“วิธีปลูกผักสลัด” เรื่องที่ทำได้ไม่ยากและด้วยกระแสรักสุขภาพกำลังมาแรงมาก หลายคนเริ่มหันมาใส่ใจดูแลตัวเองด้วยการกินผักมากขึ้น แต่ผักตามท้องตลาดนั้นค่อนข้างมีสารพิษมาก และหากเป็นแบบออแกนิคก็ค่อนข้างราคาสูง ดังนั้นการปลูกไว้กินเองจึงเป็นอีกทางเลือกที่ประหยัดและปลอดภัย
สำหรับการปลูกผักสลัดนั้นสิ่งจำเป็นที่ต้องเตรียมคืออุปกรณ์ เมล็ดพันธุ์, ปุ๋ย, ดินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อผักสลัด โดยสิ่งเหล่านี้สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายสินค้าเกษตรทั่วไป
สำหรับการเพาะต้นกล้าในการปลูกผักสลัดแบบง่ายๆ นั้น ให้นำเมล็ดพันธุ์ลงไปแช่ในแก้วที่ใส่น้ำสะอาด แช่ทิ้งไว้ 1 คืนหรือไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง เมื่อเมล็ดลอยแล้วให้เทน้ำทิ้ง จากนั้นนำเมล็ดมาเพาะต่อในกระดาษทิชชูที่เปียกน้ำ นำไปวางใส่กล่องหรือถาดที่เตรียมไว้เพื่อเตรียมเพาะอีก 8 ชั่วโมงเมื่อรากของผักสลัดงอกแล้วให้นำไปปลูกในภาชนะที่เตรียมไว้ใส่ต้นกล้า
ในอดีตผักสลัดอาจนิยมอยู่ไม่กี่พันธุ์เท่านั้น แต่ด้วยกระแสรักสุขภาพมาแรงมาก ในบ้านเราจึงเริ่มเห็นผักสลัดหลากหลายมากขึ้น โดยผักสลัดที่นิยมในปัจจุบันมีถึง 9 พันธุ์ด้วยกัน ได้แก่
สำหรับวิธีปลูกผักสลัดลงดินให้มีรสชาติดีนั้น จะต้องมีสถานที่ในการปลูกที่ดี และใช้ปุ๋ยในอัตราส่วนที่เหมาะสม การปลูกนั้นทำได้หลากหลายวิธี ทั้งการปลูกลงดิน, ปลูกในโรงเรือน, ปลูกในแปลง และปลูกในอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่พอหาได้ การเลือกพื้นที่ปลูกควรคำนึงถึงต้นทุนและเป้าหมายเป็นหลัก หากว่าปลูกเพื่อครัวเรือน สามารถใช้อุปกรณ์ที่หาได้ง่ายปลูกเพื่อกินเองด้วยปริมาณที่พอเหมาะและการดูแลอย่างทั่วถึง ทำให้ผักสลัดที่ปลูกมีรสชาติที่ดีได้เช่นกัน
ถือเป็นกระแสที่กำลังมาแรงมาก เพราะขั้นตอนน้อยใช้ พื้นที่ไม่เยอะและปลูกได้ในภาชนะที่หลากหลาย ได้ผักสด กรอบอร่อย ปลอดสารพิษ มักนิยมปลูกลงในฟองน้ำ, ท่อ PVC, ขวดพลาสติก หรือภาชนะอื่น ๆ ที่อุ้มน้ำได้ ส่วนขั้นตอนการปลูกแบบไฮโดรโปนิกส์ จะต้องเพาะเมล็ดก่อนเหมือนวิธีการปกติ แต่จะต่างตรงที่เมื่อเมล็ดงอกแล้ว จะนำไปปลูกต่อในภาชนะที่เตรียมเอาไว้ ไม่ได้ปลูกลงดินนั่นเอง
ในการปลูกผักสลัดลงบนภาชนะขวดพลาสติกจะใกล้เคียงกับวิธีปลูกแบบไฮโดรโปนิกส์ นั่นคือใช้ขวดพลาสติกนำมาเจาะรู พร้อมเตรียมเมล็ดพันธุ์และกระดาษทิชชู เริ่มแรกในการเพาะเมล็ดให้ใช้กล่องพลาสติกที่มีฝาปิดมาเตรียมใส่ไว้ นำทิชชูที่ชุ่มน้ำมาวางเมล็ดพันธุ์เพื่อเตรียมปลูก จากนั้นปิดฝาให้สนิทป้องกันแสงส่องเมล็ดพันธุ์ ในระหว่างที่เพาะเมล็ดให้ค่อยหมั่นสังเกตความชุ่มชื้นของน้ำ อย่าให้กระดาษทิชชูแห้ง ให้เติมน้ำหล่อเลี้ยงไว้เสมอ เพราะหากขาดน้ำ เมล็ดจะไม่งอก ขั้นตอนในการเพาะเมล็ดนั้นมีความสำคัญมาก หากว่าทำไม่ดีรากอาจจะไม่งอก ทำให้อาจเสียเวลามาเพาะใหม่ ส่วนอุปกรณ์ในการปลูกสามารถหาได้จากร้านที่ขายสินค้าการเกษตร
การดูผลพืชผลถือเป็นส่วนสำคัญ เพราะหากปลูกไว้เฉย ๆ ไม่รดน้ำไม่ใส่ปุ๋ยก็จะทำให้ผักสลัดเฉาตาย ดังนั้นวิธีดูแลผักให้เจริญเติบโตคือ เมื่อใส่ปุ๋ยเรียบร้อยแล้วให้รดน้ำจนชุ่ม นำผักสลัดไปไว้ในที่ร่มเป็นเวลา 7 วัน ระหว่างนี้หมั่นตรวจหน้าดินอยู่เสมอ หากดูว่าดินขาดน้ำให้รีบรดน้ำ อย่าให้หน้าดินแห้ง ผักสลัดเป็นพืชที่ต้องการน้ำดังนั้นควรรดวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น
ต้นผักสลัดจะงอกหลังจากหยอดเมล็ดไปแล้ว 3-5 วัน และเมื่อครบ 7 วัน ใบจะงอกออกมา ให้นำถุงดินไปวางไว้ในที่ที่มีแสงแดดเข้าถึง จนกระทั่งครบ 40–50 วัน ผักจะโตเต็มที่พร้อมเก็บนำไปกินหรือขายแล้วแต่สะดวก เมื่อผักงอกแล้วควรเก็บในทันทีเพราะหากทิ้งไว้อาจทำให้ผักแก่มีรสชาติขมและแข็ง ในช่วงที่ผักกำลังเจริญเติบโตนั้นควรให้สารอาหารด้วยปุ๋ยทุกสัปดาห์ เพื่อให้ต้นผักเติบโตอย่างแข็งแรงไม่เป็นโรค
สำหรับ ‘วิธีปลูกผักสลัด’ นั้นก็มีอยู่หลากหลายแนวทาง ซึ่งสามารถปลูกแบบเป็นครัวเรือนกินเอง และยังต่อยอดเป็นอาชีพเสริมได้ด้วย หากมีพื้นที่หน้าบ้านพอที่จะปลูกได้ก็สามารถลองทำเป็นอาชีพเสริมอีกทางหนึ่งโดยปลูกครั้งละมากๆ เพื่อคุ้มค่าเวลาเก็บเกี่ยว เพราะว่าผักสลัดปลูกง่ายโตไว ใช้เวลาไม่นาน หากว่าใครเปิดธุรกิจร้านอาหารอยู่ ก็สามารถปลูกเพื่อนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการทำกับข้าวได้ เป็นการประหยัดงบประมาณได้มากทีเดียว