของ นอกจากจะมีมูลค่าสูง เป็นการสร้างความมั่นคงให้ชีวิตแล้ว ยังเป็นเครื่องแสดงฐานะของคนในสังคมอีกด้วย การทำงานหนักเพื่อเก็บออมเงินไว้ซื้อที่ดินสักแปลงเป็นเรื่องใหญ่ของคนโดยทั่วไป เมื่อตัดสินใจซื้อที่ดิน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาข้อมูลให้รอบด้านก่อน ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการซื้อขาย การโอน และที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ ค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น ที่ผ่านมีหลายกรณีที่เกิดข้อพิพาทถกเถียง หรือถึงขั้นฟ้องร้องกันถึงโรงถึงศาล หากไม่อยากให้เกิดปัญหา ควรต้องรู้ก่อนว่า ค่าโอนที่ดิน ใครจ่าย เรื่องสำคัญที่ต้องรู้ก่อนซื้อที่ดิน
ก่อนการตัดสินใจซื้อที่ดิน เราต้องรู้ก่อนว่าที่ดินที่เราสนใจอยากซื้อ หรือตัดสินใจซื้อ เป็นที่ดินประเภทไหน ทั้งนี้ เพราะเอกสารสิทธิ์ที่ดินมีหลายประเภท และบางประเภทอาจทำให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง หากไม่ศึกษาข้อมูลให้ดีก็จะทำให้เราเสียเปรียบ ถูกหลอก หรือแม้กระทั่งถูกโกงได้ และอีกประการหนึ่งก็คือป้องกันไม่ให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายเสียประโยชน์ โดยจะมีหนังสือแสดงสิทธิ์ที่ดิน 4 ประเภท คือ
เป็นเอกสารใช้แสดงความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ที่สามารถซื้อ ขาย โอน จำนอง ค้ำประกันได้ตามกฎหมาย โดยขั้นตอนการโอนต้องยื่นคำร้องและจดทะเบียนการโอนกรรมสิทธิ์ ณ สำนักงานที่ดิน เพื่อให้ได้สิทธิ์การเป็นเจ้าของที่ดินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
เป็นเอกสารสิทธิ์ที่ทางราชการออกให้ เพื่อครอบครองที่ดินเป็นการชั่วคราว สำหรับให้ประชาชนได้นำที่ดินไปใช้ประโยชน์ภายในเวลาที่กำหนด โดยผู้ที่ได้รับเอกสารสิทธิ์ดังกล่าว ต้องนำที่ดินไปใช้ประโยชน์ตามที่ทางราชการกำหนดไว้ และหากภายในช่วงเวลานั้นไม่ได้ดำเนินการตามสิทธิ์ ทางราชการก็สามารถยกเลิกและตัดสิทธิ์ พร้อมกับนำไปมอบให้กับผู้อื่นได้
เป็นเอกสารรับรองจากทางราชการว่าให้ใช้ประโยชน์ในที่ดินได้ โดยเมื่อได้ใช้ประโยชน์ในที่ดินแล้ว ผู้ได้รับ น.ส.3 สามารถยื่นคำร้องขอออกโฉนดที่ดินได้ ซึ่งก็เท่ากับว่าจะได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์โดยสมบูรณ์หลังจากที่มีการออกโฉนดที่ดินแล้ว สามารถนำที่ดินไปซื้อ ขาย โอน และจำนองได้
เป็นเอกสารประกอบการสอบสวนเพื่อออกโฉนดที่ดิน ซึ่งหมายถึงการสำรวจรังวัดที่ดิน มีผู้ครอบครองที่ดินเป็นผู้ชี้แนวเขต โดยเจ้าหน้าที่ที่ดินจะสอบสวนรายละเอียดว่าใครเป็นเจ้าของ ได้ที่ดินมาอย่างไร เมื่อใด มีหลักฐานเอกสารหรือไม่ หากไม่มีผู้คัดค้าน เจ้าหน้าที่ที่ดินก็ใส่ชื่อผู้แสดงตนหรือผู้ครอบครองที่ดิน พร้อมกับบันทึกรายละเอียดลงในใบไต่สวน และนำไปใช้ประกอบเป็นหลักฐานในการขอออกโฉนดที่ดินนั่นเอง
ค่าธรรมเนียมในการโอนที่ดิน เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในวันนัดหมายโอนกรรมสิทธิ์ ส่วนจะมีอะไรบ้าง จำนวนมากน้อยเท่าใด ก็ขึ้นอยู่กับขนาดที่ดิน และการตกลงกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย จึงจำเป็นจะต้องตกลงกันให้ชัดเจนว่า ใครจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย ส่วนไหนบ้าง เพราะค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นมีหลายประเภทด้วยกัน หากไม่ตกลงกันให้แน่นอนก็จะทำให้เกิดปัญหาตามมา
อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการโอนที่ดินจะมีหลายประเภท แตกต่างกันตามรูปแบบการโอน โดยมีรายละเอียด ดังนี้
จะมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ค่าธรรมเนียมการโอน ค่าจดจำนอง ค่าอากรแสตมป์ ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ ค่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ในการตกลงซื้อขายที่ดิน มักจะมีคำถามที่จะต้องเกิดขึ้นทุกครั้งว่า ค่าโอนที่ดินใครควรเป็นคนจ่าย เพราะเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ประกอบการตัดสินใจ เพราะถือว่าเป็นต้นทุนราคาที่ดินด้วยนั่นเอง ซึ่งจริง ๆ แล้วคำว่าค่าโอน ประกอบไปด้วยค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ค่าโอน ค่าภาษี ค่าอากร ค่าธรรรมเนียม
ซึ่งในการซื้อขายที่ดินทั่วไปแล้ว ผู้ขายควรเป็นผู้ออกค่าโอน นอกจากค่าโอนยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าจดจำนอง ค่าภาษี ค่าธรรมเนียม ฯลฯ จะเป็นการตกลงกันเองว่าผู้ซื้อหรือผู้ขายจะเป็นคนรับผิดชอบ หรือจะแบ่งกันจ่ายคนละครึ่งก็ได้ ซึ่งที่สามารถทำเช่นนี้ได้ เนื่องจากไม่ได้กำหนดในกฎหมายว่าใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเหล่านี้ จึงทำให้อนุโลมได้ว่าผู้ซื้อและผู้ขายสามารถตกลงกันได้ จึงเท่ากับว่าก่อนการตัดสินใจก็ควรจะต้องทราบค่าใช้จ่ายเหล่านี้ให้ชัดเจนก่อน เพื่อป้องกันการเกิดปัญหากันในภายหลัง
ในการซื้อขายโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน ณ วันนัดหมายการโอนที่สำนักงานที่ดิน ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องเตรียมงบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น เช่น ค่าอากร ค่าธรรมเนียม ค่าภาษีเงินได้ ค่าจดจำนอง ซึ่งต้องคำนวณเบื้องต้นก่อน เพื่อจะได้เตรียมเงินเป็นค่าใช้จ่ายที่จะต้องใช้ให้พอดี หรือสำรองไว้กรณีฉุกเฉิน โดยมีรายละเอียดดังนี้
การเป็นเจ้าของที่ดินสักแปลง นอกจากต้องศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ รอบด้าน ก่อนตัดสินใจซื้อแล้ว ยังต้องรู้ถึงขั้นตอนว่า ค่าโอนที่ดิน ใครจ่าย เพื่อช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น ป้องกันปัญหาต้องเสียค่าโง่ เพื่อจะได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ มีโฉนดที่ดินเป็นทรัพย์สินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย